การลงทุนและขายฝาก ทำไมถึงแตกต่างกัน
23
Aug 24

การลงทุนและขายฝาก แตกต่างกันอย่างไร? การขายฝากเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะและอาจมีข้อได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น

เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือหุ้น มาดูกันว่าการขายฝากแตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่นอย่างไร และทำไมการขายฝากอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในบางกรณี:

  1. การขายฝาก (Sale and Leaseback)

ลักษณะ: การขายฝากผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น การขายฝากคือการที่เจ้าของทรัพย์สินฝากและขายทรัพย์สินให้กับผู้ลงทุนไปในตัว ซึ่งการทำการฝากจะมีระยะเวลากำหนดตามสัญญา เช่น ทำสัญญาขายฝาก 1 ปี ถ้าครบกำหนดสัญญา 1 ปีแล้วเจ้าของไม่มาไถ่ถอนตามระยะเวลา 1 ปี ทรัพย์นั้นจะตกเป็นของผู้ลงทุนโดยอัตโนมัติ

ข้อดี:

  • ความมั่นคงในการรับรายได้: ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยที่มีสัญญาผูกพัน ซึ่งมักจะมีความมั่นคงและต่อเนื่อง
  • ทรัพย์สินเป็นหลักประกัน: ทรัพย์สินที่ถูกขายฝากเป็นหลักประกันที่ช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่ผู้ขายไม่สามารถชำระค่าดอกเบี้ยได้

ข้อเสีย:

  • ข้อจำกัดในการเพิ่มมูลค่า: การลงทุนในขายฝากอาจไม่สามารถเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินได้เท่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถพัฒนาและปรับปรุงได้
  1. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนและขายฝาก

ลักษณะ: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า, การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาและขาย, หรือการลงทุนใน REITs (Real Estate Investment Trusts)

ข้อดี:

  • การเพิ่มมูลค่า: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าโดยการปรับปรุงและพัฒนา
  • ผลตอบแทนจากค่าเช่า: สามารถรับรายได้จากค่าเช่าที่เกิดขึ้นจากการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์
  • ความหลากหลาย: มีรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย เช่น การลงทุนในที่ดิน, อาคารสำนักงาน, หรืออพาร์ตเมนต์

ข้อเสีย:

  • ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มักมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ เช่น การซ่อมแซม, การบำรุงรักษา, และค่าธรรมเนียมการจัดการ
  • ความเสี่ยงจากผู้เช่า: อาจมีความเสี่ยงจากการที่ผู้เช่าไม่สามารถชำระค่าเช่าหรือปัญหาในการหาผู้เช่าที่เหมาะสม
  1. การลงทุนในหุ้น

ลักษณะ: การลงทุนในหุ้นคือการซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัทนั้น การลงทุนในหุ้นสามารถให้ผลตอบแทนจากการขึ้นราคาของหุ้นและเงินปันผลที่บริษัทจ่าย

ข้อดี:

  • ความสามารถในการเติบโต: หุ้นมีศักยภาพในการเติบโตสูงจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นและผลประกอบการที่ดีของบริษัท
  • สภาพคล่องสูง: หุ้นมีความสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลาทำการของตลาดหุ้น

ข้อเสีย:

  • ความผันผวนสูง: หุ้นมีความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาดและการเปลี่ยนแปลงในผลประกอบการของบริษัท
  • การวิเคราะห์และการติดตาม: ต้องใช้เวลามากในการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ของบริษัทและตลาด

การลงทุนและขายฝาก ทำไมถึงแตกต่างกัน

การเปรียบเทียบ การลงทุนและขายฝาก :

  • ความเสี่ยง: การขายฝากมักมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น เนื่องจากมีการรับประกันรายได้จากค่าดอกเบี้ยและมีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ขณะที่หุ้นอาจมีความผันผวนสูงและไม่มีหลักประกัน
  • รายได้: การขายฝากมีรายได้ที่มั่นคงจากค่าดอกเบี้ย ในขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และหุ้นอาจมีผลตอบแทนที่ไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับตลาด
  • การจัดการ: การขายฝากมักมีความสะดวกในการบริหาร เพราะไม่ต้องดูแลทรัพย์สิน ขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต้องการการดูแลและบำรุงรักษา ส่วนหุ้นต้องติดตามผลประกอบการและการเคลื่อนไหวของตลาด

สรุป  : การขายฝากอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงและความสะดวกในการบริหาร ขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และหุ้นอาจมีโอกาสในการเติบโตที่สูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงและความซับซ้อนในการบริหารที่มากกว่า

 

Property4Cash ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยเพิ่มทุนให้กับทุกคนที่ต้องการเงินด่วน และต้องการเงินเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ไม่เช็คแบล็คลิส ไม่เช็คเครดิตบูโร

อนุมัติรวดเร็วทันใจ นึกถึงจำนอง-ขายฝาก นึกถึง Property4Cash

Line: @Property4Cash

โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash

ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ใบปลอดหนี้ คืออะไร รู้ไว้ก่อนซื้อขายบ้าน-คอนโด
9
Jun 23
ใบปลอดหนี้คืออะไร รู้ไว้ก่อนซื้อขายบ้าน-คอนโด

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนไม่คุ้นชินกับคำนี้แน่ๆ “ใบปลอดหนี้”  และเพื่อนๆ ก็คงไม่รู้ว่า อะไรคือใบปลอดหนี้ วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับเอกสารนี้กัน เพราะว่าใบปลอดหนี้ นั้น มีความสำคัญมากสำหรับคนที่อยากจะซื้อ ขาย’ บ้านและคอนโด ใบปลอดหนี้ คือ หนังสือเอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินค่าส่วนกลางในการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถ้าขาดเอกสารตัวนี้ไป จะทำให้เราไม่สามารถทำธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินได้ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ไม่สามารถซื้อขายได้นั่นเอง ใครต้องเป็นคนขอและต้องขออย่างไร ผู้ขายจะต้องเป็นผู้ดำเนินการขอเอกสารที่สำนักงานนิติบุคคลนั้นๆ เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายค้างชำระ (ถ้ายังไม่จ่ายค่าชำระ) หากมีการค้างค่าชำระบางประการ อาจจะต้องมีระยะเวลาในการออกเอกสารที่ยาวนานกว่า ขึ้นอยู่แต่ละกรณีที่แตกต่างกันไป เอกสารที่ต้องเตรียม สำเนาทะเบียนบ้านผู้ซื้อ-ผู้ขาย อย่างละ 1 ชุด สำเนาบัตรประชาชนผู้ซื้อ-ผู้ขาย อย่างละ 1 ชุด สำเนาโฉนดหน้า-หลัง สัญญาซื้อขาย ที่มีการระบุชื่อผู้ซื้อและผู้ขายชัดเจน หากชื่อหรือนามสกุลของผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่ตรงกัน ให้นำใบเปลี่ยนชื่อหรือใบเปลี่ย […]

อ่านเพิ่มเติม
กู้ร่วม แต่ผู้กู้ร่วมอีกคนเสียชีวิต ทำจำนองขายฝากได้ไหม?
2
Jul 24
กู้ร่วมแต่ผู้กู้ร่วมอีกคนเสียชีวิต ทำจำนองขายฝากได้ไหม?

หลายคนคงเคยกังวลว่าหากเรา กู้ร่วม ซื้อบ้านหรือคอนโดกับใครสักคน แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ผู้กู้ร่วมเสียชีวิต เราจะทำอย่างไรต่อ? โดยเฉพาะเรื่อง มรดก การผ่อนชำระสินเชื่อ หรือ  การขายฝาก จำนอง บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้กระจ่าง พร้อมอธิบายแนวทางปฏิบัติอย่างละเอียด เมื่อเผชิญสถานการณ์สูญเสียผู้กู้ร่วม เมื่อผู้กู้ร่วมเสียชีวิต สัญญาจะยังคงอยู่หรือไม่? ตอบ: สัญญากู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัยยังคงมีผลผูกพันแม้ว่าผู้กู้ร่วมจะเสียชีวิตก็ตาม ภาระหนี้สิน มรดก ต่างๆ จะตกไปอยู่กับผู้ กู้ร่วม ที่ยังมีชีวิตอยู่และทายาทของผู้เสียชีวิต แล้วทายาทมีสิทธิ์อะไรบ้าง? ตอบ: ทายาทของผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์เลือกดังนี้ รับสืบทอดหนี้สิน: ทายาทสามารถรับสืบทอดหนี้สินต่อจากผู้เสียชีวิต โดยจะต้องผ่อนชำระสินเชื่อร่วมกับผู้กู้ร่วมที่ยังมีชีวิตอยู่ สละสิทธิ์: ทายาทสามารถสละสิทธิ์ไม่รับสืบทอดหนี้สิน กรณีนี้ธนาคารอาจพิจารณาให้ผู้กู้ร่วมที่ยังมีชีวิตอยู่กู้ต่อเพียงลำพัง หรือหาผู้กู้ร่วมใหม่ ขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้: ทายาทสามารถขายบ้านหรือคอนโดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้สิน กรณีต้องการขายฝากหรือจำนอง กรณีผู้กู้ร่วมเสียชีวิต การทำ […]

อ่านเพิ่มเติม
กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ฉุดกำลังซื้อ กระทบอสังหาฯ ไทยหรือไม่?
13
May 25
กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา กระทบหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจโตช้า และเป็นกับดัก ฉุดรั้งกำลังซื้ออสังหาในไทยหรือไม่?

          กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา กระทบหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจโตช้า และเป็นกับดัก ฉุดรั้งกำลังซื้ออสังหาในไทยหรือไม่?           ในปี 2024–2025 ประเด็น “กำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา” หรือ U.S. Trade Tariffs ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้แรงกดดันจากสงครามการค้ากับจีนและนโยบายปกป้องภาคการผลิตภายในประเทศ อาจมีการ ปรับเพิ่มภาษีนำเข้า สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูง รถยนต์ไฟฟ้า และวัสดุก่อสร้างบางชนิด           หลายคนตั้งคำถามว่า… เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเศรษฐกิจไทย? และจะกระทบกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศเราหรือไม่? บทความนี้ Property4Cash เงินด่วนอสังหาได้สรุปให้ชัดๆ แบบเข้าใจง่าย ดังนี้ 1.กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา กระทบเศรษฐกิจโลกอย่างไร?          มาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจีน สูงขึ้นทันที                ➡️ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain) ชะงัก                ➡️ ต้นทุนสินค้าขยับสูงขึ้นทั่วโลก                ➡️ ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีภาระจ่ายเพิ่ม ขณะที่รายได้ไม่เพิ่มตาม ผลที่ตามมา คือ กำลังซื้อในสหรัฐฯ ลดลง การนำเข้าสินค้าจากต่า […]

อ่านเพิ่มเติม