ขายฝากกับกู้ธนาคาร เลือกทางไหนดี?
11
Sep 24

การตัดสินใจเลือก ขายฝากกับกู้ธนาคาร เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะทั้งสองทางเลือกมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ลองมาเปรียบเทียบรายละเอียดกัน

ขายฝาก 

ขายฝาก คือ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งผู้ขายฝากสามารถซื้อทรัพย์สินนั้นกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามกฎหมาย โดยทั่วไปขายฝากจะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้ขายต้องการเงินด่วน
แต่ยังต้องการรักษาสิทธิในการซื้อทรัพย์สินนั้นคืน

  • ข้อดี:
    • ได้เงินเร็ว: กระบวนการอนุมัติและรับเงินรวดเร็วกว่าการกู้ธนาคาร
    • วงเงินสูง: มักจะได้วงเงินสูงกว่าการกู้ธนาคาร
    • ไม่ต้องมีเครดิตบูโรที่ดี: เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีประวัติเครดิตที่ดี
    • ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเติม: ใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นหลักประกัน
  • ข้อเสีย:
    • เสียกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินชั่วคราว: กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะโอนไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง จนกว่าจะไถ่ถอนคืน
    • ดอกเบี้ยอาจสูงกว่า: อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าการกู้ธนาคาร
    • มีความเสี่ยงสูง: หากไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ตามกำหนด อาจสูญเสียทรัพย์สินไป
    • ขั้นตอนยุ่งยาก: การทำสัญญาและไถ่ถอนทรัพย์สินมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า

ขายฝากกับกู้ธนาคาร เลือกทางไหนดี?

กู้ธนาคาร ขายฝากกับกู้ธนาคาร

กู้เงินธนาคาร คือ การที่บุคคลหรือธุรกิจทำการขอเงินยืมจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ โดยจะต้องชำระเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา

  • ข้อดี:
    • ดอกเบี้ยต่ำกว่า: โดยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าการขายฝาก
    • ผ่อนชำระได้นาน: มีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ยาวนาน
    • มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือก: ธนาคารมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
    • มีความน่าเชื่อถือ: ธนาคารเป็นสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ
  • ข้อเสีย:
    • ใช้เวลานาน: กระบวนการอนุมัติใช้เวลานานกว่า
    • ต้องมีเครดิตบูโรที่ดี: ธนาคารพิจารณาประวัติเครดิตของผู้กู้
    • ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน: อาจต้องมีหลักทรัพย์อื่นมาค้ำประกันเพิ่มเติม
    • วงเงินอาจจำกัด: วงเงินที่ได้รับอาจไม่สูงเท่าการขายฝาก

เมื่อไหร่ควรเลือกขายฝาก

  • ต้องการเงินด่วน: หากต้องการเงินก้อนโตและรวดเร็ว การขายฝากเป็นทางเลือกที่ดี
  • ไม่มีเครดิตบูโรที่ดี: สำหรับคนที่ไม่มีประวัติเครดิตที่ดี หรือมีประวัติเสีย
  • ไม่ต้องการผ่อนชำระนาน: หากต้องการปิดบัญชีให้จบเร็ว
  • ทรัพย์สินมีมูลค่าสูง: หากมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง

เมื่อไหร่ควรเลือกกู้ธนาคาร?

  • ต้องการดอกเบี้ยต่ำ: หากต้องการอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและผ่อนชำระได้นาน
  • มีเครดิตบูโรที่ดี: สำหรับคนที่มั่นใจในประวัติเครดิตของตัวเอง
  • ต้องการความมั่นคง: ธนาคารเป็นสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ

สรุป: การเลือก ขายฝากกับกู้ธนาคาร ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคล ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ

 

—————————————————–

Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ไถ่ถอนจำนอง-ขายฝาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
22
Mar 23
ไถ่ถอนจำนอง-ขายฝาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?

เพื่อนๆ หลายคนที่มีข้อสงสัยว่าถ้าต้องการ “ไถ่ถอน” จำนองและขายฝากต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรไหม ? เพราะว่าบางคนอาจจะมีความสามารถชำระหนี้หมดก่อนเวลาที่กำหนดไว้  ซึ่งการ ไถ่ถอนจำนอง หรือขายฝากนั้น ก็มีความแตกต่างกันแล้วแต่กรณีตามประเภทของการไถ่ถอน วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่า การไถ่ถอนจำนอง และขายฝาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ? ไปดูกันเลย การ ไถ่ถอนจำนอง คืออะไร คือ เจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของทรัพย์ ได้จดทะเบียนจำนองไว้เป็นหลักค้ำประกันในการชำระหนี้ ต่อมาได้ทำการชำระหนี้ที่จำนองไว้เสร็จสิ้นแล้ว เมื่อชำระหนี้หมดแล้ว ต้องไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองเพื่อแก้ไขเอกสารสิทธิว่าไม่มีการจำนอง หรือปลอดจำนองแล้วนั่นเอง วิธีการไถ่ถอนจำนอง มี 2 แบบ ผู้จำนอง และ ผู้รับจำนอง ไปที่สำนักงานที่ดิน เพื่อยื่นคำขอจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน พร้อมกัน ผู้ที่มีสิทธิในที่ดินหรือผู้มีสิทธิไถ่ถอนเพียงฝ่ายเดียว ไปที่สำนักงานที่ดิน นำหลักฐานที่ผู้รับจำนองได้ทำเป็นหนังสือหลังสัญญาจำนอง ฉบับผู้รับจำนองว่าได้มีการไถ่ถอนจากจำนองแล้ว มีการชำระหนี้ครบแล้ว ไปขอจดทะเบียนไถ่ถอน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ […]

อ่านเพิ่มเติม
12
Jul 24
บ้านแลกเงิน VS รถแลกเงิน แบบไหนดีกว่ากัน

ในยุคเศรษฐกิจที่ผันผวน หลายคนมองหาวิธีปลดล็อกศักยภาพของสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อนำมาใช้จ่ายยามจำเป็นต้องการ เงินด่วน  ” บ้านแลกเงิน ”  และ ” รถแลกเงิน ” กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม  แต่ทางเลือกไหนดีกว่ากัน?  บทความนี้  จะพาทุกท่านมาวิเคราะห์เชิงลึก เปรียบเทียบข้อดี  ข้อเสีย  ของทั้งสองตัวเลือก  เผยให้เห็นภาพรวม  ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด บ้านแลกเงิน เปรียบเสมือนการปลดล็อกศักยภาพของบ้าน บ้านแลกเงินคือ สินเชื่อที่ธนาคารหรือบริษัทแหล่งเงินทุนเสนอให้กับเจ้าของบ้านหรือคอนโดที่ปลอดภาระ  โดยลูกค้าสามารถนำบ้านหรือคอนโดมาจำนองกับธนาคารเพื่อแลกกับเงินก้อนโต โดยที่ลูกค้ายังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหรือคอนโดนั้นต่อไปได้  เปรียบเสมือนการเปลี่ยนบ้านที่เป็นสินทรัพย์นิ่ง  กลายเป็นเงินทุนหมุนเวียน  ยามต้องการใช้จ่าย  หรือต่อยอดธุรกิจ ข้อดีของบ้านแลกเงิน: ได้วงเงินกู้มากกว่า: โดยทั่วไป บ้านแลกเงินให้วงเงินกู้สูงถึง 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ในขณะที่รถแลกเงินให้วงเงินกู้สูงสุดประมาณ 70% ของราคาประเมินรถ ดอกเบี้ยถูกกว่า: อัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านแลกเงินกับ Property4cash ต […]

อ่านเพิ่มเติม
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ อัตราการดูดซับ
19
Dec 22
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ ‘อัตราการดูดซับ’

หลายต่อหลายครั้งเราเห็นคำว่า อัตราการดูดซับ ปรากฏบนข่าว ซึ่งบางทีก็อาจสร้างความสงสัยให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้องสงสัยกันค่ะ อัตราการดูดซับ หรือ Absorption Rate คือ ดัชนีชี้วัด ‘ความต้องการ’ หรือ ‘อุปสงค์’ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่าในทำเลนั้นๆ หรือ ตลาดของอสังหาฯ แต่ละประเภท เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยการนำหน่วยที่ขายได้ หารด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดที่โครงการมี ยิ่งค่าสูง แสดงว่ายังเป็นที่ต้องการมาก อัตราการดูดซับนี้ เป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะธุรกิจ (Business Expectation Index) ซึ่งโดยส่วนมากทางภาครัฐจะเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลตัวเลขเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูล เพื่อให้เห็นถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของเศรษฐกิจในประเทศ และติดตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ในบางครั้ง ทางผู้พัฒนาอสังริมทรัพย์เองก็มีการเก็บรวมรวบข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการของตน เพื่อคำนวณออกมาเป็นอัตราการดูดซับเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ครึ่งแรกของปี 2565 อัตราการดูดซับของที่อยู่อาศัยทุกประเภท ต่ำสุดในรอบ 5 ปี สำหรับบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด อัตราการดูดซับอยู่ท […]

อ่านเพิ่มเติม