เมื่อคุณเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ทำขายฝากหรือจำนองไว้ สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัย คือ ทรัพย์ติดจำนองขายได้ไหม ? เพราะการจัดการ ทรัพย์ขายฝาก ในสถานะนี้เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายหลายด้าน การเข้าใจเงื่อนไขและข้อจำกัดในการขายทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การขายฝากหรือจำนองจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่ามีข้อควรรู้หรือเงื่อนไขอะไรบ้างที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจประกาศขาย
การทำขายฝากหรือจำนองเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อหรือการตั้งหลักประกันเพื่อกู้เงินกับทรัพย์สิน เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการขายทรัพย์สินนั้นดังนี้
ขายฝาก: เมื่อคุณทำขายฝาก ทรัพย์ขายฝาก จะยังคงเป็นของคุณในทางกฎหมาย แต่เจ้าของที่ได้ทำขายฝากจะมีสิทธิ์ในการไถ่ทรัพย์สินกลับในอนาคตโดยการชำระเงินตามที่ตกลงไว้ (ปกติจะมีระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ยที่ตกลงกัน) หากไม่ไถ่กลับภายในระยะเวลาที่กำหนด เจ้าของทรัพย์สินจะสูญเสียสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นไปและผู้ที่รับขายฝากจะได้ทรัพย์สินไป แต่เจ้าของทรัพย์เดิมสามารถประกาศขายบ้านได้ หากมีผู้ซื้อ ทรัพย์ก็นำเงินที่ประกาศขายได้ไปชำระเงินแก่ผู้รับซื้อฝากเพื่อไถ่ทรัพย์สินกลับและปลดการขายฝากก่อนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านให้กับผู้ซื้อนั่นเอง
จำนอง: ในกรณีของการจำนอง, ทรัพย์สิน บ้าน คอนโด ที่ดิน จะยังคงอยู่ในชื่อของคุณ, แต่จะมีการจดจำนองไว้เป็นหลักประกันการชำระหนี้กับเจ้าหนี้ หากคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้สามารถนำบ้านไปขายเพื่อชำระหนี้ได้ การขายทรัพย์สินในกรณีนี้คุณสามารถขายบ้านได้ แต่ต้องปิดหนี้จำนองให้เรียบร้อย หรือได้รับการยินยอมจากเจ้าหนี้เพื่อปลดจำนองก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ
การขายบ้านที่มีสัญญาขายฝาก จำนองเดิมอยู่นั้น ถ้าคุณทำการขายฝากบ้านแล้ว เจ้าของบ้านยังสามารถขายบ้านนั้นได้ เจ้าของเดิมมีสิทธิ์ในการไถ่ถอนบ้านภายในระยะเวลาที่กำหนด ถ้าหากทำขายฝากแล้วมีผู้สนใจจะซื้อบ้านหลังที่เราประกาศขายและติดสัญญาขายฝากอยู่ เจ้าของทรัพย์ก็เพียงแค่นำเงินที่ขายได้ส่วนนึงมาชำระหนี้คืนให้แก่ผู้รับซื้อฝาก หรือที่เรียกกันว่า ค่าไถ่ถอน ตามตัวเลขที่ตกลงกันในสัญญา และเจ้าของทรัพย์ก็รับส่วนต่างจากการชำระหนี้สินทั้งหมดกลับไป
การไถ่ถอนขายฝาก คือ การที่ผู้ขาย (เจ้าของทรัพย์) ชำระหนี้หรือเงินที่ตกลงกับเจ้าหนี้ในสัญญาขายฝากเพื่อคืนกรรมสิทธิ์ (หรือสิทธิ์ในการครอบครอง) กลับมายังเจ้าของทรัพย์ หลังจากที่เจ้าของทรัพย์ได้ขายทรัพย์ให้กับเจ้าหนี้โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ขายสามารถไถ่คืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาขายฝาก
ขั้นตอนการไถ่ถอนขายฝากไม่ยุ่งยากเลย ทรัพย์ต้องตรวจสอบยอดเงินที่ต้องไถ่ถอน เมื่อต้องการไถ่ถอนบ้านจากการขายฝากทรัพย์ต้องตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระกับเจ้าหนี้ ซึ่งรวมถึง เงินต้น (ที่ขายฝาก) และ ดอกเบี้ย ตามที่ได้ตกลงในสัญญา เช่น เงินต้น 1,000,000 บาท ดอกเบี้ย 15% ต่อปี เท่ากับว่า ค่าไถ่ถอนขายฝากจะเป็นเงิน 1,150,000 บาท เมื่อชำระหนี้สินเรียบร้อยแล้ว ทรัพย์จะมีการลงนาม หรือเซ็นต์ในเอกสารปลอดขายฝาก หลังจากที่ชำระหนี้เรียบร้อย เจ้าหนี้จะต้องลงนามในเอกสาร “ปลอดขายฝาก” หรือ “ปลดการขายฝาก” เพื่อยืนยันว่าเจ้าหนี้ได้ปลดสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นคืนให้แก่เจ้าของทรัพย์ เจ้าของทรัพย์ก็สามารถนำเอกสารไปยื่นให้กับ สำนักงานที่ดินเพื่อทำการยกเลิกการจดขายฝาก
ในส่วนของการดำเนินการขอปลดการขายฝากที่สำนักงานที่ดิน เมื่อมีเอกสารปลอดขายฝากแล้ว เจ้าของบ้านสามารถนำเอกสารนี้ไปยื่นที่ สำนักงานที่ดิน เพื่อขอให้ทำการยกเลิกการจดขายฝากในทะเบียนที่ดิน และให้โอนกรรมสิทธิ์กลับเป็นของเจ้าของเดิม เมื่อขั้นตอนการไถ่ถอนขายฝากเสร็จสมบูรณ์ เจ้าของทรัพย์จะได้รับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นคืน และทรัพย์สินนั้นจะกลับมาเป็นของเจ้าของเดิมโดยสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย
ในส่วนการโอนขายบ้านเป็นกระบวนการที่เจ้าของบ้าน (ผู้ขาย) และผู้ซื้อบ้านต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้านจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ โดยผ่านขั้นตอนทางกฎหมายที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้การโอนกรรมสิทธิ์นั้นสมบูรณ์และถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนการโอนบ้านมีรายละเอียดดังนี้
เตรียมเอกสาร ก่อนที่จะไปโอนที่สำนักงานที่ดิน ผู้ขายและผู้ซื้อจำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้ โฉนดที่ดิน , ทะเบียนบ้าน , บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ , สัญญาซื้อขาย , เอกสารการชำระหนี้ (ถ้ามีการจำนองหรือขายฝาก) หากบ้านมีการจำนองหรือขายฝากอยู่ ผู้ขายต้องทำการปลดจำนองหรือไถ่ขายฝากให้เสร็จก่อน เพื่อให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์
ตรวจสอบสถานะบ้านและที่ดิน ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ ควรตรวจสอบสถานะของบ้านและที่ดินว่าไม่มีภาระผูกพันหรือข้อพิพาท เช่น ไม่มีการจำนองขายฝาก หรือมีการไถ่ถอนจำนองขายฝากเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
ตกลงราคาและวิธีการชำระเงิน ก่อนที่จะไปโอนกรรมสิทธิ์กันที่สำนักงานที่ดิน, ผู้ขายและผู้ซื้อจะต้องตกลงเรื่องราคาขายและวิธีการชำระเงิน เช่น ชำระทั้งหมดในครั้งเดียว หรือชำระตามงวดที่ตกลงกัน (โดยมักจะชำระก่อนโอนกรรมสิทธิ์เพื่อความปลอดภัย)
ไปที่สำนักงานที่ดินเพื่อทำการโอน เมื่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้อเตรียมเอกสารทั้งหมดพร้อมแล้ว ให้ไปที่ สำนักงานที่ดิน ที่ตั้งของบ้านเพื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์ โดยจะมีขั้นตอนดังนี้:
กรอกแบบฟอร์มโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อจะต้องกรอกเอกสารที่สำนักงานที่ดินเตรียมไว้สำหรับการโอน
จ่ายค่าธรรมเนียมการโอน และภาษี ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์บ้านจะคิดตามราคาประเมินที่ดินหรือราคาขายที่สูงกว่า ซึ่งตามกฎหมายจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2% ของราคาซื้อขายบ้าน และค่าภาษีต่างๆสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่กรมที่ดินได้เลย
สำนักงานที่ดินออกเอกสารโอน เมื่อกระบวนการโอนเสร็จสิ้น สำนักงานที่ดินจะทำการออกเอกสารเพื่อยืนยันการโอนกรรมสิทธิ์ และทั้งผู้ขายและผู้ซื้อจะได้รับ โฉนดที่ดิน (หรือหนังสือกรรมสิทธิ์) ที่ใหม่ โดยระบุชื่อของผู้ซื้อใหม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แทนผู้ขายใบเสร็จรับเงิน หรือ เอกสารที่แสดงการชำระเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งนี้เมื่อการโอนเสร็จสมบูรณ์แล้ว, ผู้ซื้อจะเป็นเจ้าของบ้านและที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถนำเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ไปใช้อ้างอิงในการทำธุรกรรมอื่นๆ ได้
สรุปแล้ว สำหรับข้อสงสัยที่ถามว่า… ทรัพย์ติดจำนองขายได้ไหม คำตอบคือ สามารถทำได้!! แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดตามกฎหมาย หากคุณเป็นเจ้าของทรัพย์ที่อยู่ในสถานะนี้ ควรตรวจสอบสัญญาและข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ รวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์หรือทนายความก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถจัดการทรัพย์สินของคุณได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
—————————————————–
Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร
อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash
Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989
หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/
นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/
ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน
ส่งข้อมูลสำเร็จ ทางทีมงานจะรีบติดต่อกลับไปค่ะ