ขอรังวัดที่ดิน ต้องทำอย่างไรบ้าง?
8
Dec 23

เมื่อเจ้าของที่ดินมีความจำเป็นต้องยื่นเรื่อง ขอรังวัดที่ดิน กับเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน
ไม่ว่าจะเป็น ต้องการทราบขนาดแปลงที่ดิน เขตแดนอยู่ตรงบริเวณไหน?
มีปัญหาที่ดินทับซ้อนกับที่ดินของใครหรือไม่ อย่างไร? ราคารังวัดที่ดินต้องจ่ายกี่บาท?
รวมถึงมีหลักเกณฑ์คิดค่าบริการรังวัดอย่างไร? ยึดจากขนาดพื้นที่หรืออื่นๆ?
วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนแล้วค่ะ

ในการ ขอรังวัดที่ดิน กับทางรัฐ  สามารถเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินแห่งนั้นกันได้เลยค่ะ
เมื่อเดินทางไปถึงแล้วสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ได้เลยค่ะ

  1. ให้เจ้าของที่ดินรอรับบัตรคิวจากเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน
  2. เตรียมชำระเงินค่าธรรมเนียม “การขอ” หลังจากแจ้งรับคำขอสอบสวน
  3. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งฝ่ายรังวัดเข้ามาดำเนินการ
    จากนั้นจะแจ้งนัดวันทำการรังวัดพร้อมกำหนดตัวช่างรังวัดและเงินมัด
    จำสำหรับรังวัดที่ดินซึ่งทางผู้ร้องขอต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้เสมอ
  4. ทางกรมที่ดินจะเริ่มต้นค้นหารายชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินข้างเคียง
    จากนั้นพิมพ์หนังสือเพื่อแจ้งให้ผู้ร้องขอรังวัดขนาดที่ดินทราบ
  5. เจ้าของที่ดินที่เป็นผู้ดำเนินเรื่องร้องขอรังวัดที่ดินจะได้รับหนังสือแจ้งข้างเคียงจากกรมที่ดิน
    จากนั้นให้ผู้ร้องขอเข้าไปดำเนินการวางเงินมัดจำรังวัดพร้อมรับหลักเขตที่ดิน
  6. เมื่อครบตามกำหนด ช่างรังวัดจะออกไปทำการรังวัดขนาดที่ดิน
    ซึ่งจะมีการคำนวณพื้นที่พร้อมเขียนรูปแผนที่ลงบนโฉนดที่ดินของผู้แจ้ง
  7. ช่างรังวัดจะส่งเรื่องรังวัดคืนฝ่ายทะเบียนหลังเสร็จภารกิจ
    จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ร้องขอเข้ามาจดทะเบียน
  8. ในขั้นตอนนี้จะมีการสอบสวนจดทะเบียนแบ่งแยก
    และจะมีการตรวจอายัดต่อไป
  9. ผู้ร้องขอสามารถเดินทางเข้ามาชำระเงินค่าธรรมเนียม
    การจดทะเบียนรวมถึงค่าโฉนดได้ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด
  10. ทางกรมที่ดินจะแก้รายการทะเบียนให้ถูกต้อง ในขณะเดียวกัน
    มีหน้าที่ดำเนินเรื่องจดทะเบียนแบ่งแยก
  11. เจ้าหน้าที่ทำเรื่องสร้างโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
  12. รอลงนามประทับตราจากเจ้าหน้าที่พนักงานระดับสูง
  13. เมื่อครบตามขั้นตอน จะดำเนินเรื่องแจกที่ดินแปลงแบ่งแยกให้กับผู้ร้องขอ

ค่าใช้จ่ายสำหรับ รังวัดที่ดิน
ในส่วนของค่าใช้จ่ายราคารังวัดที่ดิน เป็นเรื่องที่ทางเจ้าของที่ดินต้องดำเนินการชำระตามกฎหมาย
ด้วยตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากผู้ร้องขอละเว้นไม่ปฏิบัติตาม จะโดนค่าปรับเป็นรอบๆ ไป
ในส่วนของค่าธรรมเนียมรังวัดที่ดินจะมีดังนี้ค่ะ

  • โฉนดที่ดิน ค่าบริการ 40 บาทต่อแปลงต่อวัน
  • หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ค่าบริการ 30 บาทต่อแปลงต่อวัน
  • ค่าหลักที่ดิน คิดตามจริง ค่าบริการหลักละ 15 บาท

ค่าใช้จ่ายรังวัดที่ดิน คิดในลักษณะเหมาจ่าย มีดังต่อไปนี้

  • ค่าพาหนะของเจ้าหน้าที่รังวัดรวมถึงพนักงานที่เกี่ยวข้อง
    คิดค่าบริการ ตกวันละไม่เกิน 1,600 บาท
  • ค่าคนงานที่เข้าไปรังวัดที่ดิน คิดค่าบริการวันละ 420 บาทต่อคนต่อวัน
    (ตามเขตจังหวัดที่กระทรวงการคลังได้กำหนดไว้ ค่าใช้จ่ายอาจจะไม่เท่ากันในบางพื้นที่)
    โดยกำหนดตามพื้นที่ดังต่อไปนี้ค่ะ

    • เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ ให้ใช้เวลาดำเนินการ 1 วัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 3,480 บาท
    • เนื้อที่ไม่เกิน 15 ไร่ ให้ใช้เวลาดำเนินการ 2 วัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 6,760 บาท
    • เนื้อที่ไม่เกิน 30 ไร่ ให้ใช้เวลาดำเนินการ 3 วัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 10,040 บาท
    • เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ ให้ใช้เวลาดำเนินการ 4 วัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 13,320 บาท

การรังวัดในส่วนของหนังสือรับรองการทำประโยชน์

  • เนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ ให้ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 1 วัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 2,640 บาท
  • เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ ให้ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 2 วัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5,080 บาท

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะมีประมาณนี้นะคะ แต่ทุกคนก็อย่าลืมเตรียมเงินเพื่อไว้นะคะ
ในกรณีฉุกเฉินจะได้มีสำรองจ่าย ยังไงเหลือก็ดีกว่าขาดใช่ไหมละคะ

ขั้นตอนอาจจะดูมีเยอะแต่ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เมื่อไปถึงสำนักงานที่ดิน
จะมีพนักงาน เจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำตลอดเลยค่ะ

ขอรังวัดที่ดิน ต้องทำอย่างไรบ้าง?

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

โฉนดติดขายฝาก
28
Aug 24
โฉนดติดขายฝาก ไถ่ถอนไม่ทันภายในระยะเวลาจะเกิดอะไรขึ้น?

โฉนดติดขายฝาก การทำธุรกรรมขายฝากโดยทั่วไปแล้ว สัญญาขายฝากจะมีระยะเวลาในการ ไถ่ถอน ที่กำหนดไว้ชัดเจน หากเจ้าของทรัพย์ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด สัญญาขายฝากจะกลายเป็นเสมือนสัญญาซื้อขายโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่า เจ้าหนี้ (ผู้รับซื้อฝาก) จะถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนั้นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และเจ้าของทรัพย์จะสูญเสียสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นไป แต่การนำอสังหาริมทรัพย์มาทำธุรกรรมขายฝากนั้นก็ไม่ได้เสี่ยงที่ทรัพย์จะตกไปเป็นสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากเสมอไป เนื่องจากเจ้าของทรัพย์สามารถเจรจาหรือคุยกับทางผู้รับซื้อฝากเรื่องขอต่อสัญญาได้ เมื่อทรัพย์ต่อสัญญาขายฝากแล้วก็จะขยายระยะเวลาในการไถ่ถอนออกไปอีก โฉนดติดขายฝาก การต่อสัญญาขายฝาก คือการขยายระยะเวลาในการชำระหนี้และไถ่ถอนทรัพย์สินที่ขายฝากออกไปจากเดิม โดยต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ขายฝาก (เจ้าของทรัพย์เดิม) และผู้ซื้อฝาก (ผู้ให้กู้) นอกจากการขยายสัญญาขายฝากเพื่อไม่ให้ โฉนดติดขายฝาก ไปเป็นสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมการต่อสัญญาด้วย ทรัพย์จะต้องชำระค่าใช้จ่ายการขยายสัญญาเพ […]

อ่านเพิ่มเติม
จำนอง- ขายฝากคอนโดต้องขอเอกสารอะไรจากนิติบ้าง?
16
Sep 23
จำนอง-ขายฝาก คอนโดต้องขอเอกสารอะไรจากนิติบ้าง?

รู้หรือไม่ว่าคอนโดก็สามารถทำการจำนอง- ขายฝากคอนโด ได้เช่นกัน หากเราต้องการเงินด่วน คอนโดเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถช่วยคุณได้ โดยการจำนอง- ขายฝากคอนโด จะมีการเตรียมเอกสารแตกต่างจากที่ดินหรือบ้านเล็กน้อย เพราะมีเอกสารที่ต้องขอจากนิติบุคคลที่ดูแลคอนโดนั้นๆ ด้วย จะมีเอกสารอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ เอกสารที่ต้องเตรียมในการ “ขายฝาก” คอนโดสำหรับบุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชน ตัวจริง (พร้อมสำเนา) ทะเบียนบ้าน (พร้อมสำเนา) หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2 หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล ตัวจริง (พร้อมสำเนา) *ถ้ามี ทะเบียนสมรส (สำเนา) *ถ้ามี ทะเบียนหย่า , ใบมรณบัตร (สำเนา) *ถ้ามี หนังสือยินยอมให้ทำนิติกรรมของคู่สมรส (หากมีคู่สมรส แต่คู่สมรสไม่ได้มาทำธุรกรรมด้วย) ใบปลอดค่าสาธารณูปโภค ( ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ) จากรายการเอกสารข้างต้นจะเห็นว่ามี “ใบปลอดค่าสาธารณูปโภค” *ซึ่งเอกสารส่วนนี้เราจะต้องขอผ่านนิติบุคคลคอนโดเท่านั้น* โดยใบปลอดค่าสาธารณูปโภคหรือที่เรียกกันว่า “ใบปลอดหนี้” คือ เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินการทำนิติกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ – ขาย หรือการขายฝาก รวมถึงการยกมรดก และ […]

อ่านเพิ่มเติม
เรียนรู้วิธีเตรียมรับมือกับสถานการณ์ “ปลดพนักงานสายฟ้าแล่บ” ทั้งในมุมมองของพนักงานและองค์กร พร้อมแนะนำแนวทางปรับตัวและปกป้องอาชีพของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
7
Jun 25
ปลดพนักงานสายฟ้าแล่บ เราต้องเตรียมรับมืออย่างไรบ้าง?

          ในยุคที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน การ ปลดพนักงานสายฟ้าแล่บ กลายเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว บางครั้งบริษัทใหญ่ที่ดูมั่นคงกลับปลดพนักงานแบบทันทีทันใด สร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งต่อผู้ถูกปลดและเพื่อนร่วมงาน แล้วเราควรเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้อย่างไร? 1. สังเกตสัญญาณก่อนการ ปลดพนักงานสายฟ้าแล่บ           แม้ว่าจะไม่มีใครบอกล่วงหน้า แต่หลายครั้งก็มี “สัญญาณเตือน” เช่น บริษัทเริ่มลดต้นทุนหรือหยุดรับพนักงานใหม่  โครงการสำคัญถูกชะลอหรือยกเลิก  ผู้บริหารลาออกหลายคนในเวลาใกล้เคียงกัน  หากพบเห็นสัญญาณเหล่านี้ ควรเริ่มวางแผนล่วงหน้า   2. วางแผนการเงินฉุกเฉิน           การมี “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” หรือเงินเก็บอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำ ช่วยให้เรารับมือกับภาวะตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวได้ดีขึ้น อย่ารอให้ถูกปลดแล้วค่อยเริ่มออม เพราะอาจสายเกินไป   3. อัปเดตทักษะและสร้างเครือข่าย เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการ เช่น Data Analytics, Digital Marketing, AI Tools ฯลฯ  อัปเดตเรซูเม่ให้ทันสมัย  เข้าร่วมกิจกรรม Networking หรือ LinkedIn เพื […]

อ่านเพิ่มเติม