ผลกระทบของการไม่ชำระหนี้จำนองต่อทรัพย์สินของคุณ
11
Oct 24

การไม่ชำระหนี้จำนองสามารถมีผลกระทบหลายประการที่มีทั้งผลลัพธ์ทางการเงินและด้านอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่คุณอาจเผชิญ:

  1. การยึดทรัพย์สิน (Foreclosure)

กระบวนการยึดทรัพย์สิน

  • เมื่อคุณไม่ชำระหนี้จำนองตามที่กำหนด ธนาคารหรือผู้ให้กู้จะเริ่มกระบวนการยึดทรัพย์สิน ซึ่งโดยปกติแล้วจะเริ่มต้นจากการส่งจดหมายเตือนถึงการผิดนัดชำระหนี้
  • หากคุณยังไม่ชำระหนี้ ธนาคารจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีการยึดทรัพย์สิน หลังจากได้รับการอนุมัติจากศาล ธนาคารจะสามารถเข้ายึดทรัพย์สินได้
  • ทรัพย์สินที่ถูกยึดจะถูกนำไปประมูลขายเพื่อกู้คืนหนี้

ผลกระทบที่ตามมา

  • คุณจะต้องออกจากบ้านหรือทรัพย์สินนั้น โดยอาจต้องจัดการย้ายสิ่งของของคุณในเวลาที่จำกัด
  • การสูญเสียบ้านหรือที่อยู่อาศัยอาจส่งผลต่อความมั่นคงของคุณและครอบครัว
  1. เครดิตสกอร์ลดลง (ในกรณีที่ติดจำนองกับทางธนาคาร)

การส่งผลกระทบต่อประวัติการเงิน

  • ประวัติการไม่ชำระหนี้จะถูกบันทึกในเครดิตบูโร และจะส่งผลต่อคะแนนเครดิตของคุณอย่างรุนแรง ซึ่งสามารถทำให้คะแนนเครดิตลดลงถึง 100-200 คะแนนขึ้นอยู่กับสถานการณ์
  • เครดิตสกอร์ที่ต่ำจะมีผลกระทบต่อความสามารถในการขอสินเชื่อในอนาคต เช่น การขอสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่การขอจำนองใหม่

ผลระยะยาว

  • ธนาคารและผู้ให้กู้มักจะปรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นให้กับผู้ที่มีเครดิตสกอร์ต่ำ ทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นในอนาคต
  • อาจทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีที่สุดได้
  1. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ค่าปรับและดอกเบี้ย

  • การชำระหนี้ล่าช้าจะทำให้เกิดค่าปรับเพิ่มเติมจากธนาคาร ซึ่งอาจเป็นเปอร์เซ็นต์จากจำนวนเงินที่ค้างชำระ
  • ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากยอดค้างชำระ ทำให้จำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย

  • หากธนาคารตัดสินใจฟ้องร้องเพื่อยึดทรัพย์สิน คุณอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่เกิดขึ้น ทั้งค่าทนายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ซึ่งสามารถสูงมาก
  1. 4. ผลกระทบต่อการลงทุนในอนาคต

ความยากลำบากในการขอสินเชื่อ

  • ประวัติการไม่ชำระหนี้อาจทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจได้
  • ธนาคารมักจะมองว่าผู้ที่มีประวัติการไม่ชำระหนี้มีความเสี่ยงสูง ทำให้การขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนเป็นไปได้ยาก

โอกาสการลงทุนที่ลดลง

  • ด้วยการไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการลงทุนที่สามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้

ผลกระทบของการไม่ชำระหนี้จำนองต่อทรัพย์สินของคุณ

วิธีป้องกันปัญหาการไม่ชำระหนี้

  1. วางแผนการเงินอย่างมีระเบียบ
    • สร้างงบประมาณที่เหมาะสมเพื่อตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ ทำให้คุณมั่นใจว่าสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
  2. ติดตามสถานะการเงิน
    • ตรวจสอบรายงานเครดิตของคุณเป็นประจำ เพื่อให้รู้ถึงสถานะการเงินและเครดิตสกอร์ รวมถึงการระวังการเกิดหนี้เพิ่ม
  3. ติดต่อธนาคารเมื่อเกิดปัญหา
    • หากคุณพบว่ามีปัญหาทางการเงิน ควรติดต่อธนาคารหรือผู้ให้กู้ทันที เพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการปรับโครงสร้างหนี้หรือขอการช่วยเหลือ
  4. พิจารณาการขายทรัพย์สิน
    • หากรู้ว่าคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ ควรพิจารณาการขายบ้านหรือที่ดินก่อนที่จะมีการยึดทรัพย์สิน เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียในระดับที่สูงขึ้น
  5. หาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
    • หากสถานการณ์การเงินของคุณซับซ้อน ควรปรึกษานักวางแผนการเงินหรือนักกฎหมายที่มีประสบการณ์เพื่อขอคำแนะนำ

สรุป

การไม่ชำระหนี้จำนองมีผลกระทบที่สำคัญต่อชีวิตคุณและทรัพย์สินของคุณ การเข้าใจถึงผลกระทบและมีการวางแผนทางการเงินที่รอบคอบจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้และรักษาความมั่นคงทางการเงินได้ในระยะยาว การมีความรู้เกี่ยวกับสิทธิและทางเลือกต่าง ๆ ที่มีให้สามารถช่วยคุณในการตัดสินใจที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้

—————————————————-

Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

Blacklist และ เครดิตบูโรต่างกันอย่างไร
18
Apr 23
Blacklist และ เครดิตบูโรต่างกันอย่างไร

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่าเครดิตบูโรอยู่บ่อยๆ แต่หลายๆ อาจยังไม่เข้าใจ ว่าจริงๆ แล้วเครดิตบูโร มันคืออะไร และมันต่างจาก Blacklist ยังไงบ้าง มาค่ะ วันนี้เรามาทำความเข้าใจกัน ว่ามันมีความสำคัญอย่างไร และเอามาวัดเครดิตการเงินของเราอย่างไรบ้าง ข้อมูลเครดิตบูโร คือข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของเรา ซึ่งมันจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต หรือเราเรียกสั้นๆว่า NCB  ปัจจุบันข้อมูลเครดิตประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1 ข้อมูลบ่งชี้ถึงตัวตนเรา เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขบัตรประชาชน 2 ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ และประวัติการชำระสินเชื่อ ราคาสินค้าหรือบริการโดยบัตรเครดิต รวมถึงสถานะบัญชีอีกด้วย สถานะบัญชี คือ รายงานที่จะบอกว่าคุณชำระสินเชื่อปกติ สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือ สินเชื่อที่ปิดบัญชีแล้ว * สินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย เป็นต้น ข้อมูลเครดิตมีความสำคัญอย่างไร ? ต้องบอกเลยค่ะว่ามันสำคัญมาก เพราะมันคือข้อมูลเครดิตที่จะแสดงถึงประวัติการชำระหนี้ ที่จะสะท้อนถึงพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของเรา แสดงถึงความตั้งใจในการชำระหนี้ และความน่ […]

อ่านเพิ่มเติม
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ อัตราการดูดซับ
19
Dec 22
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ ‘อัตราการดูดซับ’

หลายต่อหลายครั้งเราเห็นคำว่า อัตราการดูดซับ ปรากฏบนข่าว ซึ่งบางทีก็อาจสร้างความสงสัยให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้องสงสัยกันค่ะ อัตราการดูดซับ หรือ Absorption Rate คือ ดัชนีชี้วัด ‘ความต้องการ’ หรือ ‘อุปสงค์’ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่าในทำเลนั้นๆ หรือ ตลาดของอสังหาฯ แต่ละประเภท เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยการนำหน่วยที่ขายได้ หารด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดที่โครงการมี ยิ่งค่าสูง แสดงว่ายังเป็นที่ต้องการมาก อัตราการดูดซับนี้ เป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะธุรกิจ (Business Expectation Index) ซึ่งโดยส่วนมากทางภาครัฐจะเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลตัวเลขเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูล เพื่อให้เห็นถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของเศรษฐกิจในประเทศ และติดตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ในบางครั้ง ทางผู้พัฒนาอสังริมทรัพย์เองก็มีการเก็บรวมรวบข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการของตน เพื่อคำนวณออกมาเป็นอัตราการดูดซับเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ครึ่งแรกของปี 2565 อัตราการดูดซับของที่อยู่อาศัยทุกประเภท ต่ำสุดในรอบ 5 ปี สำหรับบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด อัตราการดูดซับอยู่ท […]

อ่านเพิ่มเติม
16
Feb 23
ถนนหน้าบ้านเรามีเจ้าของรึเปล่านะ

ถนน ทางสัญจร ที่เราใช้สัญจร อย่างเป็นปกติตลอดการอยู่อาศัยของเรานั้น บางที่บางแห่ง แท้จริงแล้ว อาจจะไม่ใช่ถนนสาธารณะ ที่ทุกคนมีสิทธิ์ในการใช้ หรือเป็นเจ้าของร่วมกัน อย่างที่เราเข้าใจก็ได้นะ ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไร ทีม Landthaimart เราจะพาไปรู้จักวิธีตามหาความจริงกันค่ะ ก่อนอื่น ในบทความนี้ จะขออนุญาตแบ่งกรรมสิทธิของถนนเป็น 2 ประเภทก่อน เพื่อความเข้าใจง่ายๆ 1.ถนนสาธารณะ ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้ว ว่าสาธารณะ ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ มีงบประมาณของแผ่นดิน จากภาษีของประชาชนเข้ามาบำรุงดูแลรักษา ทุกคนมีสิทธิ์ใช้ ดูแล ปกป้อง ถนนสาธารณะร่วมกัน การเช็คว่าเป็นสาธารณะหรือไม่ จะกล่าวถึงละเอียดต่อไป บางครั้งเราจะเห็นป้ายหน้าปากซอย ที่เป็นงบประมาณของเขต ติดตั้งอยู่ ก็ไม่ได้แสดงว่า ถนน ซอย นี้ เป็นสาธารณะเสมอไป บางครั้ง มีไว้เพื่อเป็น landmark เพื่ออำนวยความสะดวก ต่อการเดินทาง การบอกจุดหมาย การขนส่ง เท่านั้น หากในอนาคตถนนนี้ (ส่วนบุคคล) ที่มีป้ายถนนติดชื่อยู่ มีการซื้อไปเพื่อพัฒนาเป็นโครงการอื่นๆ มีการพิสูจน์สิทธิ์แล้วว่า เป็นที่ดินส่วนบุคคลจริง ป้ายซอย หรือป้ายชื่อถนนแบบนี้ ก็สามารถที่จะถูกรื้อถอนโดยหน่วยงานท […]

อ่านเพิ่มเติม