สินเชื่อ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กับมีหลักประกัน ต่างกันอย่างไร?
23
Apr 25

วันนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหา ชวนมาไขข้อสงสัย สินเชื่อ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กับมีหลักประกัน ต่างกันอย่างไร?

แล้ว สินเชื่อแบบไหน ที่เหมาะกับคุณ ต้องยอมรับว่า… ในยุคที่การเงินมีความสำคัญ สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุน โดยไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินมาค้ำประกัน บทความนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหา จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ สินเชื่อไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อไม่ต้องมีหลักประกันอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกสินเชื่อที่เหมาะกับความต้องการของคุณได้อย่างมั่นใจ

 

สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คืออะไร?

สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ การกู้ยืมเงินที่ไม่ต้องใช้ทรัพย์สินมาค้ำประกัน โดยสถาบันการเงินจะพิจารณาจากรายได้ประจำและความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก สินเชื่อไม่ต้องมีหลักประกันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำแต่ไม่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง หรือไม่ต้องการนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน

ข้อดี ของสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการเงินทุน โดยมีจุดเด่นสำคัญดังนี้

  • ไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน
  • ไม่จำเป็นต้องมีบ้าน ที่ดิน หรือทรัพย์สินมูลค่าสูงมาค้ำประกัน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีทรัพย์สิน หรือไม่ต้องการเสี่ยงกับการนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน
  • รับเงินเร็ว
  • การอนุมัติไว สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากไม่ต้องผ่านขั้นตอนการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ ทำให้สามารถรับเงินได้เร็วกว่าสินเชื่อที่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน*

ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • สินเชื่อไม่ต้องมีหลักประกันมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เนื่องจากไม่มีค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าจดจำนอง หรือค่าเบี้ยประกันทรัพย์สิน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำสัญญา

สินเชื่อ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กับมีหลักประกัน ต่างกันอย่างไร?

 

สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คืออะไร?

สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ การกู้ยืมเงินที่ต้องนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน เช่น บ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ โดยสถาบันการเงินจะประเมินมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อกำหนดวงเงินกู้ ทำให้ได้รับวงเงินสูงและอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า

 

ข้อดี ของสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน การใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันมีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง

  • เสียดอกเบี้ยถูก เนื่องจากมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้สถาบันการเงินมีความเสี่ยงต่ำ จึงคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อย่างมาก โดยทั่วไปอาจต่ำกว่าถึง 50%
  • ได้วงเงินกู้สูง การมีหลักทรัพย์ค้ำประกันทำให้สามารถกู้ได้ในวงเงินที่สูงกว่าสินเชื่อไม่มีหลักประกันมาก บางกรณีอาจได้วงเงินสูงถึง 70-80% ของมูลค่าหลักทรัพย์
  • ผ่อนได้นานและยอดผ่อนต่อเดือนต่ำ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ สถาบันการเงินจึงให้ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนต่ำลง ไม่เป็นภาระมากเกินไป

สรุปส่งท้าย ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ต่างก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกประเภทสินเชื่อจึงควรพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งความพร้อมของหลักทรัพย์ ความเร่งด่วนในการใช้เงิน และความสามารถในการผ่อนชำระ Property4Cash เงินด่วนอสังหา พร้อมให้คำปรึกษาและบริการสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ต้องการเงินด่วน ก็ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Property4Cash เงินด่วนอสังหา เลยค่ะ…

 


Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ฉุดกำลังซื้อ กระทบอสังหาฯ ไทยหรือไม่?
13
May 25
กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา กระทบหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจโตช้า และเป็นกับดัก ฉุดรั้งกำลังซื้ออสังหาในไทยหรือไม่?

          กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา กระทบหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจโตช้า และเป็นกับดัก ฉุดรั้งกำลังซื้ออสังหาในไทยหรือไม่?           ในปี 2024–2025 ประเด็น “กำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา” หรือ U.S. Trade Tariffs ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้แรงกดดันจากสงครามการค้ากับจีนและนโยบายปกป้องภาคการผลิตภายในประเทศ อาจมีการ ปรับเพิ่มภาษีนำเข้า สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูง รถยนต์ไฟฟ้า และวัสดุก่อสร้างบางชนิด           หลายคนตั้งคำถามว่า… เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเศรษฐกิจไทย? และจะกระทบกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศเราหรือไม่? บทความนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหาได้สรุปให้ชัดๆ แบบเข้าใจง่าย ดังนี้ 1.กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา กระทบเศรษฐกิจโลกอย่างไร?          มาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจีน สูงขึ้นทันที                ➡️ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain) ชะงัก                ➡️ ต้นทุนสินค้าขยับสูงขึ้นทั่วโลก                ➡️ ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีภาระจ่ายเพิ่ม ขณะที่รายได้ไม่เพิ่มตาม ผลที่ตามมา คือ กำลังซื้อในสหรัฐฯ ลดลง การนำเข้าสินค้าจากต่า […]

อ่านเพิ่มเติม
ที่ดินตาบอด จำนอง - ขายฝาก ได้ไหม ?
11
Apr 23
ที่ดินตาบอด จำนอง – ขายฝาก ได้ไหม ?

หลายๆ ครั้ง มักจะมีเพื่อนๆ ถามเข้ามาว่า ที่ดินตาบอด สามารถนำมา จำนอง หรือ ขายฝาก ได้หรือเปล่า บางคนก็ไม่แน่ใจว่าที่ดินที่ตัวเองถือครองอยู่นั้น เป็นที่ดินตาบอดหรือไม่ ก่อนอื่นเลยอยากจะชวนเพื่อนๆ มารู้จักที่ดินตาบอดกันเสียก่อน ว่าหมายถึงที่ดินแบบไหนกัน ที่ดินตาบอด หมายถึง ที่ดินที่ถูกแปลงอื่นล้อมรอบ ทำให้ไม่มีทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะประโยชน์ ที่เป็นทางที่ใช้สำหรับสัญจรทั้งทางบกและทางน้ำ จำเป็นต้องขอใช้ทางจากที่ดินคนอื่น โดยการขอแบ่งใช้ทางบนที่ดินคนอื่นนั้น เรามีอยู่ 2 วิธีหลักๆ คือ “ทางจำเป็น” และ “ภาระจำยอม” ทางจำเป็น ตามกฎหมายนั้น ให้สิทธิเจ้าของที่ดินในการขอ “ทางจำเป็น” จากที่ดินที่ล้อมรอบอยู่แปลงใดแปลงหนึ่ง เพื่อใช้เป็นทางออกสู่ทางสาธารณะได้ โดยจะเลือกได้เพียงทางเดียวเท่านั้น โดยผู้ที่มีสิทธิฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็น ต้องเป็น “เจ้าของที่ดิน” ซึ่งถูกปิดล้อมเท่านั้น ผู้เช่าหรือบุคคลอื่นไม่มีสิทธิ ทางภาระจำยอม หากมองด้วยตาเปล่า ก็ดูเหมือนจะคล้ายๆ กับทางจำเป็น เพราะว่าเป็นการขอใช้ทางชาวบ้านเขาเหมือนกัน แต่ ทางภาระจำยอม ก็มีข้อแตกต่างจาก ทางจำเป็น อยู่พอสมควร โดยการได้มาซึ่ง “สิทธิ” ในการใช้ท […]

อ่านเพิ่มเติม
17
Aug 24
รายละเอียดสัญญาขายฝากที่ดินที่ควรรู้ก่อนทำธุรกรรม สำหรับผู้รับขายฝาก และผู้ขายฝาก

รายละเอียด สัญญาขายฝากที่ดิน ที่ควรรู้ก่อนทำธุรกรรม สัญญาขายฝากที่ดิน เป็นสัญญาที่มีความสำคัญทางกฎหมายและเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่มีมูลค่า การทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ก่อนลงนามจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งผู้รับซื้อฝากและผู้ขายฝากควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ สิ่งที่ผู้รับซื้อฝากควรทราบ กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันทีที่ทำสัญญา แต่ผู้ขายฝากยังมีสิทธิไถ่ถอนที่ดินคืนได้ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา ระยะเวลาไถ่ถอน: กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนให้ชัดเจน โดยทั่วไปจะไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี จำนวนสินไถ่: คือจำนวนเงินที่ผู้ขายฝากต้องชำระเพื่อไถ่ถอนที่ดินคืน โดยจำนวนสินไถ่จะต้องไม่น้อยกว่าราคาที่ซื้อฝาก และดอกเบี้ยที่คิดจากราคาซื้อฝากตามอัตราที่กฎหมายกำหนด (ปัจจุบันไม่เกิน 15% ต่อปี) ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน: ผู้รับซื้อฝากเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนสัญญาขายฝากที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน ภาษีที่เกี่ยวข้อง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนี้ครบถ้วนแล้ว การตรวจสอบเอกสาร: ต […]

อ่านเพิ่มเติม