ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถัาไม่จ่ายจะ ขายฝาก-จำนองได้ไหม?
8
Mar 24

รู้ไหมคะว่าคนที่มีที่ดินเป็นของตัวเองนั้นต่างก็ต้องเสียภาษีด้วยกันทั้งสิ้น
ภาษีที่ว่าก็คือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่คนทำธุรกิจ
แต่ยังรวมถึงพวกเราคนธรรมดาที่ครอบครองที่ดิน ไม่ว่าจะเพื่อใช้ หรือทิ้งไว้รกร้างค่ะ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กันก่อนเลยค่ะ
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรืออาจเรียกสั้นๆ ว่าภาษีที่ดิน
จะเป็นรูปแบบของภาษีรายปีที่คำนวณจากมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้ในครอบครอง
ซึ่งจะมีเทศบาล อบต. เป็นผู้เรียกเก็บ สำหรับที่กทม. จะต้องชำระที่สำนักงานเขต
ส่วนเมืองพัทยาจะต้องชำระที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

ทั้งนี้จากการประกาศรายละเอียดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567 จากเดิมที่ต้องเสียภาษีในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน 2567 แทน

ผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดินต้องมีเงื่อนไขดังนี้
1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (ดูตามโฉนด ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน)

  1. ผู้ครอบครอง/ทำประโยชน์ในที่ดินนั้น จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้

ประเภทของภาษีที่ดิน 2566 แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ
1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม  เพดานภาษีสูงสุด 0.15%
2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย เพดานภาษีสูงสุด 0.30%
3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม เพดานภาษีสูงสุด 1.20%
4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า เพดานสูงสุด 3%

ทั้งนี้กรณีที่คุณเป็นเจ้าของบ้านราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ก็จะไม่ต้องชำระภาษีที่ดินนะคะ

 

และถ้าไม่ชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีผลอย่างไรบ้าง?
สำหรับผู้ที่เลี่ยงการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือเพิกเฉยไม่สนใจที่จะชำระภาษีถือว่าเป็นผู้ที่มีความผิด
และจำเป็นต้องได้รับโทษทางกฎหมาย โดยแบ่งออกได้ 3 ระดับ ดังนี้

  • โทษปรับ เป็นบทลงโทษในระดับเบื้องต้น สำหรับผู้ที่เสียภาษีที่ดินไม่ครบตามจำนวนภายในเวลาที่กำหนด
    จะต้องถูกปรับตามเกณฑ์ที่ระบุเอาไว้

    • เสียเบี้ยปรับ 10% ของภาษีที่ค้างชำระ ในกรณีที่ล่าช้า แต่ชำระก่อนได้รับหนังสือแจ้งเตือน
    • เสียเบี้ยปรับ 20% ของภาษีที่ค้างชำระ ในกรณีที่ล่าช้า แต่ชำระในระยะที่หนังสือแจ้งเตือนระบุเอาไว้
    • เสียเบี้ยปรับ 40% ของภาษีที่ค้างชำระ ในกรณีที่ล่าช้าเกินระยะที่หนังสือแจ้งเตือนระบุเอาไว้
  • ดอกเบี้ยเงินเพิ่ม
    เป็นบทลงโทษเพิ่มเติมในกรณีชำระภาษีล่าช้าโดยนับตั้งแต่วันที่การชำระภาษีเลยเวลา
    ด้วยการคิดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% ต่อเดือนของเงินที่ค้างชำระ
  • โทษทางอาญา โดยมีการกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี และปรับสูงสุดไมเกิน 40,000 บาท
  • หากไม่ชำระภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกระงับการทำธุรกรรมซื้อขายที่ดินกับสำนักงานที่ดินฯ

จากที่เรากล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำเป็นอย่างมากที่จะต้องชำระให้ครบและตรงระยะเวลาที่กำหนด ไม่อย่างนั้นจะมีเบี้ยปรับและโทษที่ตามมาอีกมากมาย

และจะไม่สามารถทำธุรกรรมกับกรมที่ดินได้ ไม่ว่าจะเป็น ขายฝาก จำนอง ก็จะไม่สามารถกระทำการได้นะคะ

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถัาไม่จ่ายจะ ขายฝาก-จำนองได้ไหม?

—————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficia

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

8
Oct 25
ขายฝากหลุด คืออะไร? มีผลอย่างไรกับเจ้าของเดิม?

ขายฝากหลุด คืออะไร? มีผลอย่างไรกับเจ้าของเดิม?                ขายฝากคืออะไร? ก่อนจะเข้าใจคำว่า “ขายฝากหลุด” เราต้องรู้จักคำว่า ขายฝาก กันก่อน                 ขายฝาก (Sale with the Right of Redemption) คือ การซื้อขายทรัพย์สิน (เช่น บ้าน ที่ดิน) ที่ผู้ขายยังมีสิทธิ “ไถ่ถอน” ทรัพย์คืนได้ ภายในระยะเวลาที่ตกลงกันตามกฎหมาย ซึ่ง กรรมสิทธิ์ในทรัพย์จะตกเป็นของผู้ซื้อทันที ตั้งแต่วันทำสัญญา ต่างจากการจำนองที่เจ้าของยังคงเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ ขายฝากหลุดคืออะไร?                ขายฝากหลุด หมายถึง สถานการณ์ที่ เจ้าของเดิมไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์คืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยปกติไม่เกิน 10 ปีสำหรับบุคคลธรรมดา และ 3 ปีสำหรับนิติบุคคล หากไม่มีการต่ออายุ เมื่อถึงกำหนดแล้วเจ้าของเดิม ไม่ชำระเงินไถ่ถอน ทรัพย์นั้นจะกลายเป็น กรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ของผู้ซื้อฝากทันที โดยไม่ต้องฟ้องร้องใดๆ   สาเหตุที่ทำให้ขายฝากหลุด ไม่มีเงินไถ่ถอนตามกำหนด ผู้ขายอาจประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาชำระคืนพร้อมดอกเบี้ย ลืมหรือไม่รู้กำหนดเวลาไถ่ถอน บางคนเข้าใจผิดว่า… สามารถไถ่เมื่อไรก็ได้ หรือไม่รู้เงื่อนไขในสัญญา เจรจาต่อร […]

อ่านเพิ่มเติม
5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจจำนองบ้าน
7
Sep 24
5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจจำนองบ้าน

การตัดสินใจจำนองบ้านเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะเกี่ยวข้องกับภาระทางการเงินระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรทำความเข้าใจใน 5 ข้อสำคัญต่อไปนี้ ความสามารถในการผ่อนชำระ รายได้: ประเมินรายได้ประจำและรายได้อื่นๆ ที่มั่นคง ค่าใช้จ่าย: รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภค ค่าเล่าเรียนบุตร หนี้สินอื่น: หนี้บัตรเครดิต หนี้สินส่วนบุคคลอื่นๆ อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR): ควรคำนวณ DSR เพื่อประเมินว่าภาระหนี้ใหม่จะส่งผลกระทบต่อการเงินส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ย: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงิน ระยะเวลาผ่อนชำระ: เลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมกับกำลังทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวหรืออัตราดอกเบี้ยคงที่: เลือกประเภทอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากเงินต้นและดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม: ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าประกันภัย ค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์: ค่าอากรแสตมป์ ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง: หากบ้านต้องการการ […]

อ่านเพิ่มเติม
3 กลโกงขายฝาก ที่ควรระวัง (พร้อมวิธีป้องกัน)
5
Apr 23
3 กลโกงขายฝาก ที่ควรระวัง (พร้อมวิธีป้องกัน)

กลโกงขายฝาก ที่ควรระวัง ขึ้นชื่อว่า “การโกง” นั้น นับว่าเป็นอะไรที่อยู่คู่สังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน เป็นปัญหาที่ลุกลามไปทั่วทุกวงการ รวมไปถึงวงการ “ขายฝาก” เองนั้น ก็เป็นหนึ่งในการทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินที่มักจะมีปัญหาโดนโกงด้วยวิธีต่างๆ มากมาย จนทำให้เจ้าของบ้านน้ำตาตกในกันมานักต่อนัก พาลทำให้หลายๆ คน ไม่กล้าที่จะทำสัญญาขายฝาก เพราะกลัวว่าจะต้องเสียทรัพย์ เสียบ้าน เสียที่ดินสุดรักสุดหวงไป จะดีกว่าหรือไม่..? ถ้ารู้เท่าทัน กลโกงขายฝาก ต่างๆ พร้อมวิธีป้องกัน เพื่อที่เราจะได้ขายฝากอย่างสบายใจ นำเงินไปใช้ยามฉุกเฉิน ยามจำเป็น โดยไม่ต้องกังวลว่าเวลาผ่านไป จะมีวิกฤตใหม่เข้ามาทำให้ชีวิตต้องทุกข์ทรมาน นัดไถ่ถอน แต่ติดต่อนายทุนไม่ได้! สัญญาขายฝากนั้น เป็นสัญญาที่มีการกำหนดไว้ว่า “ผู้ขายฝาก” หรือเจ้าของทรัพย์ สามารถนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาไถ่ถอนตามเวลาที่กำหนดในระยะสัญญาได้ ซึ่งจะทำให้สิทธิในการครอบครองทรัพย์สินนั้นๆ กลับคืนสู่เจ้าของเดิมผู้ขายฝาก แต่หากไม่มาไถ่ถอนตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วล่ะก็ อสังหาริมทรัพย์ที่เรานำมาขายฝากนั้น ก็จะตกเป็นของนายทุนทันทีโดยไม่ต้องขึ้นศาลฟ้องร้องกันแต่อย่างใด   […]

อ่านเพิ่มเติม