ใบปลอดหนี้ คืออะไร รู้ไว้ก่อนซื้อขายบ้าน-คอนโด
9
Jun 23

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนไม่คุ้นชินกับคำนี้แน่ๆ “ใบปลอดหนี้”  และเพื่อนๆ ก็คงไม่รู้ว่า อะไรคือใบปลอดหนี้
วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับเอกสารนี้กัน เพราะว่าใบปลอดหนี้ นั้น
มีความสำคัญมากสำหรับคนที่อยากจะซื้อ ขาย’ บ้านและคอนโด

ใบปลอดหนี้ คือ

หนังสือเอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินค่าส่วนกลางในการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร
ซึ่งถ้าขาดเอกสารตัวนี้ไป จะทำให้เราไม่สามารถทำธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินได้
หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ไม่สามารถซื้อขายได้นั่นเอง

ใครต้องเป็นคนขอและต้องขออย่างไร

ผู้ขายจะต้องเป็นผู้ดำเนินการขอเอกสารที่สำนักงานนิติบุคคลนั้นๆ เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายค้างชำระ (ถ้ายังไม่จ่ายค่าชำระ)
หากมีการค้างค่าชำระบางประการ อาจจะต้องมีระยะเวลาในการออกเอกสารที่ยาวนานกว่า ขึ้นอยู่แต่ละกรณีที่แตกต่างกันไป

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • สำเนาทะเบียนบ้านผู้ซื้อ-ผู้ขาย อย่างละ 1 ชุด
  • สำเนาบัตรประชาชนผู้ซื้อ-ผู้ขาย อย่างละ 1 ชุด
  • สำเนาโฉนดหน้า-หลัง
  • สัญญาซื้อขาย ที่มีการระบุชื่อผู้ซื้อและผู้ขายชัดเจน
  • หากชื่อหรือนามสกุลของผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่ตรงกัน ให้นำใบเปลี่ยนชื่อหรือใบเปลี่ยนนามสกุล
    ที่ดำเนินการจากที่อำเภอแนบมาด้วย
  • หนังสือมอบอำนาจ กรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถมาได้ด้วยตนเอง หรือมีตัวแทนดำเนินเรื่อง
    จะต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจอีก 1 ชุด

ขั้นตอนขอต้องทำยังไงบ้าง

  • ผู้ที่จะซื้อบ้าน หรือคอนโดมิเนียม จะต้องแจ้งหรือดำเนินการกับผู้ขายโดยตรง
    โดยผู้ขายจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ เดินเรื่องขอเอกสารสำคัญที่สำนักงานนิติบุคคล
    ที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยหรือเกี่ยวข้องกับบ้านโดยตรง หากไม่มีค่าใช้จ่ายค้างชำระ
    สามารถเดินเรื่องกับนิติบุคคลเพื่อดำเนินการต่อไปได้เลย หากมีค่าใช้จ่ายที่ค้างอยู่
    ให้ติดต่อเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายที่ค้างชำระ
  • หากต้องมีผู้แทนฝั่งผู้ขาย ที่ไม่สามารถมาได้ด้วยตนเอง และต้องทำเรื่องมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำแทน
    โดยจะต้องมีการยืนยันชัดเจนตามกฎหมาย ถึงจะดำเนินการแทนได้ ฝั่งผู้แทนของผู้ขาย
    ต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่มีการรับรองเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบเอกสารสำคัญ
    เช่น สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบฉันทะ และผู้แทนฝั่งผู้ขายเพิ่มคนละ 1 ใบ เพื่อยืนยันตัวตน
  • การดำเนินการจะต้องขอล่วงหน้า เนื่องจากใช้ระยะเวลา 7-15 วัน และต้องทราบกำหนดการเพื่อดำเนินการล่วงหน้า
    อีกทั้งหากได้ใบปลอดหนี้ สามารถใช้งานได้ภายใน 7 วันนับจากการได้เอกสาร โดยจะระบุระยะเวลาอย่างชัดเจนว่าได้ถึงเมื่อใด

เพราะฉะนั้นแล้ว “ใบปลอดหนี้”  จึงเป็นเอกสารสำคัญ ดังนั้น ถ้าเราละเลยค่าส่วนกลางไปเรื่อย ๆ เจอค่าปรับแสนโหด
และหากไม่จัดการค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เมื่อต้องการขายที่อยู่อาศัย นิติบุคคลไม่สามารถออกให้ได้
เจ้าหน้าที่กรมที่ดินยังมีสิทธิ์ที่จะระงับการโอนกรรมสิทธิ์นั้น ๆ อีกด้วย

ใบปลอดหนี้ คืออะไร รู้ไว้ก่อนซื้อขายบ้าน-คอนโด

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

3 บริษัทยักษ์ใหญ่ เปิดเกมรุก ดันตลาดอสังหาในไตรมาส 3
29
Aug 25
3 บริษัทยักษ์ใหญ่ เปิดเกมรุก ดันตลาดอสังหาในไตรมาส 3

          3 บริษัทอสังหารายใหญ่ เปิดเกมรุก ดันตลาดอสังหาในไตรมาส 3 แห่ผุดแคมเปญดันยอดขายสุดตัว สถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอสังหา เร่งเครื่องปล่อยแคมเปญแรง ดึงกำลังซื้อ-ปลุกดีมานด์ไตรมาส 3 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนหวัง ดันยอดขายสุดตัว           เมื่อวงการอสังหา ต้องสู้แบบไม่มีกั๊ก ปล่อยแคมเปญจัดเต็มไตรมาส 3 ดันตลาดกลับมาคึกคักในวันที่ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ และธนาคารยังเข้มกับการปล่อยกู้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้อง “เดินเกม” เพื่อดึงกำลังซื้อให้ออกมาใช้จ่ายทันทีที่มีสัญญาณบวกจากนโยบายรัฐ           ปี 2568 นี้ รัฐบาลส่งสัญญาณกระตุ้นภาคอสังหา แบบเข้มข้น ทั้งการปลดล็อก LTV, ลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับที่พอรับได้ ทำให้หลายค่ายเห็นจังหวะในการ “เร่งขาย” เพื่อโกยยอดในไตรมาส 3 ซึ่งถือเป็นช่วงสำคัญก่อนเข้าสู่ปลายปี เจ้าใหญ่ที่ 1 พฤกษาเปิดเกม “PRUKSA D-DAY SALE”           พฤกษาส่งแคมเปญแรง “PRUKSA D-DAY SALE” ลดราคายูนิตฮอตจากกว่า 100 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท หวังดึงดีมานด์ที่ชะลอไปกลับคืนมา ผ่านข้อเสนอที่ […]

อ่านเพิ่มเติม
รีไฟแนนซ์ Retention ต่างกันอย่างไร?
26
May 23
Retention กับ Refinance ต่างกันอย่างไร?

เมื่อผ่อนบ้านมาได้สักระยะหนึ่งแล้วหลายคนก็เริ่มที่จะหาทางทำให้ดอกเบี้ยนั้นลดลง ซึ่งวิธีการที่เราคุ้นเคยกันนั้นคือการ รีไฟแนนซ์ แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่ามาก คือการ Retention แล้วทั้ง 2 วิธีนี้แตกต่างกันอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ Retention เป็นการติดต่อขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ในขณะที่ รีไฟแนนซ์ เป็นการนำที่อยู่อาศัยที่ผู้กู้ผ่อนชำระอยู่ มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อขอสินเชื่อใหม่มาปิดหนี้ยอดเงินกู้เดิมที่ยังเหลืออยู่ ทำให้หนี้ของเรากับเจ้าหนี้ ซึ่งก็คือ ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมนั้นสิ้นสุดลง พร้อม ๆ กับการเกิดขึ้นของหนี้ใหม่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งข้อแตกต่างสามารถแบ่งได้ตามนี้ #สถาบันการเงิน Retention จะใช้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม ไม่ต้องหาสถาบันการเงินใหม่ Refinance จะต้องหาธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ #การเตรียมเอกสาร Retention ไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร เนื่องจากธนาคารสามารถใช้เอกสารเดิมหลายฉบับที่ผู้กู้ใช้ยื่นขอสินเชื่อ Refinance เนื่องจากเป็นธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ จึงต้องมีการเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมด #ระยะเวลาอนุมัติ Retention เนื่องจากมีข้อ […]

อ่านเพิ่มเติม
29
May 25
เทคนิคการขอสินเชื่อ สร้างเครดิต เพิ่มโอกาสอนุมัติเร็ว

          เทคนิคการขอสินเชื่อ สร้างเครดิต เพิ่มโอกาสอนุมัติเร็ว การขอสินเชื่อไม่ใช่แค่เรื่องของเอกสารครบ แต่ยังรวมถึง “เครดิตทางการเงิน” ที่ดี ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินใช้พิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้กู้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เทคนิคการขอสินเชื่อ พร้อมแนวทางสร้างเครดิตที่ดี เพิ่มโอกาสให้คุณได้รับการอนุมัติเร็วขึ้น 1. รู้จักเครดิตบูโร และความสำคัญของเครดิต เครดิตบูโร คือ ข้อมูลการกู้ยืมและการชำระหนี้ของคุณในอดีต สถาบันการเงินใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัดความเสี่ยง หากมีหนี้เสียค้างชำระ = โอกาสถูกปฏิเสธสูง เทคนิค: เช็คเครดิตของคุณก่อนขอสินเชื่อได้ที่เว็บไซต์ของเครดิตบูโร เพื่อวางแผนปรับปรุงล่วงหน้า   2. วางแผนชำระหนี้ให้ตรงเวลา ประวัติการชำระหนี้ตรงเวลา เป็นตัวชี้วัดเครดิตที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการค้างชำระแม้เพียงรอบเดียวและควรชำระหนี้ขั้นต่ำก่อนกำหนดทุกครั้ง   3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและน่าเชื่อถือ สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองรายได้ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน เทคนิค: หากคุณมีรายได้เสริมหรือฟรีแลนซ์ ควรแนบหลักฐาน เช่น บิลรับเงิน หรือบัญชี […]

อ่านเพิ่มเติม