23
Sep 23

“ความน่าเชื่อถือ” มักเป็นสิ่งแรกที่เรามองหาเมื่อต้องการจะซื้อสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่าง
ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างการซื้ออาหาร ไปจนถึงการลงทุนในระดับที่สูงขึ้น
เพราะมันเป็นเครื่องการันตีว่าการตัดสินใจของเรานั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและคุ้มค่ากับราคาเสียไป

สำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก
บางครั้งอาศัยความรู้อย่างเดียวอาจไม่พอ ยังต้องอาศัย “ประสบการณ์” และ “ความเชี่ยวชาญ” อีกด้วย
และนั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลายต่อหลายคน มองหาบริการจากตัวแทน ก่อนตัดสินใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์
เพราะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มากกว่า ซึ่งตัวแทนอสังหาฯ ที่ “น่าเชื่อถือ”
นั้นควรจะมีจะมีลักษณะอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

.

การตรงต่อเวลา
ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เราคงจะประทับใจกับตัวแทนที่มาตรงเวลานัดหมาย หรือ มาก่อนเวลามากกว่า
เพราะนั่นเท่ากับว่าเขาให้ความสำคัญกับเรา เราคงจะรู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะคะ ถ้าสมมติว่าเราฝากเช่าห้องกับเอเจนซีหนึ่ง
แต่ตัวแทนกลับมาช้า หากเหตุการณ์นี้เกิดกับผู้ที่สนใจเช่าห้องของเราคงไม่ดีแน่

นอกจากนี้ การแต่งกายที่สุภาพและการเตรียมพร้อมด้านเอกสารก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
รวมทั้ง การสร้างความเป็นมิตร ผ่านรอยยิ้ม ผ่านการพูดจาที่นุ่มนวลไพเราะ ก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ควรมองหาจากตัวแทน
เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ด้วยเช่นเดียวกัน

.

ตัวแทนอสังหาฯ ที่ดีต้องสามารถให้คำปรึกษากับเราได้รอบด้าน รู้ลึก รู้จริง และมีข้อมูลที่ทันสมัย
เพราะการลงทุนนั้นเป็นเรื่องใหญ่ หากขาดข้อมูลที่สำคัญเรื่องอะไรไป อาจทำให้การดำเนินการทั้งหมดของเราสะดุดลง
ตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากจะปล่อยเช่าให้ชาวญี่ปุ่น ตัวแทนก็ควรจะแนะนำได้ว่า ชาวญี่ปุ่นนั้นชอบห้องสไตล์ไหน
ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะ

.

ตัวแทนที่มีเครือข่ายกับพาร์ทเนอร์ และฐานลูกค้าในมือพร้อมทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยจับคู่ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ได้รวดเร็วกว่า
อีกทั้งยังได้ราคาดีกว่า นอกจากนี้ยังช่วยให้เรามั่นใจได้อีกด้วยว่าตัวแทนนี้
มีประสบการณ์และมีมาตรฐานการทำงานที่ดี เป็นที่ยอมรับจากคนในวงกว้าง

 

.

 

 

 

ความเป็นมืออาชีพ คือผลรวมของ การตรงต่อเวลา ประสบการณ์ และ ความเชี่ยวชาญ ทุกสิ่งเหล่านี้
จะทำให้บริษัทหนึ่งมีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ไว้วางใจต่อทั้งลูกค้าและพาร์ทเนอร์
ในขณะเดียวกัน ลูกค้าที่กำลังมองหาความน่าเชื่อถือจากตัวแทน ก็ควรที่จะใช้คุณสมบัติเหล่านี้
เป็นตัวพิจารณา เพื่อให้ตัดสินใจได้ดีกว่า อย่างมั่นใจ

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ทรัพย์สินหลุดจำนอง จาก กรมบังคับคดี คืออะไร?
23
Jan 25
ทรัพย์สินหลุดจำนอง จาก กรมบังคับคดี คืออะไร?

ทรัพย์สินหลุดจำนอง จาก กรมบังคับคดี คืออะไร? ทรัพย์สินหลุดจำนอง จาก กรมบังคับคดี คือ ทรัพย์สินที่เจ้าของเดิมได้นำไปจำนองกับสถาบันการเงินหรือผู้ให้กู้เงิน แต่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขในสัญญา เมื่อผู้กู้ผิดนัดชำระ เจ้าหนี้จึงดำเนินการทางกฎหมายเพื่อบังคับคดีและนำทรัพย์สินที่จำนองไว้เข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด โดยกรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานหลักที่จัดการในกระบวนการดังกล่าว   กระบวนการทรัพย์สินหลุดจำนอง การแจ้งเตือนและฟ้องร้อง เมื่อผู้กู้ผิดนัดชำระ เจ้าหนี้จะส่งหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระหนี้ หากยังไม่ดำเนินการ เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกคืนทรัพย์สิน การบังคับคดี หากศาลมีคำพิพากษาให้เจ้าหนี้สามารถบังคับคดีได้ กรมบังคับคดีจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบและยึดทรัพย์สินที่จำนองไว้ การขายทอดตลาด ทรัพย์สินที่ถูกยึดจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด เพื่อชำระหนี้ที่ค้างอยู่ โดยรายได้จากการขายจะถูกนำไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ก่อน หากมีเงินเหลือจะคืนให้เจ้าของเดิม   ข้อดีของการซื้อทรัพย์สินหลุดจำนอง ราคาถูกกว่าในตลาด: ทรัพย์สินหลุดจำนองมักมีราคาต่ำกว่าราคาประเมินหรือราคาตลาด เนื่องจากเป็นการ […]

อ่านเพิ่มเติม
17
Aug 24
รายละเอียดสัญญาขายฝากที่ดินที่ควรรู้ก่อนทำธุรกรรม สำหรับผู้รับขายฝาก และผู้ขายฝาก

รายละเอียด สัญญาขายฝากที่ดิน ที่ควรรู้ก่อนทำธุรกรรม สัญญาขายฝากที่ดิน เป็นสัญญาที่มีความสำคัญทางกฎหมายและเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่มีมูลค่า การทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ก่อนลงนามจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งผู้รับซื้อฝากและผู้ขายฝากควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ สิ่งที่ผู้รับซื้อฝากควรทราบ กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันทีที่ทำสัญญา แต่ผู้ขายฝากยังมีสิทธิไถ่ถอนที่ดินคืนได้ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา ระยะเวลาไถ่ถอน: กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนให้ชัดเจน โดยทั่วไปจะไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี จำนวนสินไถ่: คือจำนวนเงินที่ผู้ขายฝากต้องชำระเพื่อไถ่ถอนที่ดินคืน โดยจำนวนสินไถ่จะต้องไม่น้อยกว่าราคาที่ซื้อฝาก และดอกเบี้ยที่คิดจากราคาซื้อฝากตามอัตราที่กฎหมายกำหนด (ปัจจุบันไม่เกิน 15% ต่อปี) ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน: ผู้รับซื้อฝากเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนสัญญาขายฝากที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน ภาษีที่เกี่ยวข้อง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนี้ครบถ้วนแล้ว การตรวจสอบเอกสาร: ต […]

อ่านเพิ่มเติม
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? แล้วธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสีย?
20
May 25
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? แล้วธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสียภาษี!!!

         ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นหนึ่งในภาษีที่ผู้ประกอบการหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าตนเองต้องเสียหรือไม่ หรือบางครั้งเข้าใจว่าเป็นภาษีสำหรับธุรกิจเฉพาะทางเท่านั้น! ตามชื่อเฉพาะเลย… แต่ในความจริงแล้ว ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีที่จัดเก็บจากกิจการบางประเภทโดยเฉพาะ ไม่ได้เกี่ยวกับความ “พิเศษ” แต่เกี่ยวกับ รูปแบบของธุรกิจ อย่างชัดเจน   ทำความรู้จักภาษีเฉพาะ           “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” หมายถึง ภาษีที่เก็บจากกิจการบางประเภท ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นพิเศษ โดยเป็นภาษีที่ถูกแยกออกมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทางกรมสรรพากรจะเป็นผู้จัดเก็บภาษีดังกล่าวนี้ ทั้งในรูปแบบของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยผู้ที่มีหน้าที่จ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ จะต้องทำการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ ภายในวันที่ 30 นับตั้งแต่วันที่เริ่มกิจการ ด้วยการยื่นแบบคำขอ ภ.ธ.01 กิจการหรือธุรกิจต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีอะไรบ้าง? กิจการธนาคาร ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ธุรกิจประกันชีวิต กิจการโรงรับจำนำ การประกอบการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ อาทิ การให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน การแลกเปลี่ยนเงินตรา ฯลฯ การขายอสังหาริมทรัพย์ ที่นับเป็นก […]

อ่านเพิ่มเติม