พูดถึงประเด็นที่ตอนนี้สังคมไทยเรากำลังให้ความสำคัญอย่าง สมรสเท่าเทียม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการผลักดันกฎหมาย สมรสเท่าเทียม
ให้มีผลทางกฎหมายนั้น มีความสำคัญในแง่ของความเท่าเทียมทางสิทธิต่างๆ ในสังคมของคู่รักเพศเดียวกัน หรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกกันว่าคู่รัก LGBTQ+
วันนี้เราจึงจะอยากจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับแง่มุมต่างๆ กันว่าสมรสเท่าเทียมนั้น มีส่วนสำคัญแค่ในกับวงการอสังหาริมทรัพย์ และจะส่งผลดีในแง่มุมใดบ้าง
สมรสเท่าเทียม กับวงการอสังหาฯ
- การกู้ร่วม
บ้านเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต และเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัวได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทำให้คู่รักส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยด้วยกัน และการกู้ก็เป็นหนึ่งในช่องทางที่ทำให้เราสามารถมีบ้านเป็นพยานรักของกันและกันได้
ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว หากคนใดคนหนึ่งไม่สามารถกู้ซื้อบ้านโดยเพียงลำพังได้ เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับวงเงินที่ต้องการจะซื้อบ้าน
เราสามารถนำรายได้ของคู่สมรสมาร่วมกันกู้ได้อีกแรง แต่.. มีคนกลุ่มหนึ่งที่แม้พวกเขาจะรักกันมากเพียงใด คบหาดูใจกันนานเป็นสิบปี
ก็ไม่อาจจะใช้ความเป็นคู่รักในการกู้ร่วมกันซื้อบ้านได้ เพียงเพราะเพศกำเนิดของพวกเขาเป็นเพศเดียวกัน
แม้ว่าปัจจุบัน ธนาคารหลายแห่งจะมีนโยบายในการปล่อยสินเชื่อให้คู่รัก LGBTQ+ มานานแล้ว แต่หากมองไปเงื่อนไข
กลับพบว่าธนาคารส่วนใหญ่มักจะมีเงื่อนไขพิเศษ ที่ใช้ในการพิจารณามากกว่าคู่สมรสทั่วไป เพราะฉะนั้น กฎหมายสมรสเท่าเทียม
จึงจะมาช่วยทำให้คู่รักทุกคู่มีสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ เทียบเท่ากัน โดยไม่มีการแบ่งแยกเพศอีกต่อไป
**ในปัจจุบันมีธนาคารอะไรบ้างที่สามารถกู้ร่วมได้ ? อ่านได้ที่บทความ ……………..
- การรับมรดก
คำว่า มรดก นั้นมีหลากหลายประเภท แต่มีอยู่ประเภทหนึ่งที่เป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่ มีมูลค่ามาก
และเป็นที่หมายปองของผู้มีสิทธิทางกฎหมายทั้งหลายคือ “อสังหาริมทรัพย์”
การที่คู่รัก LGBTQ+ ไม่ได้มีสถานะเป็น “คู่สมรส” อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาเมื่อคนใดคนหนึ่งถึงแก่กรรมจากโลกนี้ไป เพราะคนรักที่คบกันมาตลอดชีวิตนั้น
ถือเป็น “คนอื่น” ไม่มีสิทธิทางกฎหมายในการรับมรดกอย่างบ้านที่เขาใช้ชีวิตร่วมกันมา ร่วมกันซื้อ ร่วมกันผ่อน ร่วมกันสร้างความทรงจำดีๆ
ถ้าใครเจอครอบครัวของอีกฝ่ายนิสัยดี ใจดีกับเรา ไม่คิดจะฮุบสมบัติไว้ก็โชคดีไป แต่หากเจอคนที่หวังเงิน หวังในมูลค่าของบ้านเรานั้น
คนที่ยังอยู่อาจจะต้องเสียใจเพราะถูกยึดสิทธิในบ้าน เป็นความทุกข์ใจไปตลอดชีวิต
- ภาษีที่เท่าเทียม
เพื่อนๆ รู้หรือไม่ ว่าเราสามารถโอนกรรมสิทธิที่ดินหรือบ้านให้คนอื่นได้ ต่อให้ไม่ใช่คู่สมรสกันก็ตาม เรียกว่า “ให้โดยเสน่หา”
เพียงแต่ว่า การโอนสิทธิระหว่างคู่สมรสนั้น มีค่าธรรมเนียมการโอนที่ถูกกว่ามาก จากปกติทั่วไป 2% จะเหลือเพียงแค่ 0.5% เท่านั้น
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรผลักดันการสมรสเท่าเทียม ให้คู่รัก LGBTQ+ มีสิทธิเหมือนคู่สมรสทั่วไป
- สิทธิในการทำธุรกรรมที่สำนักงานที่ดิน
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้ว ต่อให้รักกันแค่ไหน แต่เมื่อชีวิตต้องเจอกับวิกฤต ก็มักจะหักหลังกันได้ง่ายๆ ทุกเวลา และการหักหลังประเภทหนึ่งที่ทำร้ายจิตใจคู่รักมานักต่อนักนั้น
คือการแอบเอาบ้านไปกู้เงิน และสุดท้ายไม่มีปัญญาใช้หนี้ จนโดนยึดบ้านไปอย่างน่าเศร้าใจ
ธรรมดาทั่วไปแล้ว คู่สมรสทั่วไปยังเกิดปัญหานี้ได้ไม่ยาก แล้วคู่รัก LGBTQ+ ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจะไปเหลืออะไร!
เมื่อชื่อหลังโฉนดที่แสดงความเป็นเจ้าของนั้นเป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วการที่เราจะเอาบ้านไปค้ำประกันกู้เงิน
หากเป็นผู้ที่จดทะเบียนสมรสกันนั้น จำเป็นต้องมีการ ”ยินยอม” จากคู่สมรสในการทำธุรกรรมด้วย แต่กับคู่รักที่ไม่ได้สมรสกันตามกฎหมาย
เราจะไม่มีสิทธิมีปากมีเสียงคัดค้านการทำธุรกรรมใดๆ ได้เลย
—————————————————————–
เพื่อนๆ พอจะเห็นภาพกันบ้างแล้วหรือไม่ สำหรับเรื่อง สมรสเท่าเทียม ที่เกี่ยวกับวงการอสังหาฯ ว่าสิทธิต่างๆ ของคู่รัก LGBTQ+ นั้น
แตกต่างกันคู่สมรสทั่วไปอย่างไร แล้วทำไมเราถึงจะต้องยอมรับความแตกต่างกันนี้ ทั้งๆ ที่เป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึก มีหัวใจไม่แตกต่างกัน
Property 4 Cash ขอเป็นเสียงเล็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความเท่าเทียม และขอให้กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้ในเร็ววันค่ะ
——————————————————-
สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง
Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989
หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/
นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/
ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน
ส่งข้อมูลสำเร็จ ทางทีมงานจะรีบติดต่อกลับไปค่ะ