เปรียบเทียบ ขายฝาก กับ การกู้เงินต่างกันอย่างไร?
21
Jan 25

เปรียบเทียบ ขายฝาก กับ การกู้เงินต่างกันอย่างไร? แม้ว่า… การขายฝาก กับการกู้เงิน จะเป็นวิธีการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินที่นิยม แต่ทั้งสองแบบนี้ มีข้อกำหนด เงื่อนไข และผลกระทบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งในบทความนี้ เราได้สรุปมาให้คุณได้เข้าใจง่ายๆ แล้ว… 

เปรียบเทียบความแตกต่าง ขายฝาก กับ การกู้เงิน

การขายฝาก คือ การขายทรัพย์สิน เช่น ที่ดิน บ้าน หรืออาคาร ให้กับผู้รับซื้อฝาก โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ขายฝาก สามารถซื้อทรัพย์สินคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ไม่เกิน 10 ปีตามกฎหมายกำหนด

  • ตัวอย่างทรัพย์ที่ขายฝากได้: บ้าน คอนโด ที่ดิน อาคารพาณิชย์ โรงงาน โกดัง กระเป๋า รองเท้า หรือทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ
  • จุดประสงค์ คือ เพื่อใช้ทรัพย์สินเป็นเครื่องมือในการคำประกัน หรือระดมเงินทุน

การกู้ โดยในบทความนี้จะเปรียบเทียบการกู้เงินจากธนาคาร การกู้ เงินจากธนาคารเป็นการยื่นขอเงินกู้ โดยใช้ทรัพย์สิน เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน หรือทรัพย์อื่นๆ เป็นหลักประกัน(จำนอง) หรือในบางกรณีใช้เอกสารยืนยันรายได้ เพื่อขอสินเชื่อส่วนบุคคล

  • ตัวอย่างทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน: บ้าน คอนโด ที่ดิน อาคารพาณิชย์ โรงงาน โกดัง หรือทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ
  • จุดประสงค์ คือ ได้รับเงินกู้ในวงเงินที่เหมาะสมกับมูลค่าหลักประกันและความสามารถในการชำระหนี้

ความแตกต่างระหว่าง การขายฝาก และ การกู้เงิน

การโอนกรรมสิทธิ์ ในการขายฝาก : ผู้ขายฝากต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้กับผู้รับซื้อฝากชั่วคราว

การโอนกรรมสิทธิ์ ในการกู้เงินจากธนาคาร : ผู้กู้ยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์สิน แต่มีภาระผูกพันกับเจ้าหนี้(ธนาคาร)

 

ระยะเวลาในการทำธุรกรรม

ขายฝาก : รวดเร็ว ส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียง 1-2 วัน

กู้เงินกับธนาคาร : อาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อ

 

ระยะเวลาชำระหนี้/ไถ่ถอน

ผู้ขายฝาก : มีระยะเวลาไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ไม่เกิน 10 ปีตามกฎหมายกำหนด

 

เอกสารที่ใช้ สำหรับขายฝาก : โฉนดที่ดิน, บัตรประชาชน, สัญญาขายฝาก

เอกสารที่ใช้ สำหรับกู้เงิน : ใช้เอกสารหลายประเภท เช่น โฉนดที่ดิน, เอกสารรายได้, บัญชีธนาคาร, เอกสารการจ้างงาน

ดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทน

ดอกเบี้ยขายฝาก 15 ต่อปี

ดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนใหญ่ 8-15% ต่อปี(สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย)

ความเสี่ยง : 

ขายฝาก หากไม่ไถ่ถอนภายในระยะเวลาที่กำหนด ทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝาก

กู้เงิน หากผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารอาจบังคับขายทรัพย์สิน แต่ยังมีขั้นตอนก่อนขายทอดตลาด

วงเงินที่ได้รับ : 

ขายฝาก ได้รับวงเงินประมาณ 50-70% ของมูลค่าทรัพย์สิน

กู้เงิน ได้รับวงเงินประมาณ 70-90% ของมูลค่าทรัพย์สิน

ความยืดหยุ่นในเงื่อนไข : 

ขายฝาก เงื่อนไขมักขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก

กู้เงิน เงื่อนไขกำหนดโดยธนาคาร มีขั้นตอนชัดเจน และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของธนาคาร

เปรียบเทียบ ขายฝาก กับ การกู้เงินต่างกันอย่างไร?

ข้อดีและข้อเสียของ การขายฝาก และ การกู้เงิน

การขายฝาก ข้อดี คือ กระบวนการรวดเร็ว, เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วนใช้เอกสารน้อย และไม่ต้องพิสูจน์รายได้, เงื่อนไขการขายฝากสามารถเจรจาต่อรองได้

การขายฝาก ข้อเสีย คือ ผู้ขายฝากต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ผู้รับซื้อฝาก, หากไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินได้ในเวลาที่กำหนด ทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝาก, ค่าตอบแทนการขายฝากมักสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคาร

การกู้เงินจากธนาคาร

การกู้เงิน ข้อดี คือ อัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย, ผู้กู้ยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์สิน, ระยะเวลาการชำระหนี้ยาว ทำให้ผ่อนจ่ายสบาย

การกู้เงิน ข้อเสีย คือ ขั้นตอนยุ่งยากและใช้เวลานาน, ต้องมีเอกสารยืนยันรายได้และเครดิตที่ดี, หากผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารมีสิทธิ์ยึดทรัพย์สินและขายทอดตลาด

ข้อควรระวังในการเลือกใช้บริการ ขายฝาก กับ การกู้เงิน

  1. พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด อาจสูญเสียทรัพย์สิน
  2. ตรวจสอบสัญญา อ่านและทำความเข้าใจในสัญญาก่อนลงนาม เช่น เงื่อนไขการไถ่ถอนในสัญญาขายฝาก หรือเงื่อนไขดอกเบี้ยในสินเชื่อธนาคาร
  3. ตรวจสอบผู้รับซื้อฝาก เลือกผู้รับซื้อฝากที่มีความน่าเชื่อถือ และดำเนินธุรกรรมที่สำนักงานที่ดิน อย่าง Property4cash เงินด่วนอสังหา
  4. เปรียบเทียบเงื่อนไข คำนวณต้นทุนรวม เช่น ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และระยะเวลาการชำระหนี้ ก่อนตัดสินใจเลือกทำธุรกรรมใดๆ 

สรุปส่งท้าย เรื่อง เปรียบเทียบ ขายฝาก กับ การกู้เงินต่างกันอย่างไร? ดังนี้ การขายฝาก กับ การกู้เงินมีความแตกต่างในด้านกระบวนการ ความเสี่ยง และต้นทุน การเลือกใช้บริการใดบริการหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความต้องการทางการเงินของเจ้าของทรัพย์ หากต้องการเงินด่วนและมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น การขายฝากอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการวงเงินสูงในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและสามารถจัดการเอกสารได้ เงินกู้ได้ การกู้เงินจากธนาคารจะเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน

และไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร?… หากต้องการเงินด่วน ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน นึกถึง Property4Cash สิคะ เรารับจำนอง ขายฝาก ให้วงเงินสูง อนุมัติไวใน 24 ชั่วโมง ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.75% ไม่ใช้คนค้ำ ไม่เช็คเครดิตบูโร ไม่มีนโยบายยึดทรัพย์ พร้อมผลักดันทุกเคสให้เข้าถึงเงินทุน… 

 

 


Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

Reverse Mortgage สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ
2
Aug 23
Reverse Mortgage สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ ตอบโจทย์คนไม่อยากมีลูก

ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการแล้ว โดยอายุเฉลี่ยของคนไทยจะอยู่ที่ 75 ปี เท่ากับว่าในตอนที่เรายังอยู่ในวัยทำงานจะต้องวางแผน หลังเกษียณกันไว้ให้ดี โดยเฉพาะใครที่คิดจะครองตัวเป็นโสด หรือ ไม่คิดที่จะมีลูกไว้ดูแลยามอายุมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันคอนโดหลายๆ โครงการเองก็ได้ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ หากอยากทราบข้อมูลสามารถติดต่อนายหน้าคอนโด เพื่อขอคำปรึกษาได้เลยนะคะ แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่กลุ่มวัยเกษียณอาจพบเจอได้ นั่นคือ “มีที่พักอาศัย แต่ไม่มีเงินสด” และเป็นที่มาของ Reverse mortgage หรือสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน Reverse mortgage คืออะไร? Reverse Mortgageหรือ #สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ คือ รูปแบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบย้อนกลับ หรือธนาคารทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อบ้าน พร้อมกับนำเงินเข้าบัญชีให้ผู้กู้ทุกเดือน และเมื่อครบกำหนดงวดสุดท้าย บ้านที่ใช้ค้ำประกันจะตกเป็นของธนาคาร ต่างจากสินเชื่อปกติที่ผู้กู้ทั่วไปต้องการซื้อบ้าน และมักจะใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับธนาคาร เมื่อชำระครบกำหนดบ้านหรือคอนโดก็จะตกเป็นของผู้กู้ ดังนั้นรูปแบบสินเชื่อ Rev […]

อ่านเพิ่มเติม
เช็คราคาบ้าน ดูทำเลง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ครบจบในเว็บเดียว
6
Jul 23
เช็คราคาบ้าน ดูทำเลง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ครบจบในเว็บเดียว

เอาใจคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ด้วยเว็บ เช็คราคาบ้าน และคอนโด พร้อมบอกสถานะการจราจร ขนส่งสาธารณะและตรวจสอบสถานที่ใกล้เคียงในบริเวณรอบๆ สามารถกำหนดราคาตามงบประมาณของเราได้เลย เพียงเว็บเดียวก็สามารถเช็คได้ครบแล้ว ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ วิธีการใช้งานเว็บไซต์ กดเข้าไปที่เว็บไซต์ https://maps.envi.dev/v2 คลิกเลือกว่าอยากได้ที่พักอาศัยประเภทใด โดยในเว็บไซต์มีให้เลือก 3 ประเภท – Home – Townhome – Condo กำหนดงบประมาณที่เราต้องการโดยใส่ราคาเริ่มต้น และราคาสูงสุดที่เราต้องการดู สามารถเลือกปีที่ได้ทำการก่อสร้างได้ เพื่อที่จะได้กำหนดว่าอยากได้โครงการใหม่หรือเก่า เลือกรูปแบบการเดินทาง – รถไฟฟ้า – ทางด่วน กำหนดเมืองหรือจังหวัดที่ต้องการอยู่อาศัย ในกรณีพักอาศัยในคอนโดสามารถกำหนดได้ว่าต้องการเข้าพักอาศัยที่ชั้นใด เลือกยูนิตภายในโครงการ เผื่อท่านใดที่รักความสงบและไม่อยากอยู่โครงการยูนิตเยอะๆ เลือกผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เมื่อกำหนดทุกอย่างครบแล้วก็สามารถกดค้นหาได้เลยค่ะ ระบบจะโชว์โครงการที่ตรงความต้องการของเราสามารถคลิกไปที่จุดตรงแผนที่และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทั […]

อ่านเพิ่มเติม
EIA คืออะไร อนุมัติแล้วยกเลิกได้ไหม?
21
Jun 23
EIA คืออะไร อนุมัติแล้วยกเลิกได้ไหม?

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าสัญลักษณ์หรือคำว่า “EIA Approved” บนป้ายโฆษณาคอนโดคืออะไร สำคัญยังไงเวลาเราจะเลือกซื้อคอนโด ซึ่งหากคุณเตรียมจะหาซื้อบ้านสักหลัง คอนโดมิเนียมสักห้อง ก็ควรจะให้ความสำคัญกับ EIA ไว้สักหน่อย วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจเรื่องของEIA กับโครงการที่อยู่อาศัยว่าจะมีบทบาทและความสำคัญยังไงกันค่ะ EIA ย่อมาจาก Environmental Impact Assessment Report หรือการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่จะเกิดขึ้นเวลาที่มี Developer ตั้งใจจะสร้างโครงการขึ้นมาสักโครงการหนึ่ง ว่าโครงการนั้นจะกระทบกับชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ โครงการไหม จะทำให้วิถีชีวิตของคนในชุมชน รวมถึงผู้คนที่ต้องใช้อาคารข้างเคียง ดีขึ้นหรือแย่ลงยังไง ทั้งในระหว่างทำการก่อสร้างและหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น ซึ่งรายงานวิเคราะห์ผลกระทบ หรือEIA จะดูทั้งหมด 4 ด้าน คือ – ทรัพยากรกายภาพ เป็นการศึกษาถึงผลกระทบ เช่น ดิน น้ำ อากาศ เสียง ว่าจะมี การเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง – ทรัพยากรชีวภาพ การศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่มีต่อระบบนิเวศน์ เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ปะการัง เป็นต้น – คุณค่าการ […]

อ่านเพิ่มเติม