5 พฤติกรรมต้องห้ามใน การลงทุนอสังหา ไม่อยากขาดทุนห้ามทำ!!
4
Nov 23

การลงทุนอสังหา ที่หลายคนเห็นว่าได้กำไรดี
บางคนรีบลงทุนก่อนได้ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด
เพราะหวังว่า จะสามารถกอบโกยกำไรได้อย่างงาม
อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรชะล่าใจเห็นแก่ของถูกเพียงอย่างเดียว
เรามาดูกันว่าเราเราจะต้องระวังในเรื่องไหนบ้าง
เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรือขาดทุน ก่อนการ การลงทุนอสังหา

#จองตามกระแส คอนโดไหนฮอต คนเยอะเราต้องไม่พลาด
ปกติแล้วในวัน Presale ของโครงการวันแรกจะมีเหล่าผู้ซื้อและนักลงทุนมาต่อคิวกันมากมาย
บางโครงการที่ฮอตจริงๆ มีคนมาต่อคิวกันตั้งแต่เช้าตรู่
หากเราทำตัวตามกระแสรีบจับจองโดยยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อน
อาจทำให้วันนึงเราจะต้องยอมขายขาดทุน  เมื่อโครงการไม่ได้เป็นที่ต้องการหรือ
ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมากนัก

#ไม่ศึกษาทำเลให้ดี
บางคอนโดมีทำเลใกล้รถไฟฟ้าก็จริง แต่รอบข้างกลับไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเลย
ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงเรียน ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ
ยิ่งไปกว่านั้นบางโครงการกลับแวดล้อมไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ
ทั้งมลพิษทางอากาศ เสียง หรือแม้กระทั่งกลิ่น

#ไม่ประมาณตนเอง รีบตัดสินใจไม่ดูเครดิต
ความสามารถในการกู้ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันตามฐานะทางการเงิน และเครดิต
การเลือกโครงการในการลงทุนเราจะต้องเลือกตามความสามารถในการกู้และผ่อนของเรา
แม้ว่าตั้งใจจะปล่อยเช่า แต่ก็ต้องมีกระแสเงินสดสำรองในภาวะที่ห้องไม่มีผู้เช่าเช่นกัน
เพราะหากเราเลือกโครงการที่ดี แต่ราคาแพงถึงเวลากู้ไม่ผ่าน หรือผ่อนไม่ไหว
ก็จะต้องเจอกับภาวะหนี้สินล้นตัว หรือโดนยึดเงินดาวน์

#ไม่ศึกษา Developer เจ้าของโครงการ
ในปัจจุบันตลาดคอนโดของเรามี developer เจ้าเล็กใหญ่ หน้าใหม่หน้าเก่าเต็มไปหมด
แม้ว่าชื่อเสียงอย่างเดียวจะไม่สามารถการันตีคุณภาพของโครงการได้
แต่การซื้อคอนโดกับ Developer เจ้าใหญ่และมีเชื่อเสียงก็จะมีข้อได้เปรียบมากกว่า
เพราะมีเครดิตมากกว่า ขายต่อง่ายกว่า ได้ราคาดีกว่า ฯลฯ
อย่างไรก็ตามการศึกษาเครดิตของ Developer และโครงการก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจไม่ให้เกิดการตัดสินผิดพลาดในอนาคต

#เลือกซื้อคอนโดตามกระแส Social ใครว่าดีเราก็ว่าดี
ในปัจจุบันโครงการต่างๆ มักจะใช้ Influencer เป็นส่วนช่วยในการทำการตลาด
จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเลือกเชื่อข้อมูลจาก Influencer มากกว่าตัวโครงการ
ทั้งเว็บไซต์ดัง คนดังในวงการ บล็อคเกอร์ แม้ว่าข้อมูลของกลุ่มคนเหล่านี้จะมีความน่าเชื่อถือ
และน่าสนใจแต่เราก็ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ
พร้อมทั้งกระแสจาก Real Customers ประกอบการตัดสินใจด้วย

 

.

 

เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงนะคะกับพฤติกรรมอันตรายเหล่านี้
ด้วยอสังหาริมทรัพย์ เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและสามารถทำกำไรได้สูง
แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
อย่างครอบคลุมและวิเคราะห์ก่อนการลงทุนจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งไม่เช่นนั้นอาจขาดทุนกันได้

5 พฤติกรรมต้องห้ามใน การลงทุนอสังหา ไม่อยากขาดทุนห้ามทำ!!

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

20
Jul 24
ผู้ขายฝากไม่มีเงินมาไถ่ถอน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของใคร?

สัญญาขายฝาก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเงินทุน แต่ยังต้องการคงไว้ซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า สัญญาขายฝากนั้นเหมือนกับการจำนองที่ดิน แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันอยู่มาก โดยเฉพาะผลลัพธ์ที่ตามมาหากผู้ขายฝากไม่มีเงินมาไถ่ถอนที่ดินภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา วันนี้  เราจะมาไขข้อข้องใจ  “กรณีผู้ขายฝากไม่มีเงินมา ไถ่ถอน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของใคร?”  พร้อมเจาะลึกประเด็นน่าสนใจ  “เกี่ยวกับสัญญาขายฝาก กันค่ะ   เมื่อผู้ขายฝากไม่มีเงินมาไถ่ถอนที่ดิน กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของ “ผู้รับขายฝาก” โดยไม่ต้องดำเนินการฟ้องร้องใดๆ เพิ่มเติม ต่างจากการจำนอง ที่ผู้รับจำนองจะต้องฟ้องร้องต่อศาล เพื่อบังคับคดีก่อน จึงจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทั้งนี้ สิทธิ์ของผู้ขายฝากที่จะไถ่ถอนที่ดินนั้น  จะมีระยะเวลา “ไม่เกิน 10 ปี”  นับตั้งแต่วันทำสัญญาขายฝาก  ซึ่งระยะเวลานี้  สามารถตกลงกัน  “ให้สั้นลงหรือยาวนานขึ้นได้”  แต่ไม่เกิน 10 ปี อย่างไรก็ตาม กฎหมายยังมีช่องทางช่วยเหลือผู้ขายฝาก  “กรณีพิเศษ”  ดังนี้       R […]

อ่านเพิ่มเติม
เมื่อนำบ้านไป ขายฝากบ้าน ยังสามารถอยู่อาศัยภายในบ้านได้หรือไม่?
30
Sep 24
เมื่อนำบ้านไปขายฝาก ยังสามารถอยู่อาศัยภายในบ้านได้หรือไม่?

ขายฝากบ้าน ขายฝากทรัพย์สิน เป็นหนึ่งในวิธีการจัดการทรัพย์สินที่หลายคนเลือกใช้เพื่อเข้าถึงเงินทุนอย่างรวดเร็ว แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ เมื่อนำบ้านไปขายฝากแล้ว เจ้าของบ้านเดิมยังสามารถอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นต่อไปได้หรือไม่? คำตอบสำหรับคำถามนี้มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการเกิดความสับสนและปัญหาในภายหลัง” ขายฝากบ้าน คืออะไร? การขายฝาก คือการทำสัญญาทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน หรือที่ดิน  เป็นกระบวนการที่เจ้าของทรัพย์สินขายอสังหาริมทรัพย์ให้กับผู้ซื้อฝาก โดยมีข้อตกลงว่าผู้ขายสามารถอาศัยอยู่ในทรัพย์สินนั้นได้จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนดในการชำระคืนเงินกู้หรือหนี้ที่ได้รับจากผู้ซื้อฝาก ซึ่งส่วนใหญ่การขายฝากจะเกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินที่มีหลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น การขายฝากบ้านเป็นวิธีที่สามารถใช้ในการระดมทุนหรือกู้ยืมเงินโดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน แต่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องที่ควรทราบ โดยทั่วไปแล้ว การขายฝากจะมีลักษณะดังนี้: สิทธิในการอยู่อาศัย: ในกรณีของการขายฝาก บ้านยังคงเป็นของผู้ขาย (เจ้าของเดิม) และเจ้าของบ้ […]

อ่านเพิ่มเติม
12
Jul 23
ขายฝาก หรือจำนอง เปลี่ยนทรัพย์เป็นเงินวิธีไหนง่ายที่สุด

อีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ และกำลังเป็นที่นิยม ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เลยก็คือการ “ขายฝาก” บางคนอาจจะคุ้นชินกับคำนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่บางคนอาจจะไม่รู้จัก เคยได้ยินเพียงแต่ คำว่า “จำนอง” เท่านั้น . แล้วถ้าเราอยากเปลี่ยนทรัพย์ให้เป็นเงินด่วนแบบนี้ การจำนองหรือขายฝาก จะตอบโจทย์เรามากกว่ากันล่ะ เรามาดูกันก่อนว่าสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร #จำนอง นั้นหมายถึง การทำนิติกรรมที่เรานำเอาทรัพย์ที่ครอบครองอยู่ ไปค้ำประกันกับผู้รับจำนอง เพื่อแลกกับเงินก้อนหนึ่งออกมา โดยที่ผู้รับจำนอง จะได้ดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากเราไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้รับจำนองมีสิทธิ์ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ ให้ศาลออกหมายบังคับคดี นำทรัพย์ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ . ส่วน #ขายฝาก เป็นการทำนิติกรรมที่เรานำเอาอสังหาฯ ไปให้ผู้รับซื้อฝาก เพื่อแลกกับเงินก้อนหนึ่ง โดยที่ผู้รับฝากก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเช่นกัน แต่ความแตกต่างระหว่างการขายฝาก กับการจำนอง ก็คือ กรรมสิทธิ์ของอสังหาฯ จะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันทีตั้งแต่วันแรกที่ทำสัญญาเสร็จสิ้น แต่ผู้ขายฝาก จะยังมีโอกาสไถ่ถอนคืนได้ ภายในร […]

อ่านเพิ่มเติม