พนักงานประจำ VS เจ้าของธุรกิจใคร ขอสินเชื่อ ง่ายกว่ากัน
5
May 23

ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือแม้แต่เจ้าของกิจการเองก็คงอยากมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเองทั้งนั้น
แต่การจะมีบ้านหรือคอนโดสักหลังที่มีราคาค่อนข้างสูงอาจเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับบางคน
ถึงแม้ช่วงนี้เหล่า Developer จะออกโปรโมชั่น ขายคอนโดราคาถูกลง
แต่หากเราไม่มีเงินสดไปซื้อแบบเต็มจำนวน แน่นอนว่าต้องมีการยื่น ขอสินเชื่อ กับทางธนาคาร
แล้วระหว่างคน 2 คน ที่เป็นพนักงานประจำกับเจ้าของกิจการ ธนาคารจะมีหลักการพิจารณาที่แตกต่างกันไหม
ธนาคารจะขอเอกสารอะไรบ้าง และใครที่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ได้ง่ายกว่ากัน มาดูกันเลยค่ะ

เอกสารที่ใช้ในการยื่นขออนุมัติสินเชื่อบ้าน
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการยื่น ขอสินเชื่อ กับธนาคารต้องเตรียมเอกสารกู้บ้านให้พร้อม
เพื่อช่วยร่นระยะเวลาให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อบ้านเร็วมากยิ่งขึ้น
การเตรียมเอกสารจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

เอกสารทั่วไป
1. สำเนาบัตรประชาชน บัตรข้าราชการ หรือหนังสือเดินทาง
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่
4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้ ซึ่งส่วนนี้เอกสารที่ต้องเตรียมระหว่าง พนักงานประจำและเจ้าของกิจการ
จะมีความแตกต่างกันอยู่ค่อนข้างมาก
สำหรับพนักงานประจำสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมก็คือ
– หนังสือรับรองเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนแบบใช้สวัสดิการของหน่วยงาน
– สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
–  สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน

สำหรับเจ้าของกิจการเอกสารที่คุณต้องเตรียมก็คือ
– สำเนาทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
– รายชื่อผู้ถือหุ้น
– รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
– สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี
– หลักฐานการเสียภาษี เช่น ภ.พ. 30 เป็นต้น
– รูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพพร้อมแผนที่ตั้งโดยสังเขป

จะเห็นได้ชัดเลยว่าเอกสารของผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะเยอะและละเอียดกว่าผู้ที่เป็นพนักงานประจำอยู่มาก

สำหรับหลักเกณฑ์พิจารณาที่แตกต่างกันก็คือ ประเภทของรายได้
ซึ่งถ้าคุณเป็นพนักงานประจำ รายได้ดี ภาระหนี้สินไม่มากเกิน เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีปัญหาเลย
ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาจะเป็นเจ้าของกิจการ
เพราะการประเมินรายได้ของธนาคารจะแตกต่างจากพนักงานประจำมากๆ เลย เช่น

นาย A เป็นพนักงานประจำมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน กับนาย B ที่เป็นเจ้าของกิจการมีรายได้ 50,000 บาทเท่ากัน
ธนาคารก็จะคิดรายได้ของนาย A เต็ม 50,000 บาทและนำไปคิดเลยว่านาย A สามารถกู้ได้เท่าไหร่
แต่สำหรับนาย B ที่เป็นเจ้าของกิจการเมื่อยื่นไปว่ามีรายได้ 50,000 บาท ทางธนาคารจะนำ 50,000 บาท
ไปหักกับค่าส่วนต่างหรือค่าอื่นๆ โดยส่วนใหญ่จะหักอยู่ที่ 20 – 40%  โดยจำนวนที่จะโดนหักขึ้นอยู่กับ ความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
ประเภทธุรกิจและปัจจัยอื่นๆ นอกจากนี้ธนาคารยังต้องดูกำไรของธุรกิจที่ทำ และสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่
เพื่อพิจารณาว่านาย B มีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามวงเงินที่ยื่นขอสินเชื่อไว้หรือไม่

จากที่เรากล่าวมาทั้งหมดในข้างต้นการตอบคำถามที่ว่าธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ใครได้ง่ายกว่ากันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
ธนาคารจะมองว่าพนักงานประจำนั้นมีรายได้ที่แน่นอนกว่า ทำให้ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้กับพนักงานประจำได้ง่ายกว่านั่นเอง

พนักงานประจำ VS เจ้าของธุรกิจใคร ขอสินเชื่อ ง่ายกว่ากัน

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

30
Sep 25
ยืม เงินด่วนถูกกฎหมาย เงินฉุกเฉิน อนุมัติไว มีที่ไหนบ้าง?

ยืม เงินด่วนถูกกฎหมาย เงินฉุกเฉิน อนุมัติไว มีที่ไหนบ้าง? เงินไม่พอใช้ ต้องการเงินด่วน แต่ไม่อยากพึ่งเงินกู้นอกระบบ ทำอย่างไรดี?             ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง รายจ่ายมากกว่ารายรับ หลายคนประสบปัญหาเงินขาดมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอม ค่าซ่อมรถ หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ การมองหา แหล่งเงินด่วนถูกกฎหมาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาวิกฤตได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเสี่ยงกับ “หนี้นอกระบบ” ที่ดอกเบี้ยสูงลิ่ว และมักมีปัญหาตามมา             บทความนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหา รวบรวม แหล่งเงินด่วนถูกกฎหมาย อนุมัติไว ปลอดภัย พร้อมแนะนำจุดเด่น เงื่อนไข และวิธีสมัครในแต่ละช่องทางมาให้แล้ว…    5 แหล่งยืมเงินด่วนถูกกฎหมาย ที่อนุมัติไว ปี 2025             1. LINE BK – วงเงินให้ยืม                         ✅ วงเงินสูงสุด 800,000 บาท                         ✅ สมัครง่ายผ่านแอป LINE                         ✅ ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน (หากมีประวัติรายรับที่ชัดเจน)                         ✅ ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน                         ✅ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 18% ต่อ […]

อ่านเพิ่มเติม
ทำความเข้าใจขั้นตอนการ ขอรังวัด
3
Jan 25
ทำความเข้าใจขั้นตอนการ ขอรังวัด

>>> การขอรังวัดที่ดิน คืออะไร มีแบบไหนบ้าง? วันนี้ Property4Cash สรุปมาให้แล้วค่ะ… ขอรังวัด หรือรังวัดที่ดิน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อ-ขายจะต้องรู้และเข้าใจ รวมทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ถี่ถ้วนก่อนทำการซื้อ-ขายด้วย อีกทั้งการขอรังวัดที่ดินก็มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินด้วยนะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาทำความเข้าใจกันเลยค่ะ…    รังวัดที่ดิน หมายถึง กระบวนการวัดและกำหนดขอบเขตของที่ดินอย่างถูกต้อง โดยอาศัยเครื่องมือวัดและวิธีการทางวิศวกรรมสำรวจ เพื่อจัดทำเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 รวมถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนของที่ดิน มีจุดประสงค์ของการรังวัดที่ดิน ดังนี้ การออกเอกสารสิทธิ์ : เพื่อออกโฉนดหรือหนังสือรับรองการครอบครองที่ดิน การแบ่งแยกหรือรวมแปลงที่ดิน : ใช้ในกรณีแบ่งที่ดินเป็นแปลงย่อยหรือรวมที่ดินหลายแปลงเข้าด้วยกัน การตรวจสอบแนวเขตที่ดิน : เพื่อยืนยันขอบเขตที่ดินตามเอกสารสิทธิ์หรือแก้ไขกรณีที่มีข้อพิพาท การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม : เช่น การจำนอง ขาย หรือโอนที่ดิน สิ่งที่เจ้าของที่ดินควรรู้ก่อนขอรังวัดที่ดิน จากเว็บไซต์กรมที่ดินได้แจงรายละเอียด […]

อ่านเพิ่มเติม
ลงทุนขายฝาก ดีกว่าซื้อไว้ปล่อยเช่ายังไง
3
Mar 23
ลงทุนขายฝาก ดีกว่าซื้อไว้ปล่อยเช่ายังไง

ลงทุนขายฝาก รับจำนอง เป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 15% ต่อปีได้ แต่เป็นการลงทุนที่หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นหูนัก เพราะเมื่อนึกถึงการลงทุนอสังหาฯ แล้ว มันคุ้นชินกับการซื้อมาเก็บไว้เก็งกำไร หรือซื้อมาเพื่อปล่อยเช่าเสียมากกว่า วันนี้เราลองมาดูกันว่า การลงทุนในอสังหาฯ อย่างการซื้อมาปล่อยเช่า และ ลงทุนรับจำนอง-ขายฝาก  แตกต่างกันอย่างไรบ้าง และอะไรดีกว่ากัน ? ลงทุนขายฝาก vs ซื้อไว้ปล่อยเช่า การลงทุนขายฝาก รับจำนอง และ การซื้อไว้ปล่อยเช่า ต่างก็เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสดเข้าบัญชีเราทุกเดือนได้เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดอยู่มาก ผลตอบแทนต่อปี ซื้อไว้ปล่อยเช่า : มีผลตอบแทนอยู่ที่ 6-8% ต่อปี ลงทุนขายฝาก – จำนอง : มีผลตอบแทนอยู่ที่ 15% ต่อปี การลงทุน ซื้อไว้ปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้าน หรือว่าที่ดินนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว จะมีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 5-8% ต่อปี กล่าวคือหากเราซื้อคอนโดมาราคา 2,000,000 บาท แล้วปล่อยเช่าได้ในราคาประมาณ 8,000 – 13,000 บาท / เดือน เท่ากับว่าเราจะได้ค่าเช่าปีละประมาณ 100,000 – 160,000 บาท ส่วนการลงทุน ร […]

อ่านเพิ่มเติม