ค่าโอน
30
Dec 22

ถึงกับต้องร้องเสียงหลงกันว่า ไอ้หยา~ เมื่อ ค่าโอน อสังหาฯ ปีหน้า แพงขึ้นถึง 100 เท่า!! หลังมีมิติ ครม. ออกมาว่า ในปี 2566 นี้ จะมีมาตรการช่วยเหลือลดค่าโอนให้เพียง 1% เท่านั้น เทียบจากปี 2565 ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการช่วยเหลือตรงนี้ เสียค่าโอนกันเพียงแค่ 0.01% จากปกติ 2% เท่านั้นเอง

จากข่าวที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เห็นชอบมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ด้วยมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% 
  2. ลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% 

สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (คอนโด) ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2 เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา (แหล่งที่มาข่าว https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/62863)

หมายความว่า.. หากเราจะซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท 

จากเดิมปี 2565 เราจะเสียค่าโอน 0.01% หรือ 300 บาท เพียงเท่านั้น แต่ในปี 2566 ที่จะถึงนี้จะถูกปรับขึ้นเป็น 1% หรือเท่ากับเราต้องเสียค่าโอนเพิ่มเป็น 30,000 บาททันที ส่วนค่าจดจำนองสำหรับคนที่ยื่นกู้กับธนาคารนั้น ยังคงได้ส่วนลด 0.01% เทียบเท่าปี 2565 นี้ตามเดิม 

ซึ่งหากเทียบกับปี 2564 แล้ว ต้องถือว่าเรายังคงได้รับส่วนลดค่าโอนถูกลงอยู่จริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ว่าในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีแบบนี้ การปรับค่าโอนเพิ่มขึ้นเป็น 1% นั้นดูจะใจร้ายกับเราไปหน่อย T^T  

นอกจากนี้แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ค่าโอนสูงขึ้นนั้นยังมีเรื่องของ ราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ (2566-2569) 

เมื่อกรมธนารักษ์ปรับขึ้นราคาประเมินที่ดินใหม่รอบปี 2566-2569 โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ซึ่งราคาเฉลี่ยจะสูงขึ้นถึง 7-8% ส่วนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น 20-30% กันเลยแม่เจ้า!!!!!

 

มาตรการลดค่าโอน เกี่ยวกับ จำนอง และ ขายฝาก ไหม ? 

เป็นคำถามที่สงสัยและถามเข้ามากันเยอะมาก แต่ต้องบอกเลยว่า “ไม่เกี่ยวจ้าาาา” ค่าจดทะเบียน การโอนนั้น เขาช่วยเหลือเฉพาะนิติกรรม “ซื้อขาย” เท่านั้น ส่วน ค่าจดจำนอง ก็เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ที่ยื่นของสินเชื่อกับธนาคารหรือกู้แบงค์เพื่อซื้ออสังหาฯ เป็นคนละส่วนกันกับ “จำนอง” นั่นเอง

แต่จะมีผลกับนิติกรรม “ขายฝาก” ตรงที่ ราคาประเมินที่ดิน รอบใหม่นี่แหละ! เพราะว่าการทำขายฝากนั้นมี ค่าโอน ค่าธรรมเนียมที่อ้างอิงกับราคาประเมินที่ดินอยู่ด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายตรงนี้สูงขึ้นตามไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ลำพังการขายฝากทั่วไปอาจจะไม่ได้เดือดร้อนมากนัก แต่สำหรับคนที่ทำขายฝากไว้อยู่แล้ว ต้องการเปลี่ยนมือหานายทุนใหม่มารับ บอกเลยว่าหนัก!! เพราะนอกจากจะต้องเสียค่าธรรมเนียมไถ่ถอนขายฝากแล้ว ยังต้องเสียค่าธรรมเนียมขายฝากใหม่อีกครั้งในราคาประเมินที่สูงขึ้นตามไปอีกด้วย 

——————————————————-

สนใจ จำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง 

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

 

ค่าโอน

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ไม่ใช้ประโยชน์ที่ดิน 10 ปี ถูกยึดคืนจริงหรือ?
21
Jul 25
กฎหมายที่ดิน หาก ไม่ใช้ประโยชน์ที่ดิน 10 ปี ถูกยึดคืนจริงหรือ?

กฎหมายที่ดิน หาก ไม่ใช้ประโยชน์ที่ดิน 10 ปี จะถูกยึดคืนจริงหรือ?            ในยุคที่ที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่อง “การถูกยึดคืนที่ดินหากปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 10 ปี โดยไม่ใช้ประโยชน์” แต่เรื่องนี้จริงหรือไม่? กฎหมายไทยมีบทบัญญัติไว้ว่าอย่างไร? มาทำความเข้าใจให้ชัดเจน ก่อนที่คุณจะเสี่ยงเสียสิทธิ์ในที่ดินโดยไม่รู้ตัว   กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน           ประเด็นนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ พระราชบัญญัติให้ใช้ประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2522 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 โดยมีแนวคิดหลักคือรัฐต้องการกระตุ้นให้ประชาชนใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม           ตาม มาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน หากเจ้าของที่ดินได้รับเอกสารสิทธิ์ (เช่น โฉนดที่ดิน) แล้ว ปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 10 ปี โดยไม่มีการทำประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถแสดงเหตุผลอันสมควรได้ รัฐมีอำนาจ “เพิกถอนเอกสารสิทธิ์” ได้ โดยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ใช่ถูกยึดคืนทันที   “ไม่ใช้ประโยชน์” หมายถึงอะไร?           การไม่ใช้ประโยชน์ในที่ดิน หมายถึง การปล่อยทิ้งร้าง โดยไม่มีการ […]

อ่านเพิ่มเติม
9
Jan 23
รับจำนอง ต้องเสีย “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” หรือไม่

หากเราทำการรับจำนอง จะต้องเสียภาษีหรือไม่? และถ้าจะต้องเสีย จะต้องชำระภาษีอย่างไร? เป็นคำถามที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นมือใหม่ในวงการนี้ เรื่องภาษี เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคนมากๆ แต่บางทีก็เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากสำหรับหลายๆ คน แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนได้ทราบ และจะได้จัดการกับเงินได้ ที่เราได้มาจากการรับจำนองได้อย่างถูกต้องกันค่ะ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ กรณีหากรับจำนอง รายได้ของท่านคือรายได้จาก ดอกเบี้ยรับ ซึ่งมีภาระภาษีดังนี้ กรณีผู้จ่ายเงิน หักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้อัตรา 15 % สามารถเลือกไม่นำเงินได้มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีประจำปีได้ กรณี ไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย อัตรา 15% จะต้องนำมารวมเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีต้องเสียภาษีประจำปี ไม่สามารถหักรายจ่ายได้ เท่ากับว่าต้องนำรายได้ดอกเบี้ย มาหักค่าลดหย่อน และคำนวณภาษีเงินได้เลย แต่ถ้าเป็นกรณีการขาย รายได้ของท่านคือ รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีภาระภาษีดังนี้ ต้องนำรายได้จากการขายทั้งหมดในปีมารวมเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษี ต้องหักรายจ่ายตามความจำเป็นและสมควร เช่น ต้นทุนในการซื้อที่ด […]

อ่านเพิ่มเติม
วิกฤตหนี้กระทบอสังหา
4
Sep 25
วิกฤตหนี้กระทบอสังหา อย่างไร?

วิกฤตหนี้กระทบอสังหา อย่างไร?           ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับปัญหา “วิกฤตหนี้ภาคครัวเรือน” ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังยุคโควิด-19 ที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างไม่เต็มที่ แต่ภาระหนี้สินของประชาชนกลับเพิ่มขึ้นสวนทาง ส่งผลให้เกิดคำถามว่า… “ปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ส่งผลกระทบอย่างไรกับตลาดอสังหาริมทรัพย์?”           บทความนี้จะพาไปวิเคราะห์แบบเจาะลึกว่า วิกฤตหนี้ส่งผลถึงใคร อย่างไรบ้างในแวดวงอสังหาฯ ทั้งฝั่งผู้ซื้อ ผู้ขาย และนักลงทุน หนี้ครัวเรือนพุ่ง ส่งผลต่อ “กำลังซื้อ” โดยตรง           หนึ่งในผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดคือ กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เพราะต้องนำรายได้ส่วนใหญ่ไปใช้หนี้ ไม่เหลือพอสำหรับการซื้อบ้านหรือคอนโดใหม่ ส่งผลให้: ยอดจองโครงการใหม่ลดลง ผู้กู้ขอสินเชื่อไม่ผ่าน เพราะมี ภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt-to-Income Ratio) สูงเกินเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ความสามารถในการผ่อนระยะยาวลดลง สินเชื่อที่อยู่อาศัย “ตึงตัว” จากมาตรการคุมเข้มของธนาคาร           เมื่อหนี้ครัวเรือนเพิ่ม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินต้องระวังการปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น […]

อ่านเพิ่มเติม