การฝากขาย และ การขายฝาก แตกต่างกันอย่างไร
17
Oct 23

หลายๆ คนอาจจะยังสับสนหรือสงสัยกับว่า การขายฝาก และ การฝากขาย แตกต่างกันอย่างไร

แม้ว่าอ่านแล้วอาจจะดูคล้ายกัน แต่สองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของการขายฝาก กับ การฝากขายกันก่อนดีกว่าค่ะ
ว่าแต่ละตัวมันมีความหมายยังไง จะได้ไม่เข้าใจกันผิดกันอีกจ้า

การขายฝาก คือ สัญญาการซื้อขายรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกแก่ผู้รับขายฝาก (นายทุน) ณ วันที่ทำสัญญาที่กรม ที่ดิน
ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า ผู้ขายฝากสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้
ภายในระยะเวลาที่ระบุในสัญญา (แต่ไม่เกิน 10 ปี) หากไม่มาไถ่ถอนทรัพย์สิน
กรรมสิทธิ์นั้นจะตกเป็นของผู้รับฝาก(นายทุน) ทันที

ส่วนการ ฝากขายนั้น ผู้ฝากขายจะนำทรัพย์สินของตนเองไปฝากขายกับตัวแทน หรือนายหน้า
เพื่อให้ทางนายหน้า ช่วยทำการตลาด โฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ทรัพย์สิน
ที่เจ้าของทรัพย์นำไปฝากขาย ซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะยังเป็นของผู้ฝากขายอยู่
และจะโอนเป็นของผู้อื่นเมื่อนายหน้าได้ทำการขายทรัพย์สินนั้น ให้กับผู้ฝากขายได้แล้ว

ตารางเปรียบเทียบระหว่างขายฝากและฝากขาย

หัวข้อ

ขายฝาก

ฝากขาย

ธุรกรรมการขายฝากและสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินนั้นคืนได้ หากครบสัญญาหรือไถ่ถอนก่อนครบกำหนดก็ได้เป็นการมอบหมายหรือแต่งตั้งให้บุคคลใด ๆบุคคลหนึ่ง (นายหน้า)  เป็นผู้ขายหรือกระทำการขายทรัพย์สินแทน และเจ้าของทรัพย์ ทำการชำระค่าตอบแทนให้กับนายหน้า
กรรมสิทธิ์กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝาก(นายทุน) ทันทีเมื่อมีการทำสัญญาจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังคงเป็นของเจ้าของทรัพย์ จนกว่าจะมีการเสนอขาย ทำสัญญาเป็นหนังสือ และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน
สิทธิไถ่คืนผู้ขายฝากสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินคืนจากผู้รับซื้อฝาก (นายทุน) ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามสัญญาขายฝาก หรือ ตามกำหนดระยะเวลาที่ขยายออกไปตามที่ตกลง หรือที่กฎหมายกำหนดไม่มี
ค่าตอบแทนผู้รับซื้อฝาก(นายทุน) จะได้ดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทน ตามอัตราที่สัญญาตกลงไว้ในสัญญาขายฝากแต่สูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปีหรือ 1.25% ต่อเดือนตัวแทน/นายหน้าจะได้รับค่าตอบแทนหรือค่านายหน้า ในการขายให้แก่เจ้าของทรัพย์สิน
สิทธิในการครอบครองผู้ขายฝากยังมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่นำไปขายฝากได้จนถึงวันไถ่ถอน แต่สิทธิครอบครองจะหมดไป หากผู้ขายฝากไม่มาไถ่ถอนทรัพย์สินในเวลาที่กำหนดในสัญญาสิทธิยังเป็นของเจ้าของทรัพย์สิน จนกว่าจะมีการขาย โอนทรัพย์สินนั้นไปได้จริง

** ทรัพย์ที่จะนำมาขายฝากได้ คุณต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นและต้องปลอดภาระหนี้สิน

 

ยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น
นายเอ มีคอนโด 1ห้อง แต่คอนโดนี้ ยังผ่อนธนาคารอยู่
เพราะฉะนั้น นายเอ ไม่สามารถนำคอนโดห้องนี้มาขายฝากได้เพราะคอนโดนี้
ยังไม่ปลอดภาระหนี้ คือยังติดธนาคารอยู่ ธนาคารคือเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
แต่นายเอ สามารถนำทรัพย์นี้ไปฝากขายกับนายหน้าหรือตัวแทนได้แม้ยังไม่ปลอดภาระหนี้

 

สรุป คือ การขายฝาก คือการนำทรัพย์สินมาขายฝากกับนายทุน (คล้ายๆการจำนำ)
ผู้ขายฝากจะได้รับเงินก้อนจากนายทุนไปใช้สอยเพื่อหมุนเวียนธุรกิจหรือใช้หนี้สิน
แต่ผู้ขายฝากต้องชำระดอกเบี้ย หรือค่าตอบแทนให้กับนายทุนทุกเดือนตามอัตราที่กำหนดในสัญญาขายฝาก
ส่วนฝากขายเป็นการแต่งตั้งนายหน้าให้มาขายทรัพย์สินแทน
และผู้ฝากขายจะเสียค่าตอบแทนหรือค่านายหน้าให้กับ ตัวแทนหรือนายหน้าก็ต่อเมื่อ
นายหน้าได้ทำการขายทรัพย์สินได้แล้วเท่านั้น

 

ดังนั้นการขายฝากจึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้เงินในระยะสั้น แต่ไม่อยากเสียทรัพย์สินนั้น ๆ ไป
เช่น ต้องการนำเงินไปหมุนธุรกิจก่อนหรือ หรือต้องใช้เงินด่วน
เพราะหากไปกู้ธนาคารอาจจะต้องใช้เวลานาน และยิ่งเจ้าของทรัพย์ไม่มีเครดิต
ก็จะไม่สามารถนำทรัพย์สินไปวางค้ำประกันกู้ธนาคารได้

 

ส่วนการฝากขายนั้น เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ต้องการถือครองทรัพย์สินนั้นแล้ว
และต้องการใช้เงิน เรียกว่า ต้องการปลอดภาระนั่นเอง

.

การจะตัดสินใจนำทรัพย์ไปขายฝากหรือฝากขาย เจ้าของทรัพย์ควรศึกษาเงื่อนไข
ของการทำธุรกรรมทั้งสองแบบให้ละเอียด เพื่อให้ได้รับประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด
การขายฝากและการฝากขาย ต่างมีข้อดีและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
หากศึกษายังไม่ละเอียดรอบคอบ อาจส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย

การฝากขาย และ การขายฝาก แตกต่างกันอย่างไร

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

เงินไม่พอไถ่ถอน
25
Jul 24
เงินไม่ไถ่! ขยายสัญญา ขายฝาก ได้หรือไม่?

เงินไม่พอไถ่! ขยายสัญญา ขายฝาก ได้หรือไม่? ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน หลายคนอาจเผชิญปัญหาด้านการเงิน  รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย  ส่งผลต่อการผ่อนชำระหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้จำนองหรือขายฝากที่ผูกพันกับที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์   วันเราจะมาไขของสงสัยกันว่า “กรณีเงินไม่พอไถ่  เราสามารถขยายสัญญาจำนอง  ขายฝาก หรือหาทางออกอื่นได้หรือไม่ การขยายสัญญา ทำได้หรือไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 504   ผู้ขายฝากและผู้ซื้อฝากสามารถตกลงกันเพื่อขยายระยะเวลาไถ่ถอนได้ แต่ต้องไม่เกิน 10 ปี   นับตั้งแต่วันทำสัญญาขายฝากครั้งแรก รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายสัญญาขายฝาก: เงื่อนไข: – ผู้ขายฝากและผู้ซื้อฝาก ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร – ระยะเวลาไถ่ถอนรวม ไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันทำสัญญาขายฝากครั้งแรก – ไม่มีการจำกัดจำนวนครั้ง ในการขยายระยะเวลาไถ่ถอน แต่ละครั้งต้องไม่เกิน 10 ปี ขั้นตอน: – ผู้ขายฝากติดต่อผู้ซื้อฝาก เพื่อแจ้งความประสงค์ขอขยายสัญญา – ตกลงกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนใหม่ เป็นลายลักษณ์อักษร – ทำสัญญาขยายระยะเวลาไถ่ถอน เป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย […]

อ่านเพิ่มเติม
สมรสเท่าเทียม สำคัญแค่ไหนในวงการอสังหาฯ
30
Jun 23
สมรสเท่าเทียม สำคัญแค่ไหนในวงการอสังหาฯ

พูดถึงประเด็นที่ตอนนี้สังคมไทยเรากำลังให้ความสำคัญอย่าง สมรสเท่าเทียม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการผลักดันกฎหมาย สมรสเท่าเทียม ให้มีผลทางกฎหมายนั้น มีความสำคัญในแง่ของความเท่าเทียมทางสิทธิต่างๆ ในสังคมของคู่รักเพศเดียวกัน หรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกกันว่าคู่รัก LGBTQ+  วันนี้เราจึงจะอยากจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับแง่มุมต่างๆ กันว่าสมรสเท่าเทียมนั้น มีส่วนสำคัญแค่ในกับวงการอสังหาริมทรัพย์ และจะส่งผลดีในแง่มุมใดบ้าง  สมรสเท่าเทียม กับวงการอสังหาฯ การกู้ร่วม  บ้านเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต และเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัวได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้คู่รักส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยด้วยกัน และการกู้ก็เป็นหนึ่งในช่องทางที่ทำให้เราสามารถมีบ้านเป็นพยานรักของกันและกันได้ ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว หากคนใดคนหนึ่งไม่สามารถกู้ซื้อบ้านโดยเพียงลำพังได้ เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับวงเงินที่ต้องการจะซื้อบ้าน เราสามารถนำรายได้ของคู่สมรสมาร่วมกันกู้ได้อีกแรง แต่.. มีคนกลุ่มหนึ่งที่แม้พวกเขาจะรักกันมากเพียงใด คบหาดูใจกันนานเป็นสิบปี ก็ไม่อาจจะใช้ความเป็นคู่รักในการกู้ร่วมกัน […]

อ่านเพิ่มเติม
เลือกซื้อที่ดิน สร้างบ้าน ต้องเลือกอย่างไร
14
Jul 23
เลือกซื้อที่ดินสร้างบ้าน ต้องเลือกอย่างไร

เพื่อนๆทุกคนอยากมีบ้านในฝันกันอยู่แล้ว โครงการบ้านหลายๆ โครงการดูสวย น่าอยู่ แต่ก็ไม่ตรงสิ่งที่อยากได้หรือฝันไว้ จะรื้อทำใหม่ก็ทำไม่ได้  ในเมื่อบ้านโครงการไม่ตอบโจทย์ ก็เลยอยากสร้างเอง เราสามารถควบคุมคุณภาพวัสดุ การออกแบบ การก่อสร้าง และที่สำคัญคือ งบประมาณ ได้ด้วยตนเอง รวมถึงการเลือกทำเลที่ดินสร้างบ้านด้วย ก่อนจะสร้างบ้านได้นั้นต้อง เลือกซื้อที่ดิน ก่อน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูว่า การเลือกซื้อที่ดินสร้างบ้านนั้นต้องเลือกอย่างไร ไปดูกันเลยครับ  เลือกซื้อที่ดิน ไว้ปลูกสร้างบ้าน ต้องเลือกอย่างไร ทำเล ทำเลคือหัวใจสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณเลือกทำเลไม่ดี ชีวิตคุณก็จะลำบาก เราต้องเลือกที่ดินที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก  การเดินทางเป็นอย่างไร สิ่งแวดล้อมเหมาะสมกับชีวิตคุณในปัจจุบันและอนาคตหรือไม่ ก็คือเลือกตามการใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัวให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคุณให้ได้มากที่สุด ขนาดพื้นที่ ขนาดพื้นที่ดินก็สำคัญ เราต้องนึกถึงประโยชน์ใช้สอยให้คุ้มค่า เหมาะกับ ครอบครัวของคุณเป็นลักษณะไหน มีสมาชิกกี่คน มีสมาชิกในวัยไหนบ้าง และต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อนก่อสร้างให้ดี แนะนำให้เลือกรูปร่างของที่ด […]

อ่านเพิ่มเติม