เมื่อนำบ้านไป ขายฝากบ้าน ยังสามารถอยู่อาศัยภายในบ้านได้หรือไม่?
30
Sep 24

ขายฝากบ้าน ขายฝากทรัพย์สิน เป็นหนึ่งในวิธีการจัดการทรัพย์สินที่หลายคนเลือกใช้เพื่อเข้าถึงเงินทุนอย่างรวดเร็ว แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ เมื่อนำบ้านไปขายฝากแล้ว

เจ้าของบ้านเดิมยังสามารถอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นต่อไปได้หรือไม่? คำตอบสำหรับคำถามนี้มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

เพื่อป้องกันการเกิดความสับสนและปัญหาในภายหลัง”

ขายฝากบ้าน คืออะไร?

การขายฝาก คือการทำสัญญาทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน หรือที่ดิน  เป็นกระบวนการที่เจ้าของทรัพย์สินขายอสังหาริมทรัพย์ให้กับผู้ซื้อฝาก โดยมีข้อตกลงว่าผู้ขายสามารถอาศัยอยู่ในทรัพย์สินนั้นได้จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนดในการชำระคืนเงินกู้หรือหนี้ที่ได้รับจากผู้ซื้อฝาก ซึ่งส่วนใหญ่การขายฝากจะเกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินที่มีหลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น

การขายฝากบ้านเป็นวิธีที่สามารถใช้ในการระดมทุนหรือกู้ยืมเงินโดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน แต่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องที่ควรทราบ โดยทั่วไปแล้ว การขายฝากจะมีลักษณะดังนี้:

  1. สิทธิในการอยู่อาศัย:
    • ในกรณีของการขายฝาก บ้านยังคงเป็นของผู้ขาย (เจ้าของเดิม) และเจ้าของบ้านสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ตามปกติ ตราบใดที่เขาหรือเธอยังไม่ได้ผิดนัดการชำระหนี้ตามสัญญา
    • อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงในการขายฝากอาจระบุว่าผู้ขายสามารถอยู่อาศัยในบ้านได้ต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่กำหนดหรือตามเงื่อนไขในสัญญา
  2. ข้อตกลงในสัญญา:
    • สัญญาขายฝากจะระบุสิทธิและข้อผูกพันของทั้งสองฝ่าย (ผู้ขายและผู้ซื้อ) ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขเกี่ยวกับการอาศัยในบ้าน หากต้องการให้อยู่ในบ้านได้ต่อไป ผู้ขายควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการระบุเงื่อนไขนี้ในสัญญาอย่างชัดเจน

เมื่อนำบ้านไป ขายฝากบ้าน ขายฝากทรัพย์สิน ยังสามารถอยู่อาศัยภายในบ้านได้หรือไม่?

  1. การผิดนัดและผลกระทบ:
    • หากผู้ขายผิดนัดการชำระหนี้ตามสัญญา (เช่น ไม่สามารถชำระเงินคืนตามกำหนด) ผู้ซื้อ (ผู้รับซื้อฝาก) จะมีสิทธิดำเนินการตามกฎหมายเพื่อยึดทรัพย์สิน โดยอาจมีผลกระทบต่อสิทธิในการอยู่อาศัย
  2. คำแนะนำในการทำสัญญา:
    • ควรมีการทำความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดในสัญญาขายฝาก และอาจปรึกษาทนายความเพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไขทั้งหมดเป็นที่ชัดเจนและไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
  1. ประโยชน์และความเสี่ยงของการขายฝาก

ประโยชน์ของการขายฝาก:

  • การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน: ผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินและยังคงอาศัยอยู่ในบ้านได้ในขณะที่ได้รับเงินจากการขาย
  • การเข้าถึงเงินทุน: การขายฝากบ้านสามารถช่วยให้ผู้ขายเข้าถึงเงินทุนที่ต้องการในกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อใช้ในการลงทุนอื่น

ความเสี่ยงของการขายฝาก:

  • การสูญเสียสิทธิในการอยู่อาศัย: หากผู้ขายไม่สามารถชำระหนี้ตามที่ตกลงไว้ อาจสูญเสียสิทธิในการอยู่อาศัยและบ้านอาจถูกยึดคืน
  • ข้อกำหนดที่ไม่ชัดเจน: ข้อกำหนดที่ไม่ชัดเจนในสัญญาอาจนำไปสู่ข้อพิพาทหรือปัญหาที่ไม่คาดคิด

 

“โดยสรุปแล้ว เมื่อนำบ้านไป ขายฝากบ้าน เจ้าของบ้านยังสามารถอยู่อาศัยภายในบ้านได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับผู้รับฝาก อย่างไรก็ตาม ควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของสัญญาขายฝากให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าการอยู่อาศัยหลังจากการขายฝากเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่เกิดปัญหาภายหลัง การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือที่ปรึกษาทางการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกรรมลักษณะนี้”

 

—————————————————–

Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

 

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

โฉนดที่ดิน ห้ามเคลือบพลาสติก
26
Apr 23
รู้หรือไม่ โฉนดที่ดินเคลือบพลาสติกแข็ง เท่ากับชำรุด

โฉนดที่ดิน ถือเป็นเอกสารสิทธิที่มีคุณค่า และมีความสำคัญ จึงทำให้เพื่อนหลาย ๆ คน คิดที่จะนำไปเคลือบพลาสติก ถนอมและเก็บรักษาไว้เพื่อป้องกันการชำรุดหรือซีดจาง  แต่จริง ๆ การทำแบบนี้จะส่งผลให้โฉนดที่ดินนั้น จะชำรุดทันที จะไม่สามารถทำธุรกรรมทางที่ดินได้ เพราะอะไร? และถ้าเคลือบพลาสติกแข็งไปแล้วต้องแก้อย่างไร? ลองไปดูกันเลยค่ะ โฉนดที่ดิน ห้ามเคลือบพลาสติก เพราะ ? การเคลือบจะทำให้ไม่สามารถพิมพ์รายการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน เช่น การโอน การจำนอง การขายฝาก ในสารบัญจดทะเบียนด้านหลังโฉนดที่ดินได้ ถือเป็นกรณีชำรุดไม่สามารถใช้ทำธุรกรรมได้ จะต้องมีการสร้างใบแทนโฉนดที่ดิน หากโฉนดเคลือบไปแล้วต้องแก้อย่างไร ?  เพื่อนคนไหนที่ได้นำโฉนดที่ดินไปเคลือบพลาสติกแข็งมาแล้ว ไม่ต้องกังวลใจ สามารถแก้ไขได้โดย เพื่อนๆ นำโฉนดที่ดินไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน เพื่อออกใบแทนใหม่ให้ โดยไม่ต้องมีการประกาศ 30 วัน ซึ่งด้านหน้าโฉนดที่ดินเหนือครุฑจะมีคำว่า “ใบแทน” กำกับไว้ ใบแทนดังกล่าวมีเพียงสถานะเทียบเท่าโฉนดที่ดินเดิมทุกประการ ขั้นตอนขอโฉนดที่ดิน “ ใบแทน ” 1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์ 2. เจ้าหน้าที่รับคำขอและสอบสวน 3 […]

อ่านเพิ่มเติม
20
Sep 24
ทำสัญญาขายฝากไปแล้ว เจ้าของทรัพย์อยากจะเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลได้ไหม

กรณีที่ทรัพย์ ทำสัญญาขายฝาก ไปแล้ว เจ้าของทรัพย์ต้องการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (เจ้าของคนเดิม แต่ต้องการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล) ที่สำนักงานเขต สามารถทำได้อย่างแน่นอน ไม่ได้ปิดกฎหมาย และในวันที่ไถ่ถอน เจ้าของทรัพย์จะต้องนำใบเปลี่ยนชื่อของตนเองมาด้วย  แต่ถ้าหากทรัพย์ไม่นำใบเปลี่ยนชื่อของตนเองมา ก็จะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ การเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล สามารถทำได้ทั้งผู้ขายฝาก และผู้รับซื้อฝาก แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปข้างต้น เมื่อวันที่ต้องทำธุรกรรมที่กรมที่ดิน เอกสารการเปลี่ยนชื่อนั้นต้องเตรียมมาทั้ง2ฝ่าย ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนชื่อนามสกุลในระหว่างที่สัญญาขายฝาก (เปลี่ยนชื่อเป็นผู้ขายฝากคนใหม่) สัญญายังมีผลบังคับใช้อยู่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่สามารถทำได้โดยพลการ เนื่องจากสัญญาขายฝากเป็นสัญญาที่มีผลทางกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงชื่อนามสกุลของบุคคลใดบุคคลหนึ่งในสัญญา จะส่งผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของทั้งผู้ซื้อฝากและผู้รับซื้อฝาก การที่ผู้ขายฝากเดิมจะเปลี่ยนชื่อเป็นผู้ขายฝากคนใหม่ ผู้ขายฝากคนเดิมจะต้องมาไถ่ถอนสัญญาขายฝากเดิมก่อน แล้วจึงจะ ทำสัญญาขายฝาก ใหม่และเปลี่ยนเป็นชื่อผู้ขายฝากคนใหม่ได้ เห […]

อ่านเพิ่มเติม
20
Jul 24
ผู้ขายฝากไม่มีเงินมาไถ่ถอน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของใคร?

สัญญาขายฝาก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเงินทุน แต่ยังต้องการคงไว้ซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า สัญญาขายฝากนั้นเหมือนกับการจำนองที่ดิน แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันอยู่มาก โดยเฉพาะผลลัพธ์ที่ตามมาหากผู้ขายฝากไม่มีเงินมาไถ่ถอนที่ดินภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา วันนี้  เราจะมาไขข้อข้องใจ  “กรณีผู้ขายฝากไม่มีเงินมา ไถ่ถอน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของใคร?”  พร้อมเจาะลึกประเด็นน่าสนใจ  “เกี่ยวกับสัญญาขายฝาก กันค่ะ   เมื่อผู้ขายฝากไม่มีเงินมาไถ่ถอนที่ดิน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของ “ผู้รับขายฝาก” โดยไม่ต้องดำเนินการฟ้องร้องใดๆ เพิ่มเติม ต่างจากการจำนอง ที่ผู้รับจำนองจะต้องฟ้องร้องต่อศาล เพื่อบังคับคดีก่อน จึงจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทั้งนี้ สิทธิ์ของผู้ขายฝากที่จะไถ่ถอนที่ดินนั้น  จะมีระยะเวลา “ไม่เกิน 10 ปี”  นับตั้งแต่วันทำสัญญาขายฝาก  ซึ่งระยะเวลานี้  สามารถตกลงกัน  “ให้สั้นลงหรือยาวนานขึ้นได้”  แต่ไม่เกิน 10 ปี อย่างไรก็ตาม กฎหมายยังมีช่องทางช่วยเหลือผู้ขายฝาก  “กรณีพิเศษ”  ดังนี้       R […]

อ่านเพิ่มเติม