มาตรการ LTV
15
May 25

          ในปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และกำลังซื้อที่ลดลง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงมีการปรับมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ มาตรการ LTV  (Loan-to-Value) เพื่อกระตุ้นการซื้อ-ขายในตลาดบ้านและคอนโด

 

          ผู้สนใจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือ 1 หรือบ้านมือ 2 ต้องรู้บ้าง? ว่าในปีนี้มีมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อคุณเยอะมาก เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในการซื้อขายที่อยู่อาศัย โดยจะมี 2 มาตรการที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ได้แก่ “การผ่อนปรนมาตรการ LTV” และ “มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนบ้านและจดจำนองที่ดิน” ที่คุณมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น

 

ทำความรู้จักกับ LTV

          LTV (Loan-to-Value Ratio) คือ อัตราส่วนระหว่างวงเงินที่ธนาคารอนุมัติให้กู้ กับมูลค่าหลักทรัพย์ที่นำมาจำนอง (เช่น บ้านหรือคอนโด) โดยทั่วไป LTV ใช้ในการควบคุมความเสี่ยงของสถาบันการเงิน และเป็นเครื่องมือหนึ่งในการควบคุมความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์

🔍 ตัวอย่าง: ถ้าคุณต้องการซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท แล้วธนาคารให้กู้ 2.7 ล้านบาท เท่ากับว่า LTV = 90%

 

เทียบการผ่อนปรนมาตรการ LTV กับแบบเดิมมีผลอย่างไร?

          เกณฑ์ในการกู้ของมาตรการ LTV แต่เดิมจะแตกต่างกันกับหลังจากผ่อนปรนมาตรการ LTV ที่มีเกณฑ์การกู้ของแต่ละสัญญาไม่เท่ากัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

LTV แบบเดิม

  • เกณฑ์ของบ้านที่มีมูลค่าน้อยกว่า 10 ล้านบาท
    • สัญญาหลังที่ 1 หรือการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก จะสามารถกู้ได้เต็ม 100% และยังสามารถกู้ค่าตกแต่งบ้านได้อีก 10%
    • สัญญาหลังที่ 2 หรือการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สอง จะสามารถกู้ได้ 90% หลังจากผ่อนสัญญาที่ 1 มากกว่า 2 ปี และไม่สามารถขอกู้ค่าตกแต่งบ้านได้
    • สัญญาหลังที่ 3 ขึ้นไป หรือการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สามขึ้นไป จะสามารถกู้ได้ 80% หลังจากผ่อนสัญญาที่ 1 ไม่เกิน 2 ปี และไม่สามารถขอกู้ค่าตกแต่งบ้านได้
  • เกณฑ์ของบ้านที่มีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท
    • สัญญาหลังที่ 1 หรือการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก จะสามารถกู้ได้ 90% และไม่สามารถขอกู้ค่าตกแต่งบ้านได้
    • สัญญาหลังที่ 2 หรือการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สอง จะสามารถกู้ได้ 80% และไม่สามารถขอกู้ค่าตกแต่งบ้านได้
    • สัญญาหลังที่ 3 ขึ้นไป หรือการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สามขึ้นไป จะสามารถกู้ได้ 70% และไม่สามารถขอกู้ค่าตกแต่งบ้านได้

 

LTV แบบอัปเดตใหม่

          รายละเอียดการผ่อนปรนมาตรการ LTV แบบล่าสุดปี 2568 จะแตกต่างจากแบบเดิม “ทุกสัญญาจะสามารถกู้ได้ 100% ไม่จำกัดมูลค่าบ้าน” ซึ่งสัญญาหลังที่ 1 ของบ้านที่มีมูลค่าน้อยกว่า 10 ล้านบาท จะพิเศษกว่าสัญญาอื่น ๆ ที่นอกจากจะสามารถกู้เต็มได้ 100% แล้ว ยังสามารถกู้ค่าตกแต่งบ้านเพิ่มได้อีก 10% ทำให้ผู้ที่สนใจจะซื้อไม่ว่าจะเป็นบ้านมือ 1 หรือบ้านมือ 2 “ไม่ต้องวางเงินดาวน์ในการซื้อบ้าน” โดยมาตรการ LTV แบบใหม่นี้จะเริ่มในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2569

การผ่อนปรนมาตรการ LTV ดีต่อใครบ้าง?

          จากการที่ทุกสัญญาสามารถขอกู้ได้ 100% ในการผ่อนปรนมาตรการ LTV ดีต่อผู้ที่มีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ขึ้นไป ไม่จำกัดว่าจะเป็นบ้านมือ 1 หรือบ้านมือ 2 เนื่องจากไม่ต้องวางเงินดาวน์ให้เป็นอุปสรรคในการซื้อบ้าน หรือผู้ที่ต้องการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซื้อบ้านมือ 2 เพื่อนำมาทำบ้านเช่า

 

มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง

          นอกจากจะมีการผ่อนปรนมาตรการ LTV แล้ว วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นี้ ยังมีอีกหนึ่งมาตรการที่เอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอีกด้วย คือ “ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง  0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบ้านมือ 1 และบ้านมือ 2 โดยมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจะสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ทั้งนี้จะต้องติดตามการอัปเดตรายละเอียดอย่างใกล้ชิดเพิ่มเติมอีกครั้ง

          หากคุณสนใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใดก็ตาม บ้านมือ 1 บ้านมือ 2 คอนโดมิเนียม หรือซื้อเพื่อการลงทุน เช่น การทำบ้านเช่า ควรทำการซื้อ-ขายในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไปแต่ต้องไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2569 เพื่อให้อยู่ในช่วงระยะเวลาของการผ่อนปรนมาตรการ LTV ไม่ต้องวางเงินดาวน์ และได้ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ทั้งนี้อาจต้องติดตามรายละเอียดหรืออัปเดตมาตรการอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

สรุปส่งท้าย มาตรการ LTV ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ ธปท. ใช้ควบคุมทั้งภาวะหนี้และความร้อนแรงของภาคอสังหาฯ แม้ว่า… การผ่อนคลายจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงสั้น แต่การกลับไปใช้มาตรการตามปกติ ก็ช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว ผู้ที่สนใจซื้อบ้านควรเตรียมความพร้อมด้านการเงินและศึกษาข้อมูลก่อนการจดจำนองอย่างละเอียด

 


Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

คู่สมรสไม่มากรมที่ดิน ขายฝาก- จำนองได้หรือไม่
30
Sep 23
คู่สมรสไม่มากรมที่ดิน ขายฝาก- จำนองได้หรือไม่

หลายๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยว่า ถ้าทำธุรกรรมขายฝาก จำนอง แล้วเกิดกรณีที่ คู่สมรสไม่มากรมที่ดิน จะสามารถทำขายฝาก จำนองได้หรือไม่ อย่างแรกเลย ถ้าทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างการสมรสแล้วนั้น ไม่ว่าจะใส่ชื่อใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ให้เรียกว่าเป็นสินสมรสก่อนได้เลย กรณีคู่สมรสไม่มากรมที่ดินจะไม่สามารถทำธุรกรรมจำนอง ขายฝากได้เลย เพราะเราต้องได้รับการยินยอมจากคู่สมรสด้วย ไม่ว่าจะทำจำนอง ขายฝาก หรือว่าซื้อขายเองก็ตาม ถ้าหากทั้งคู่เลิกกันแล้ว ก็ต้องทำเรื่องหย่าให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าไม่หย่าตามกฎหมายแล้ว ยังถือว่ายังเป็นคู่สมรสกันอยู่นะคะ ในกรณีถ้าคู่สมรสไม่สะดวกมา จะต้องมีหนังสือลงลายเซ็นยินยอมของคู่สมรส ยืนยันว่ายินยอมให้ทำธุรกรรมขายฝากหรือจำนอง พร้อมสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และทะเบียนสมรสให้เรียบร้อย และอาจจะถ่ายวิดีโอไว้ด้วย เพื่อเป็นการยืนยันในการทำขายฝาก จำนอง ซึ่งหนังสือยินยอมคู่สมรสทางกรมที่ดินจะมีให้บริการทุกสาขาทั่วประเทศ เห็นไหมคะเพื่อนๆ เมื่อเราจดทะเบียนสมรสแล้ว เวลาที่เราอยากทำธุรกรรมต่างๆ จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งจะต้องผ่านการยินยอมจากคู่สมรสเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การจดจำนอง ขายฝ […]

อ่านเพิ่มเติม
จริงหรือไม่? เช็คเครดิตบูโรบ่อยๆ ขอสินเชื่อไม่ผ่าน!!
28
Nov 24
จริงหรือไม่? เช็คเครดิตบูโรบ่อย ขอสินเชื่อไม่ผ่าน!!

จะขอสินเชื่อแต่ละทีก็ดูจะเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะไปหมด ไหนจะสลิปเงินเดือน ข้อมูลเครดิตบูโร หรือกระทั่งข้อมูลส่วนตัวต่างๆ แล้วถ้ายิ่งยื่นขอสินเชื่อพร้อมๆ กัน หลายธนาคารเอกสารที่ใช้ยื่นก็คงไม่น้อย ต้องกอปปี้ไว้หลายๆ ฉบับ แม้เอกสารจะครบถ้วน ก็ไม่ได้การันตีว่าจะขอสินเชื่อผ่าน…  และในกรณีที่เรา เช็คเครดิตบูโรบ่อยๆ จะขอสินเชื่อไม่ผ่านจริงหรอ?! วันนี้ Property4Cash มีคำตอบมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เครดิตบูโร คืออะไร? เครดิตบูโร คือ องค์กรหรือสถาบันที่เก็บรวบรวมข้อมูลเครดิตของบุคคลและนิติบุคคลที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต หรือผู้ให้สินเชื่อ โดยมีหน้าที่หลักในการจัดทำรายงานข้อมูลเครดิต (Credit Report) เพื่อให้สถาบันการเงินใช้ประเมินความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเมื่อลูกค้าขอสินเชื่อ ข้อมูลที่เครดิตบูโรเก็บ จะเป็น ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ วันเกิด ข้อมูลบัญชีสินเชื่อ เช่น ประเภทสินเชื่อ (บัตรเครดิต, สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อรถยนต์ ฯลฯ) วงเงินที่ได้รับอนุมัติ ยอดคงค้าง ปร […]

อ่านเพิ่มเติม
15
Aug 23
อยากได้วงเงินสูงต้องรู้! ทรัพย์แบบไหนถูกใจนักลงทุน

การขายฝากคือการนำโฉนดที่ดิน มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันทำสัญญาขายฝาก เพื่อรับเงินก้อนไว้ใช้จ่าย หรือ เป็นเงินทุนสำหรับขยายกิจการ แต่ใช่ว่าทุกการทำธุรกรรมขายฝาก จะได้รับวงเงินเต็มจำนวนตามมูลค่าของทรัพย์ที่นำมาขายฝากนะคะ เพราะบริษัทรับขายฝากหรือนักลงทุน จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติวงเงิน เพื่อให้ผู้ขายฝาก และ ผู้รับซื้อฝาก ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด วันนี้เราจะมาบอกปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ใช้พิจารณาการอนุมัติวงเงินกันค่ะ หากอยากได้วงเงินสูงๆ ก็ตามไปดูกันได้เลยค่ะ ลักษณะของอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ ลักษณะของอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่างกันก็เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลต่อการอนุมัติวงเงินขายฝาก เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จะได้รับวงเงินขายฝากสูงกว่าที่ดินเปล่า เพราะมีการคำนวณมูลค่าของที่ดินรวมกับสิ่งปลูกสร้างเข้าไปด้วย ตลอดจนบ้าน อาคารพาณิชย์ ที่สร้างใหม่ อยู่ในสภาพดี ก็มีโอกาสได้วงเงินที่สูงเช่นกัน ขนาดของอสังหาริมทรัพย์ ถือว่าเป็นหลักเกณฑ์ตามปกติที่ อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ จะได้วงเงินขายฝากสูงกว่า อสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก เช่น หอพัก โรงแรมรีสอร์ต ที่ได้วงเงินสูงกว่า บ้านเดี่ยว เพราะเ […]

อ่านเพิ่มเติม