มรดกที่ดิน คืออะไร ใครมีสิทธิรับ และ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
28
Jun 23

ที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี คนรุ่นเก่าๆ จึงมักชอบซื้อที่ดินเก็บไว้หลายๆ แปลง
ไม่ว่าจะซื้อไว้ลงทุนหรือซื้อไว้เป็นที่อยู่อาศัย ที่ดินจึงเป็นมรดกอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆ ครอบครัวส่งต่อสืบทอดกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น
บางคนอาจจะยินดีและดีใจที่ได้รับ แต่ๆๆๆ อย่ามัวแต่ดีใจกันไปนะคะ เพราะเมื่อได้รับมรดกมาแล้ว
นั่นหมายถึงการตามมาด้วยการจัดการต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย  การแบ่งมรดกที่ดินจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาด
ลองมาดูกันว่า การรับ มรดกที่ดิน คืออะไร ใครมีสิทธิรับ และ ต้องเตรียมอะไรบ้าง? 

การรับ มรดกที่ดิน คือ

เมื่อผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิเกี่ยวกับที่ดิน (เช่น โฉนดที่ดิน หรือ น.ส. หรือ น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข.) ได้ถึงแก่กรรมไป
ในทางกฎหมายแล้วที่ดินเหล่านั้นก็จะถือเป็นมรดก ซึ่งจะตกทอดแก่ทายาทของผู้ตายโดยสิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรมที่เจ้ามรดกทำไว้

สิทธิได้รับมรดกที่ดินจะตกเป็นของใครบ้าง

ทางกฎหมายผู้ที่มีสิทธิรับมรดกที่ดินออกเป็น 2 รูปแบบ

  1. กฎหมายมรดกที่ดินกำหนดว่า ผู้ได้รับมรดกที่ดินต้องมีสิทธิตามพินัยกรรม ผู้ได้รับมรดกที่ดินโดยสิทธิตามพินัยกรรม
    หรือผู้รับพินัยกรรม คือผู้ที่เจ้าของที่ดินทำพินัยกรรมส่งต่อมรดกที่ดินนั้นโดยระบุชื่อผู้สืบทอดไว้ชัดเจนตามที่กฎหมายมรดกที่ดินกำหนด
  2. กฎหมายมรดกที่ดินกำหนดว่าผู้ได้รับแบ่งมรดกที่ดินต้องเป็นทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายหรือทายาทโดยธรรม
    เมื่อเจ้าของที่ดินไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ผู้ที่มีสิทธิในการรับมรดกที่ดินจะเป็นไปตามกฎหมายมรดกที่ดินที่มีการลำดับทายาท
    โดยสิทธิตามกฎหมายหรือทายาทโดยธรรมไว้ดังนี้
  3. ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
  4. ภรรยาหรือสามี (ต้องจดทะเบียนสมรสกันเท่านั้น)
  5. บิดาและมารดา
  6. พี่น้องร่วมสายเลือด ทั้งบิดาและมารดาเดียวกัน
  7. พี่น้องร่วมบิดา หรือ มารดาเดียวกัน
  8. ปู่ย่า ตายาย
  9. ลุง ป้า น้า อา

หลักฐานที่ต้องเตรียมไปประกอบการขอรับมรดก

  • โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
  • บัตรประจำตัว
  • ทะเบียนบ้าน
  • หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น มรณบัตร
  • พินัยกรรม (ถ้ามี)
  • ถ้าผู้ขอ ขอรับมรดกในฐานะเป็นคู่สมรส ต้องมีหลักฐานการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
  • กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้ขอรับมรดก ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
  • ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
  • ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น ๆ

 

ซึ่งการโอนสิทธิตรงนี้จะเสียเพียงแค่ค่าธรรมเนียมการโอนเท่านั้น

ยกเว้น มรดกที่ได้มาจะมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท จะต้องมีการเสียภาษีมรดกเพิ่มด้วย

โดยจะเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เกินจาก 100 ล้านบาทเท่านั้น โดยจะแบ่งอัตราค่าเก็บภาษีมรดกเป็น

– ผู้รับมรดกเป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการรับมรดก

– ผู้รับมรดกเป็นบุพการีหรือผู้สืบสายเลือด จะเสียภาษีที่อัตราคงที่ 5%

– ญาติพี่น้องหรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือด จะเสียภาษีที่อัตราคงที่ 10%

 

ขั้นตอนการคำนวณภาษีมรดก

ขั้นที่ 1 มูลค่ามรดกสุทธิ – 100 ล้านบาท* = มูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี

ขั้นที่ 2 มูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี x อัตราภาษีมรดก = ภาษีมรดก

 

ตัวอย่าง นาย A เป็นลูกชายของเจ้าของมรดกได้รับมรดกเป็นที่ดินมูลค่าสุทธิ 150 ล้านบาท โดยที่เจ้าของมรดกไม่มีหนี้สินใด ๆ

จะมีการคำนวณดังนี้ 150,000,000 – 100,000,000 = 50,000,000 บาท

เท่ากับ 50,000,000 x 5% = 2,500,000 บาท

นาย A จะต้องเสียภาษีมรดกทั้งหมด 2,500,000 บาท

และในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน หากนาย A จะเสียค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 0.5% เนื่องจากเป็นผู้สืบสายเลือดโดยตรง

จะเสียค่าธรรมเนียมการโอนที่อัตราคงที่ 0.5% ดังนั้นจะเสียค่าธรรมเนียมดังนี้

ดังนั้น หากราคาประเมินอยู่ที่ 150,000,000 บาท จะเสียค่าธรรมเนียมดังนี้

150,000,000 x 0.5% = 750,000 บาท

สรุปภาษีและค่าธรรมเนียมที่นาย A จะต้องชำระคือ 2,500,000 + 750,000 = 3,250,000 บาท

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการรับมรดกที่ดิน หวังว่าเพื่อน ๆ จะทำทำความเข้าใจในเรื่องกฎหมายการรับมรดกที่ดิน
ช่วยให้เราสามารถเตรียมความพร้อมในการรักษาสิทฺธิให้ตัวเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัว
จะได้ดำเนินการถูกต้องและไม่เกิดปัญหาในการดำเนินธุรกรรม

มรดกที่ดิน คืออะไร ใครมีสิทธิรับ และ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

1
Nov 25
ภาษีอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ประกอบการควรรู้ เมื่อใช้ ‘บ้าน’ เป็นไลฟ์ขายของ

ภาษีอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ประกอบการควรรู้ เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ใช้ “บ้าน” เป็นสตูดิโอไลฟ์ขายของ เทรนด์ใหม่ บ้านไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัยอีกต่อไป                ยุคของ “อินฟลูเอนเซอร์ – ไลฟ์ขายของ” ทำให้หลายคนเริ่มใช้บ้านของตัวเองเป็นพื้นที่สร้างคอนเทนต์ ถ่ายสินค้า หรือแม้แต่ตั้งเป็น “สตูดิโอขายของ” แบบเต็มรูปแบบ แต่สิ่งที่หลายคน มองข้าม คือผลทาง “ภาษีอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งอาจเปลี่ยนสถานะบ้านจาก “ที่อยู่อาศัย” ไปเป็น “ทรัพย์สินเพื่อการพาณิชย์” ได้โดยไม่รู้ตัว   ภาษีที่เกี่ยวข้อง: “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง”                ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ตาม พ.ร.บ. ภาษีที่ดินฯ) กำหนดชัดว่า การใช้บ้านหรือที่ดินเพื่อทำการค้า หรือประกอบธุรกิจ จะถูกจัดเก็บภาษีในอัตรา “เชิงพาณิชย์” ไม่ใช่ “อยู่อาศัย” ตัวอย่าง ถ้าใช้บ้านบางส่วนถ่ายคลิป รีวิวสินค้า ไลฟ์ขายของ หรือรับสปอนเซอร์ → อาจเข้าข่าย “ใช้เพื่อการประกอบการ” ถ้าเปิดพื้นที่เป็นสตูดิโอให้คนอื่นเช่าใช้ถ่ายงาน → ชัดเจนว่าเป็น “การประกอบธุรกิจ” ต้องเสียภาษีเชิงพาณิชย์ ความแตกต่างของอัตราภาษี ประเภทการใช้ทรัพย์ อัตราภาษีโด […]

อ่านเพิ่มเติม
ไถ่ถอนจำนอง-ขายฝาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
22
Mar 23
ไถ่ถอนจำนอง-ขายฝาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?

เพื่อนๆ หลายคนที่มีข้อสงสัยว่าถ้าต้องการ “ไถ่ถอน” จำนองและขายฝากต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรไหม ? เพราะว่าบางคนอาจจะมีความสามารถชำระหนี้หมดก่อนเวลาที่กำหนดไว้  ซึ่งการ ไถ่ถอนจำนอง หรือขายฝากนั้น ก็มีความแตกต่างกันแล้วแต่กรณีตามประเภทของการไถ่ถอน วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่า การไถ่ถอนจำนอง และขายฝาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ? ไปดูกันเลย การ ไถ่ถอนจำนอง คืออะไร คือ เจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของทรัพย์ ได้จดทะเบียนจำนองไว้เป็นหลักค้ำประกันในการชำระหนี้ ต่อมาได้ทำการชำระหนี้ที่จำนองไว้เสร็จสิ้นแล้ว เมื่อชำระหนี้หมดแล้ว ต้องไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองเพื่อแก้ไขเอกสารสิทธิว่าไม่มีการจำนอง หรือปลอดจำนองแล้วนั่นเอง วิธีการไถ่ถอนจำนอง มี 2 แบบ ผู้จำนอง และ ผู้รับจำนอง ไปที่สำนักงานที่ดิน เพื่อยื่นคำขอจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน พร้อมกัน ผู้ที่มีสิทธิในที่ดินหรือผู้มีสิทธิไถ่ถอนเพียงฝ่ายเดียว ไปที่สำนักงานที่ดิน นำหลักฐานที่ผู้รับจำนองได้ทำเป็นหนังสือหลังสัญญาจำนอง ฉบับผู้รับจำนองว่าได้มีการไถ่ถอนจากจำนองแล้ว มีการชำระหนี้ครบแล้ว ไปขอจดทะเบียนไถ่ถอน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ […]

อ่านเพิ่มเติม
24
Nov 23
ข้อควรรู้ก่อนตกลงทำสัญญาขายฝาก

หากใครต้องการใช้เงินด่วน แต่ไม่อยากนำทรัพย์สินไปขายขาด สำหรับคนที่มีที่ดินและบ้านไว้ครอบครอง “การขายฝาก” จึงเป็นทางเลือกที่ดี วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ตรวจสอบเครดิตบูโร หรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร (Statement) สามารถไถ่คืนที่ดินได้ และยังใช้ประโยชน์ในที่ดินต่อไปได้อีกด้วย “การขายฝาก” เป็นการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินประเภทหนึ่ง โดยกรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้รับซื้อทันทีเมื่อมีการทำสัญญาเกิดขึ้น ซึ่งมีข้อตกลงกันว่า ผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ในเวลาที่ตกลงกันตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นในการทำสัญญาทุกครั้ง จะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ระบุในสัญญา ข้อควรระวังต่างๆ ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน จะได้ไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นภายหลังกันค่ะ ข้อควรรู้ก่อนตกลงทำสัญญาขายฝาก มีดังนี้ ผู้ขายฝากจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อฝากทันทีในวันที่ทำสัญญา เมื่อขายฝากไปแล้วกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้ซื้อฝาก โดยมีข้อตกลงกันว่า ผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ในเวลาที่ตกลงกันตามกฎหมาย การทำสัญญาจะต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน ณ กรมที่ดินเท่านั้น ในการทำสัญญาขายฝากที่ดินจะต้องทำเป็นหน […]

อ่านเพิ่มเติม