22
May 25

          ติดบูโร รหัส 30 ทำขายฝากได้ไหม? เป็นคำถามที่ทางบ้านสอบถามเข้ามาวันนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหา มาสรุปให้นะคะ 

          ใครที่กำลังเตรียมกู้สินเชื่อต้องรู้ เพราะบทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจกับอีกหนึ่งกุญแจสำคัญอย่าง “เครดิตบูโร (Credit Bureau)” สถาบันที่จัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อ และประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภท ไม่ว่าคุณทำอะไร ด้วยสินเชื่อไหน เครดิตบูโรก็จะบอกสถานะของคุณไว้อย่างชัดเจน ยิ่งคุณมีสถานะบูโรดีมากเท่าไร โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น

          เพราะฉะนั้น มาทำความรู้จักกับ “สถานะบูโร” กุญแจสู่ผลการอนุมัติสินเชื่อในฉบับรวบรัด เครดิตบูโรคืออะไร? ถ้าติดแบล็คลิสแก้ยังไง? หรือตัวเลขสถานะบูโรนั้นมีกี่แบบ กรุงไทยได้รวมคำตอบเหล่านี้ให้คุณได้หายข้องใจกัน

 

เครดิตบูโรคืออะไร?

          เครดิตบูโร (Credit Bureau) หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด คือ สถาบันที่รวบรวมข้อมูลบัญชีสินเชื่อ รวมทั้งประวัติการชำระหนี้และสินเชื่อทุกประเภท อีกทั้งยังสามารถระบุสถานะบูโรของแต่ละบุคคลว่าเป็นอย่างไร มีประวัติการชำระที่ดีหรือไม่ รวมไปถึงการระบุว่าบุคคลนั้นมีภาระด้านสินเชื่อมากน้อยเพียงใด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อต่าง ๆ ของทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ได้ทำเรื่องไป หากเรามีเครดิตบูโรที่ดีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติก็จะสูงตามมา

ตัวเลขสถานะบูโรมีกี่แบบ? ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

วันนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหา พาเจาะลึกถึงสถานะบูโรให้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น 

  • ข้อมูลที่แสดงให้ทราบว่าใคร คือ เจ้าของรายงาน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับมาจากสถาบันการเงินที่เราใช้สินเชื่อ เช่น
    • ข้อมูลส่วนบุคคล : เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน, ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด เป็นต้น โดยสถาบันการเงินจะไม่นำส่งในข้อมูลเครดิตบูโร 
    • ข้อมูลที่อยู่ของลูกค้าที่แจ้งไว้กับสถาบันการเงิน และบริษัทที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ ประวัติการชำระสินเชื่อ รวมถึงประวัติการชำระสินค้าหรือการใช้บริการผ่านบัตรเครดิต ข้อมูลส่วนนี้จะแสดงสถานะบูโรในแต่ละบัญชีของรายงานข้อมูลเครดิต ด้วยการรวมรหัสสถานะบัญชี เช่น สินเชื่อปกติ, สินเชื่อที่ปิดบัญชีแล้ว, สินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน เป็นต้น 

ซึ่งสถานะบัญชีจะถูกเปลี่ยนไปตามประวัติการผ่อนชำระของเจ้าของสินเชื่อ โดยจะรหัสสถานะบูโรที่สำคัญมีดังนี้

  • 01 หรือ 010 คือ ปกติ ไม่มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน
  • 11 หรือ 011 คือ ปิดบัญชี ลูกหนี้ชำระหนี้หมดหรือชำระครบตามยอดที่ได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้
  • 12 หรือ 012 คือ พักชำระหนี้ตามนโยบายของสมาชิก
  • 20 หรือ 020 คือ หนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน
  • 21 หรือ 021 คือ หนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วันเนื่องจากลูกหนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่ปกติ
  • 30 หรือ 030 คือ อยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย
  • 31 หรือ 031 คือ อยู่ระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม
  • 32 หรือ 032 คือ ศาลยกฟ้องเนื่องจากคดีขาดอายุความหรือ เหตุอื่นเว้นแต่การยกฟ้องเนื่องจากการเป็นหนี้มิได้มีอยู่จริง
  • 33 หรือ 033 คือ ปิดบัญชีเนื่องจากตัดหนี้สูญ ปิดบัญชีเนื่องจากลูกหนี้ไม่นำเงินมาชำระ และสมาชิกตัดหนี้สูญทั้งหมดโดยไม่ติดใจทวงถามอีกต่อไป
  • 40 หรือ 040 คือ อยู่ระหว่างสินเชื่อเพื่อปิดบัญชี ลูกหนี้ไม่สามารถใช้บัญชีได้อีกหรืออยู่ระหว่างชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ชำระหนี้เสร็จสิ้นจะต้องปรับเป็น ปกติ หรือ ปิดบัญชี
  • 41 หรือ 041 คือ อยู่ระหว่างตรวจสอบรายการ เจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบรายการหรือ สมาชิกอยู่ระหว่างตรวจสอบรายการ เนื่องจากการทุจริต หรือฉ้อฉลโดยอยู่ระหว่างพิสูจน์ข้อเท็จจริง และยังไม่ได้ข้อยุติ
  • 42 หรือ 042 คือ โอนขายหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน สมาชิกโอนหรือขายหนี้ที่ค้างชำระให้กับบุคคลอื่น
  • 43 หรือ 043 คือ โอนหรือขายหนี้และชำระหนี้เสร็จสิ้น ไปยังนิติบุคคลอื่นและลูกหนี้ได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นให้แก่ผู้รับโอน
  • 44 หรือ 044 คือ โอนหรือขายหนี้ที่สถานะบัญชีปกติ ซึ่งสมาชิกโอนหรือขายหนี้ที่ไม่ค้างชำระ หรือ ค้างชำระไม่เกิน 90 วันไปบุคคลอื่น

5 วิธีปลดล็อกสถานะบูโรไม่ปกติ ก่อนกู้สินเชื่อฉบับเข้าใจง่าย

          เมื่อรู้แล้วว่าการติดเครดิตบูโรคืออะไร? รวมถึงเข้าใจในกลไกของสถานะบูโรชัดเจนยิ่งขึ้น ทางเราขอชี้แนะเพิ่มเติม กับ 5 วิธีปลดล็อกสถานะบูโรก่อนกู้สินเชื่อฉบับเข้าใจง่าย ให้คุณได้เก็บไว้เป็นคู่มือในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคต

1.อยากปลดล็อกต้องเช็กเครดิตบูโรให้รู้และพร้อมแก้ไข

          เพราะสถานะบูโรเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อ ดังนั้น เราต้องรู้สถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ให้ดีก่อนว่าสถานะบูโรของเราเป็นอย่างไร ประวัติการชำระตรงตามที่เราเคยชำระไหม และมีข้อมูลทางการเงินส่วนไหนแปลกปลอมหรือไม่ หากเจอข้อมูลที่ผิดพลาดต้องรีบดำเนินการแก้ไขทันที เมื่อเราตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มวางแผนการแก้ไขไปทีละจุด ทยอยปิดบัญชีสินเชื่อทีละนิด ยิ่งเรามีวินัยมากพอในการบริหารการจัดการหนี้ ส่วนนี้ก็จะทำให้คุณปลดล็อกจากสถานะบูโรไม่ปกติได้เร็ว

2.ชำระหนี้ให้ตรงเวลา

          อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ปลดล็อกจากเครดิตบูโรได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการชำระหนี้สินเชื่อให้ตรงเวลา หากคุณสร้างวินัยทางการเงินไปพร้อมกับการสร้างประวัติเครดิตให้ดียิ่ง ก็จะส่งผลให้การขอสินเชื่อใหม่ในอนาคตมีโอกาสเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น

3.ปลดล็อกเครดิตบูโรง่ายๆ เพียงแค่ “รวมหนี้ไว้เป็นหนึ่งเดียว”

          หากคุณมีภาระหนี้สินเชื่อจากหลายสถาบันทางการเงิน เราขอแนะนำวิธี “การรวมหนี้” อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณปลดล็อกจากสถานะบูโรไม่ปกติ ปัจจุบันนี้ธนาคารและสถาบันทางการเงินหลายแห่งเปิดทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ประวัติการค้างชำระ ยื่นขอสินเชื่อสำหรับการรวมหนี้ และนำเงินก้อนมาปิดบัญชีหนี้ค้างชำระทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างหนี้และปลดล็อกสถานะบูโรไม่ปกติได้

4.วางแผนการชำระหนี้เสีย ช่วยปลดล็อกเครดิตบูโร

ต่อด้วยอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากสถานะบูโรไม่ปกติได้ คือ การวางแผนการชำระหนี้เสียเพื่อสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี

  • หากตอนนี้คุณมีสภาพคล่องทางการเงิน เริ่มจากการสรุปรายการหนี้ที่ยังคงค้าง จากนั้นนำมาวางแผนในการตั้งงบประมาณ (รายรับ-รายจ่าย) ให้เหมาะสม และสิ่งที่สำคัญที่สุดของแผนนี้คือการสร้างวินัยการผ่อนชำระหนี้ให้ตรงเวลาในทุกงวด
  • หากคุณขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการปรึกษากับสถาบันการเงิน ในการขอปรับเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้าง หรือเพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้ เพื่อให้ประวัติการชำระหนี้คงค้างของคุณดีขึ้น

5.สร้างสถานะเครดิตบูโรใหม่ เพิ่มโอกาสการอนุมัติสินเชื่อ

          ยิ่งสถานะบูโรของเราน่าเชื่อถือมากขึ้นเท่าไร โอกาสที่สินเชื่อจะได้รับการอนุมัติก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อคุณปิดบัญชีสินเชื่อจนครบแล้วก็อย่าลืมสร้างสถานะเครดิตบูโรใหม่ให้ดี เริ่มจากการสร้างวินัย ชำระหนี้ให้ตรงเวลา วางแผนทางการเงินให้รอบคอบ เพียงเท่านี้สถานะบูโรของคุณก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น พร้อมเพิ่มโอกาสการขอสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคตได้อย่างราบรื่น

สถานะบูโร เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะสะท้อนพฤติกรรมรวมถึงวินัยทางการเงินของเราได้อย่างชัดเจนว่าการเงินของเรายังอยู่ในสภาพคล่องหรือไม่ และที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้คือตัวช่วยในการเพิ่มโอกาสของการขอสินเชื่อได้อย่างราบรื่นเช่นกัน

 

สรุปส่งท้าย ติดบูโร รหัส 30 ทำขายฝากได้ไหม? ต้องอธิบายว่าติดบูโร Property4Csah เงินด่วนอสังหารับจำนอง ขายฝากปกตินะคะ แต่ในกรณี ติดบูโร รหัส 30 ต้องพิจารณาว่า ติดในสินเชื่อประเภทไหน บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือติดเกี่ยวกับโฉนดที่จะนำมาค้ำประกัน หากติดเกี่ยวกับโฉนดที่นำมาค้ำประกัน ขายฝาก จำนอง ทางบริษัท อาจจะต้องพิจารณา หรืออาจจะไม่รับหากคดีความนั้นโดนศาลออกคำสั่งยึดนะคะ

 


Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึง ขายฝากจำนอง นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ขายฝากกับกู้ธนาคาร เลือกทางไหนดี?
11
Sep 24
ขายฝากกับกู้ธนาคาร เลือกทางไหนดี?

การตัดสินใจเลือก ขายฝากกับกู้ธนาคาร เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะทั้งสองทางเลือกมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ลองมาเปรียบเทียบรายละเอียดกัน ขายฝาก  ขายฝาก คือ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งผู้ขายฝากสามารถซื้อทรัพย์สินนั้นกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามกฎหมาย โดยทั่วไปขายฝากจะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้ขายต้องการเงินด่วน แต่ยังต้องการรักษาสิทธิในการซื้อทรัพย์สินนั้นคืน ข้อดี: ได้เงินเร็ว: กระบวนการอนุมัติและรับเงินรวดเร็วกว่าการกู้ธนาคาร วงเงินสูง: มักจะได้วงเงินสูงกว่าการกู้ธนาคาร ไม่ต้องมีเครดิตบูโรที่ดี: เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีประวัติเครดิตที่ดี ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเติม: ใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นหลักประกัน ข้อเสีย: เสียกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินชั่วคราว: กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะโอนไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง จนกว่าจะไถ่ถอนคืน ดอกเบี้ยอาจสูงกว่า: อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าการกู้ธนาคาร มีความเสี่ยงสูง: หากไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ตามกำหนด อาจสูญเสียทรัพย์สินไป ขั้นตอนยุ่งยาก: การทำสัญญาและไถ่ถอนทรัพย์สินมีขั้นตอนที่ซับซ้อนก […]

อ่านเพิ่มเติม
ใครอยากเศรษฐี ฉันหน่ะสิ ฉันหน่ะสิ! แล้วต้องลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้างนะ?
25
Feb 25
ใครอยากเศรษฐี ฉันหน่ะสิ ฉันหน่ะสิ! แล้วต้องลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้างนะ?

ใครอยากเป็นเศรษฐี ฉันหน่ะสิ ฉันหน่ะสิ! แล้ว… เศรษฐีลงทุนในสินทรัพย์อะไร?    เคยสงสัยไหมว่า… มหาเศรษฐีที่รวยอันดับต้นๆ ของโลก จากการจัดการการเงิน โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนของพวกเขาอย่างไร? ข้อมูลนี้ Property4Cash ไปหยิบยกมาจาก Knight Frank ที่เผยแพร่รายงาน Wealth Report ประจำปี 2023 เกี่ยวกับการเงินของบุคคลที่มีความมั่งคั่งสุทธิสูงพิเศษ (UHNWIs) ซึ่งมีความมั่งคั่งรวมกันกว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์    และวิธีที่คนรวยที่สุดในโลก เก็บเงินสะสมความมั่งคั่งของพวกเขา โดยสินทรัพย์แต่ละประเภทคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของพอร์ตโฟลิโอ (ยอดรวมจะมากกว่า 100% จากการปัดเศษตามรายงานของ Knight Frank)   อันดับที่ 1 คือ หุ้น เศรษฐี ลงในหุ้นสูงถึง 26% บุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลก ลงทุนในตราสารทุน หรือหุ้นเฉลี่ย 26% ของพอร์จโฟลิโอของพวกเขา โดยในอเมริกา สัดส่วนดังกล่าวสูงถึง 1 ใน 3 ของพอร์ตการลงทุนเฉลี่ย และจากข้อมูลรายงานประจำปี 2022 Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ใช้เงินซื้อหุ้นถึง 6.8 หมื่นล้านเหรียญ   อันดับที่ 2 คือ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการพาณิชย์ คิดเฉลี่ยได้ที่ 34%  โดย 21% เป็นการลงทุ […]

อ่านเพิ่มเติม
รีไฟแนนซ์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
7
Apr 23
รีไฟแนนซ์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

มนุษย์เงินเดือนแบบเรามักได้ยินคำว่า “รีไฟแนนซ์” อยู่บ่อยๆ แต่เชื่อว่ามีเพื่อนๆ จำนวนไม่น้อยไม่เข้าใจว่าคืออะไร หากเพื่อนๆยังสงสัย ไม่เข้าใจว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? มีขั้นตอน ข้อดีและประโยชน์อย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านให้มากขึ้น รีไฟแนนซ์ คือ การเปลี่ยนเจ้าหนี้ เป็นการที่เราไปขอกู้เงินใหม่อีกก้อนหนึ่งเพื่อนำมาชำระหนี้ก้อนเดิม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะทำกับการกู้ซื้อบ้าน คอนโดและรถยนต์เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย ในการผ่อนชำระหนี้สินเชื่อก้อนเดิม และจ่ายส่วนของดอกเบี้ยลดลงเพราะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ย ที่สำคัญคือในการทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์ครั้งใหม่นี้ จะได้รับข้อเสนอในการผ่อนชำระที่ดีกว่าสินเชื่อเดิม และอาจจะได้ระยะเวลาในการผ่อนที่ยาวขึ้นโดยคนส่วนใหญ่มักจะไปขอรีไฟแนนซ์หลังจากได้ผ่อนชำระครบ 3 ปี วิธีขอรีไฟแนนซ์บ้าน ตรวจสอบสัญญากู้เดิม ก่อนการยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน ต้องทำการติดต่อขอเอกสารสรุปยอดหนี้ทั้งหมดจากธนาคารเก่า เพื่อเป็นการสรุปรายละเอียด เช่น จำนวนเงินที่กู้ ระยะเวลาที่ชำระไปแล้ว เหลือเวลาที่ต้องผ่อนชำระอีกกี่ปี หลังจากนั้นให้นำเอกสารนี้ไปยื่นที่ธนาคารใหม่ท […]

อ่านเพิ่มเติม