การถมที่ดิน ต้องรู้กฎหมายถ้าไม่อยากโดนปรับ
16
Jan 24

“ การถมที่ดิน ” คือขั้นตอนแรกเริ่มของการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้านจัดสรร โรงงาน และกิจกรรมต่างๆ
ที่ต้องมีการลงโครงสร้าง การถมที่ดิน เราต้องดูหลายปัจจัยควบคู่กันไป ทั้งในเรื่องระดับความสูงของหน้าดิน
การทรุดตัวของดิน รวมถึงการระบายน้ำภายในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระยะยาวในภายหลัง

การถมที่ดิน เรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะมีทั้งเรื่องกฎหมาย ประวัติที่ดิน และผู้รับเหมาที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นเจ้าของที่ดินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะทำการถมที่ดิน
เพื่อส้รางบ้านหรืออาคารรูปแบบใดๆ ก็ตาม

ในส่วนวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องกฎหมายกันค่ะ เป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นจะต้องรู้เบื้องต้นก่อนตัดสินใจ
เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมีปัญหาตามมาภายหลังจากการโดนฟ้องร้อง ที่ต้องเสียทั้งเวลาและเงินเพิ่มเติม
ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

เริ่มจากทำความเข้าใจข้อกฎหมายก่อนถมที่ดินใหม่

การถมที่ดินจึงมีข้อบังคับให้อยู่ภายใต้ พรบ.ขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 โดยมีประเด็นหลักที่ต้องดูอยู่ด้วยกันอยู่ 4 ข้อ ดังนี้

  1. หากเจ้าของที่ดินจำเป็นต้องทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตร
    จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่พนักงานท้องถิ่น (ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
    หรือ นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล) และทำการขุดตามแบบที่เจ้าหน้าที่พนักงานท้องถิ่นกำหนด
  2. หากพื้นที่ที่ขุดดินมีความลึกจากระดับพื้นดินไม่เกิน 3 เมตร แต่อยู่ใกล้แนวเขตที่ดินของผู้อื่น
    ในระยะน้อยกว่าสองเท่าของความลึกของบ่อดินที่จะขุด ต้องจัดการป้องกันการพังทลายของดินตามวิสัยที่ควรกระทำ
    เพื่อป้องกันดินทลายลงสู่พื้นที่ข้างเคียง
  3. การถมที่ดินสูงกว่าพื้นที่ใกล้เคียง
    หากจะทำการถมดินโดยมีความสูงของเนินดินเกินกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ใกล้เคียง
    และมีพื้นที่ของเนินดินไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องจัดให้มีการระบายน้ำเพียงพอ
    ที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ข้างเคียง
  4. ความสูงของการถมดินใกล้แนวเขตผู้อื่น
    ส่วนฐานของเนินดินจะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่นหรือที่สาธารณะ
    เป็นระยะไม่น้อยกว่าความสูงของเนินดินที่จะถมดิน เช่น ถมดินสูง 2 เมตร ต้องร่นเข้ามา 2 เมตร
    หรือ ถมสูง 5 เมตร ต้องร่นเข้ามา 5 เมตร แต่สามารถยกเว้นการถมเต็มพื้นที่ได้โดยการทำกำแพงกัน

และถ้าเพื่อนบ้านของเราถมที่ดินสูงเกินไป เราจะทำอย่างไรได้บ้าง?
หากเจอสถานการณ์นี้ ให้แจ้งกับเจ้าของบ้านให้ทราบและตระหนักถึงข้อกำหนดทางกฎหมาย
ซึ่งมีตราอยู่ใน พ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 และนอกจากนี้ยังมีเรื่องของ เทศบัญญัติ
การผังเมือง และกฎหมายควบคุมอื่น ๆ และการทำแบบนั้นถือว่ามีความผิด

โดยให้ไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านหรือเจ้าของที่ข้างเคียง เพื่อทำความเข้าใจกันเสียก่อน
หากเจรจาไม่ได้ให้ไปขอให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้หยุดการขุดดินหรือถมดินนั้นได้

การถมที่ดิน ต้องรู้กฎหมายถ้าไม่อยากโดนปรับ

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficia

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

Blacklist และ เครดิตบูโรต่างกันอย่างไร
18
Apr 23
Blacklist และ เครดิตบูโรต่างกันอย่างไร

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่าเครดิตบูโรอยู่บ่อยๆ แต่หลายๆ อาจยังไม่เข้าใจ ว่าจริงๆ แล้วเครดิตบูโร มันคืออะไร และมันต่างจาก Blacklist ยังไงบ้าง มาค่ะ วันนี้เรามาทำความเข้าใจกัน ว่ามันมีความสำคัญอย่างไร และเอามาวัดเครดิตการเงินของเราอย่างไรบ้าง ข้อมูลเครดิตบูโร คือข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของเรา ซึ่งมันจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต หรือเราเรียกสั้นๆว่า NCB  ปัจจุบันข้อมูลเครดิตประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1 ข้อมูลบ่งชี้ถึงตัวตนเรา เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขบัตรประชาชน 2 ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ และประวัติการชำระสินเชื่อ ราคาสินค้าหรือบริการโดยบัตรเครดิต รวมถึงสถานะบัญชีอีกด้วย สถานะบัญชี คือ รายงานที่จะบอกว่าคุณชำระสินเชื่อปกติ สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือ สินเชื่อที่ปิดบัญชีแล้ว * สินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย เป็นต้น ข้อมูลเครดิตมีความสำคัญอย่างไร ? ต้องบอกเลยค่ะว่ามันสำคัญมาก เพราะมันคือข้อมูลเครดิตที่จะแสดงถึงประวัติการชำระหนี้ ที่จะสะท้อนถึงพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของเรา แสดงถึงความตั้งใจในการชำระหนี้ และความน่ […]

อ่านเพิ่มเติม
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถัาไม่จ่ายจะ ขายฝาก-จำนองได้ไหม?
8
Mar 24
ไม่ชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะ ขายฝาก-จำนองได้ไหม?

รู้ไหมคะว่าคนที่มีที่ดินเป็นของตัวเองนั้นต่างก็ต้องเสียภาษีด้วยกันทั้งสิ้น ภาษีที่ว่าก็คือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่คนทำธุรกิจ แต่ยังรวมถึงพวกเราคนธรรมดาที่ครอบครองที่ดิน ไม่ว่าจะเพื่อใช้ หรือทิ้งไว้รกร้างค่ะ ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กันก่อนเลยค่ะ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรืออาจเรียกสั้นๆ ว่าภาษีที่ดิน จะเป็นรูปแบบของภาษีรายปีที่คำนวณจากมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้ในครอบครอง ซึ่งจะมีเทศบาล อบต. เป็นผู้เรียกเก็บ สำหรับที่กทม. จะต้องชำระที่สำนักงานเขต ส่วนเมืองพัทยาจะต้องชำระที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา ทั้งนี้จากการประกาศรายละเอียดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 จากเดิมที่ต้องเสียภาษีในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน 2567 แทน ผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดินต้องมีเงื่อนไขดังนี้ 1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (ดูตามโฉนด ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน) ผู้ครอบครอง/ทำประโยชน์ในที่ดินนั้น จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ ประเภทของภาษีที่ดิน 2566 แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ 1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม  เพดานภา […]

อ่านเพิ่มเติม
TM30 ปล่อยเช่าชาวต่างชาติต้องรู้ ฉบับอัปเดต ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับ!!
22
Feb 24
อัพเดทการยื่น TM30 ปล่อยเช่าชาวต่างชาติต้องรู้ ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับ!!

ทันทีที่ผู้เช่าชาวต่างชาติเข้าห้องพักที่คุณปล่อยเช่า คุณอาจคิดว่าหน้าที่ในฐานะของเจ้าบ้านได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ไม่ใช่เช่นนั้นค่ะ เพราะสิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนต่อไปก็คือการแจ้ง ‘ TM30 ’ หรือ การแจ้งข้อมูลของลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาพักในห้องของเรา ให้กับที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง หรือสถานีตำรวจในท้องที่ ได้รับทราบ ตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522   การแจ้ง TM30 หรือ ตม. 30 นี้ ไม่ว่าใครที่ประกอบกิจการโรงแรม เกสเฮ้าส์ แมนชั่น อพาร์ตเม้นท์ สถานประกอบการ หรือบ้านเช่า ก็ต้องทำการแจ้งว่ามีชาวต่างชาติเข้าพักอาศัย ‘ภายใน 24 ชั่วโมง’ นับจากเวลาเข้าพัก และที่สำคัญก็คือ ชาวต่างชาติผู้นั้นต้องได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ต้องผ่านการตรวจเข้าเมืองตามกฎหมาย ต้องเข้ามาประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งหากเจ้าของห้องท่านใดไม่ปฎิบัติตาม จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท นั่นเองค่ะ   สำหรับในส่วนของวิธีการแจ้ง ตม. 30 นั้น สามารถทำได้ 3 วิธี คือ •  นำเอกสารมาแจ้งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผุ้อื่นนำเอกสารมาแจ้ง แจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน แจ้งทางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต(Inte […]

อ่านเพิ่มเติม