12
May 23

เชื่อว่าในช่วงที่ผ่านมาทุกคนน่าจะได้ยินข่าวคราวการปรับขึ้นของ “ดอกเบี้ยนโยบาย” กันไปบ้างแล้ว
ซึ่งดอกเบี้ยนโยบายนั้น คือ อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางแห่งประเทศไทย
ที่ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในประเทศทั้งหมด
ดังนั้น เมื่อมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลกระทบโดยตรง
กับทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจไม่มากก็น้อย
ซึ่งในที่สุดแล้วย่อมส่งผลมาถึงภาระการผ่อนบ้าน
กล่าวคือ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านก็จะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และเราจะมีวิธีไหนมาช่วยลดภาระ ดอกเบี้ยอสังหา ได้บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจคำว่า “ดอกเบี้ยบ้าน” กันก่อนดีกว่าค่ะ
โดยธนาคารแห่งประเทศได้ให้คำจำกัดความของ “ดอกเบี้ยบ้าน”
หมายถึง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด
ทาวน์โฮม คอนโด อาคารพาณิชย์ หรือแม้แต่ที่ดิน

โดยจะแบ่งการคำนวณดอกเบี้ยเป็น 2 รูปแบบคือ

  1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate)
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่กำหนดตัวเลขเฉพาะตลอดอายุสัญญาเงินกู้
    หรือในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะไม่ขึ้นหรือลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
  2. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate)
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
    โดยจะมีการประกาศจากสถาบันการเงิน

แต่ไม่ต้องกลัวไปนะคะ การที่ ดอกเบี้ยอสังหา ปรับขึ้นใหม่ ไม่ได้รับมือยากกว่าที่ทุกคนคิดแน่นอนค่ะ
เรามี 3 วิธีที่จะมาช่วยให้คุณลดการชำระดอกเบี้ยได้แบบง่ายๆ มาดูกันเลยค่ะ

  1. ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้
    ทั้งการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้จะช่วยให้เรามีเงินคงเหลือในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น
    (เงินคงเหลือ = รายรับ – รายจ่าย – ภาระผ่อนหนี้) พอมีเงินเหลือมากขึ้น
    เราก็สามารถนำเงินที่มีไปโปะหนี้เพิ่มเพื่อปลดหนี้ให้เร็วขึ้น และยังช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ย
    ที่เราต้องจ่ายอีกด้วยเราอาจเริ่มจากการปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ
    เช่น ค่าลอตเตอรี่หรือค่ากาแฟ ซึ่งเราไม่ควรมองข้ามรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้
    เพราะหากสามารถลดได้ เช่น จากซื้อทุกวันเหลือสัปดาห์ละครั้ง หรือลดจำนวนเงินที่จ่ายต่อครั้งลง
    นอกจากจะดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดยิ่งขึ้นแล้ว ยังอาจมีเงินเหลือเป็นก้อนใหญ่จนเราตกใจก็เป็นได้
    นอกจากนี้ อาจจะมองหารายได้เสริมเพิ่มเติมจากสิ่งที่เราถนัดหรือสนใจด้วย
  2. เจรจาเจ้าหนี้หรือหาเงื่อนไขใหม่ที่ดีกว่า
    การเจรจาต่อรองขอลดดอกเบี้ยกับเจ้าหนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้และควรทำ
    เพราะหนี้บ้านส่วนใหญ่จะมีอัตราดอกเบี้ย 2 ช่วง คือ ดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรกเพื่อจูงใจลูกค้า
    และมักจะเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ 3% ใน 3 ปีแรก
    ซึ่งช่วงที่สองเป็นแบบอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวซึ่งมักจะแพงกว่าช่วงปีแรกๆ จนสิ้นสุดอายุสัญญา
    เมื่อเราผ่อนไประยะหนึ่งจนใกล้ถึงช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามสัญญาจะคิดแบบลอยตัว
    เราก็สามารถเข้าไปยื่นเรื่องเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย
    เช่น ปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวได้
    ซึ่งจะช่วยให้ภาระดอกเบี้ยไม่สูงขึ้นไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทั้งยังช่วยปลดหนี้ได้เร็วขึ้นด้วย

ถัดมาก็คือ Refinance ไปยังสถาบันการเงินอื่น ที่ให้อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าสถาบันการเงินที่เราใช้บริการอยู่
อย่างไรก็ดี ก่อน Refinance อย่าลืมคำนึงถึงต้นทุนแฝงต่าง ๆ ด้วยว่าคุ้มกับการ Refinance หรือไม่
เช่น ค่าเบี้ยปรับชำระก่อนครบกำหนด (Prepayment fee) ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์
ค่าธรรมเนียมจดจำนอง หากใครที่ต้องการ refinance และกำลังมองหาเงื่อนไขที่ดีกว่าสถาบันการเงินที่ใช้อยู่เดิม
หากใครไม่รู้ว่าเลือกสถาบันการเงินไหนดีเราได้ทำตารางเพื่อเปรียบเทียบ ดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารมาให้แล้วค่ะ

วิธีรับมือหนี้บ้าน ในช่วง ดอกเบี้ยอสังหา ขาขึ้น

จะเห็นได้ว่า แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อภาระหนี้บ้านของเรา แต่หากมีการจัดการที่ดี
หนี้บ้านก็จะไม่ใช่ปัญหาหนัก กลายเป็นทรัพย์สินและสถานที่ที่อบอุ่นสำหรับทุกคนในครอบครัวไปตราบนานเท่านาน

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

TM30 ปล่อยเช่าชาวต่างชาติต้องรู้ ฉบับอัปเดต ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับ!!
22
Feb 24
อัพเดทการยื่น TM30 ปล่อยเช่าชาวต่างชาติต้องรู้ ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับ!!

ทันทีที่ผู้เช่าชาวต่างชาติเข้าห้องพักที่คุณปล่อยเช่า คุณอาจคิดว่าหน้าที่ในฐานะของเจ้าบ้านได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ไม่ใช่เช่นนั้นค่ะ เพราะสิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนต่อไปก็คือการแจ้ง ‘ TM30 ’ หรือ การแจ้งข้อมูลของลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาพักในห้องของเรา ให้กับที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง หรือสถานีตำรวจในท้องที่ ได้รับทราบ ตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522   การแจ้ง TM30 หรือ ตม. 30 นี้ ไม่ว่าใครที่ประกอบกิจการโรงแรม เกสเฮ้าส์ แมนชั่น อพาร์ตเม้นท์ สถานประกอบการ หรือบ้านเช่า ก็ต้องทำการแจ้งว่ามีชาวต่างชาติเข้าพักอาศัย ‘ภายใน 24 ชั่วโมง’ นับจากเวลาเข้าพัก และที่สำคัญก็คือ ชาวต่างชาติผู้นั้นต้องได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ต้องผ่านการตรวจเข้าเมืองตามกฎหมาย ต้องเข้ามาประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งหากเจ้าของห้องท่านใดไม่ปฎิบัติตาม จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท นั่นเองค่ะ   สำหรับในส่วนของวิธีการแจ้ง ตม. 30 นั้น สามารถทำได้ 3 วิธี คือ •  นำเอกสารมาแจ้งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผุ้อื่นนำเอกสารมาแจ้ง แจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน แจ้งทางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต(Inte […]

อ่านเพิ่มเติม
20
May 24
ไขข้อข้องใจ จำนอง ขายฝาก ต่างกันอย่างไร สัญญาแบบไหนได้เงินเยอะกว่า ?

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาการขายฝาก จำนอง กลายเป็นทางเลือกหลักสำหรับผู้ที่มีทรัพย์สิน ที่ต้องการเงินด่วนเพื่อใช้จ่ายในธุรกิจหรือใช้จ่ายในครอบครัว เมื่อกระแสความต้องการที่มากขึ้น คำถามที่ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรา ได้รับกันมาเยอะมากคือ ขายฝาก กับ จำนอง สัญญาแบบไหนได้เงินเยอะกว่ากัน ?    วันนี้ Property4Cash จะมาตอบคำถามนี้ให้กับทุกคน เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจทำสัญญาขายฝาก – จำนอง ถ้าพร้อมไปกันเลยค่ะ     ขายฝาก จำนอง ต่างกันอย่างไร ? ก่อนที่จะพูดถึงจำนวนเงินกัน ขออธิบายสั้นๆเกี่ยวกับความต้องของการขายฝากและจำนองกันก่อน  การขายฝากนั้น ผู้ขายฝากต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ผู้รับซื้อฝาก โดยผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์สินคืนได้ตามเงื่อนไขและเวลาที่กำหนด   ในส่วนของการจำนอง คือการนำทรัพย์สินมาเป็นหลักประกันเพื่อขอกู้และชำระหนี้  โดยผู้จำนองไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ผู้รับจำนอง โดยทรัพย์สินยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จำนองอยู่        ขายฝาก กับ จำนอง สัญญาแบบไหนได้เงินเยอะกว่ากัน ? อ่านมาถึงตรงนี้คงจะเข้าความต่างกันมากขึ้นแล้ว สำหรับคำถามที่ว่าขายฝาก และ จำนอง แบบไหนที่ได้เงินมากกว่า คำตอบ […]

อ่านเพิ่มเติม
9
Jan 23
รับจำนอง ต้องเสีย “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” หรือไม่

หากเราทำการรับจำนอง จะต้องเสียภาษีหรือไม่? และถ้าจะต้องเสีย จะต้องชำระภาษีอย่างไร? เป็นคำถามที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นมือใหม่ในวงการนี้ เรื่องภาษี เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคนมากๆ แต่บางทีก็เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากสำหรับหลายๆ คน แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนได้ทราบ และจะได้จัดการกับเงินได้ ที่เราได้มาจากการรับจำนองได้อย่างถูกต้องกันค่ะ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ กรณีหากรับจำนอง รายได้ของท่านคือรายได้จาก ดอกเบี้ยรับ ซึ่งมีภาระภาษีดังนี้ กรณีผู้จ่ายเงิน หักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้อัตรา 15 % สามารถเลือกไม่นำเงินได้มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีประจำปีได้ กรณี ไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย อัตรา 15% จะต้องนำมารวมเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีต้องเสียภาษีประจำปี ไม่สามารถหักรายจ่ายได้ เท่ากับว่าต้องนำรายได้ดอกเบี้ย มาหักค่าลดหย่อน และคำนวณภาษีเงินได้เลย แต่ถ้าเป็นกรณีการขาย รายได้ของท่านคือ รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีภาระภาษีดังนี้ ต้องนำรายได้จากการขายทั้งหมดในปีมารวมเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษี ต้องหักรายจ่ายตามความจำเป็นและสมควร เช่น ต้นทุนในการซื้อที่ด […]

อ่านเพิ่มเติม