ถมดิน เพิ่มราคาซื้อขายให้แพงขึ้นได้จริงหรือ?
4
Jan 24

หลายคนที่เป็นเจ้าของที่ดิน หรือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์
มักจะประสบปัญหาที่ดินบางแปลงอยู่ต่ำกว่าระดับถนนมาก
บางพื้นที่อาจจะเป็นป่ารกทึบ บางพื้นที่อาจจะเคยเป็นพื้นที่รองรับน้ำมาก่อน
จึงมักเกิดน้ำท่วมขังทุกครั้งเมื่อฝนตก ทำให้ที่ดินแปลงนั้นไม่ค่อยมีคนสนใจอยากจะซื้อเท่าไหร่นัก
ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะแก้ได้ด้วยการ ถมดิน ถือว่าเป็นวิธีการง่ายที่สุดในการเพิ่มมูลค่าที่ดินของเราได้

การ ถมดิน ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินได้อย่างไร?

การถมดิน เป็นการปรับพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการพัฒนาให้ดีขึ้น
ตรงไหนต่ำไปหรือสูงไปก็ต้องปรับให้เหมาะสมพร้อมที่จะพัฒนาในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ยังช่วยให้ที่ดินแปลงนั้น สามารถ ซื้อขาย ได้ง่ายมากกว่าที่ดินที่ยังไม่ได้ถมอีก

เมื่อมีการถมดิน แล้ว จะยังไม่สามารถเริ่มก่อสร้างได้ทันที
ต้องรอดินเซตตัวก่อนเป็นเวลาประมาณ 1 ปี
หากเราก่อสร้างโดยไม่รอให้ดินเข้าที่อาจจะเกิดปัญหาบ้านทรุดลงได้
ดังนั้น การถมดิน จึงมีไว้สำหรับพร้อม ซื้อขาย เท่านั้น
ซึ่งการถมดิน จะทำให้เรารู้ทันทีเลยว่าที่ดินแปลงนี้สวยหรือไม่ รกไปไหม
เพราะในเรื่องความสวยงามของที่ดินนั้นก็เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของผู้ซื้อขายด้วย

ก่อนถมดิน ต้องแจ้งหน่วยงานไหนบ้าง?

หากจะมีการถมดินในที่ดินมีขนาดตั้งแต่ 1 ไร่ 1 งาน หรือ 2,000 ตร.ม. ขึ้นไป
และเป็นที่ที่ถมให้สูงกว่าที่ดินด้านข้าง เมื่อวัดจากด้านที่มีพื้นที่ต่ำสุด
จะต้องมีการขออนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ อบต. เทศบาล เขต หรือพื้นที่ใด ๆ ที่มีการควบคุม
ซึ่งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานก็จะเข้ามาดูแลร่วมกับเจ้าของด้วย
เพราะการถมที่ดินอาจปิดทางน้ำไหลหรือทำให้ระบบนิเวศใกล้เคียงเปลี่ยนแปลงไปได้
เจ้าของที่ดิน จึงต้องทำรางระบายน้ำตามที่เจ้าหน้าที่กำหนด

ต้องถมดิน ในระดับไหนถึงจะพอดี

ก่อนเริ่มถมดิน ต้องมีกำหนดความสูงที่ต้องการจะถม
ส่วนใหญ่จะถมดิน ให้สูงกว่าถนนประมาณ 50-80 เซนติเมตร
หรือบางพื้นที่อาจถมสูง 1 เมตร เผื่อมีการยุบตัวของที่ดินในอนาคตด้วย
และควรสำรวจพื้นที่รอบๆ บริเวณใกล้เคียงด้วยว่าเขาถมดินไว้ในระดับความสูงเท่าไหร่
เราก็ควรจะถมดินให้สูงเท่ากับพื้นที่ข้างเคียงที่สุด หรือสูงกว่าเล็กน้อยเท่านั้น

การถมดิน แต่ละแปลง จะมีค่าใช้จ่ายในการถมด้วย
โดยปกติราคาเฉลี่ยสำหรับการถมดิน 1 คิว
จะอยู่ที่ประมาณ 280 บาทต่อพื้นที่หน้างาน 100 ตารางวา
หากต้องการถมดินด้วยความสูง 1 เมตร รวมปริมาณดินที่ใช้ พร้อมค่าบดอัดด้วย
จะใช้ดินอยู่ 480 คิว รวมทั้งหมดแล้ว ต้นทุนค่าถมดินคราวๆ จะอยู่ที่ประมาณ 120,000 – 140,000 บาท
หรือราคาอาจมากกว่านั้นขึ้นอยู่ปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ขนาดพื้นที่ สภาพดิน เป็นต้น

ถึงแม้ว่าการถมดิน จะมีต้นทุนในการถมค่อนข้างสูง
แต่กลับกลายว่า เป็นการเพิ่มโอกาสและเพิ่มราคาในที่ดินแปลงนั้นให้สูงขึ้น
เนื่องจาการเป็นการปรับพื้นที่ดินที่ไม่ได้มีคุณสมบัติ
ตรงตามลิสต์ของผู้ซื้อที่กำลังมองหาที่ดินสักแปลง
เพื่อนำไปต่อยอดการลงทุนหรือสร้างที่อยู่อาศัย
ดังนั้นการ ถมดิน จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อขายเป็นอย่างมาก

ถมดิน เพิ่มราคาซื้อขายให้แพงขึ้นได้จริงหรือ?

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

 

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

การฝากขาย และ การขายฝาก แตกต่างกันอย่างไร
17
Oct 23
การฝากขาย และ การขายฝาก แตกต่างกันอย่างไร

หลายๆ คนอาจจะยังสับสนหรือสงสัยกับว่า การขายฝาก และ การฝากขาย แตกต่างกันอย่างไร แม้ว่าอ่านแล้วอาจจะดูคล้ายกัน แต่สองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของการขายฝาก กับ การฝากขายกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าแต่ละตัวมันมีความหมายยังไง จะได้ไม่เข้าใจกันผิดกันอีกจ้า การขายฝาก คือ สัญญาการซื้อขายรูปแบบหนึ่ง ซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกแก่ผู้รับขายฝาก (นายทุน) ณ วันที่ทำสัญญาที่กรม ที่ดิน ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า ผู้ขายฝากสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ ภายในระยะเวลาที่ระบุในสัญญา (แต่ไม่เกิน 10 ปี) หากไม่มาไถ่ถอนทรัพย์สิน กรรมสิทธิ์นั้นจะตกเป็นของผู้รับฝาก(นายทุน) ทันที ส่วนการ ฝากขายนั้น ผู้ฝากขายจะนำทรัพย์สินของตนเองไปฝากขายกับตัวแทน หรือนายหน้า เพื่อให้ทางนายหน้า ช่วยทำการตลาด โฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ทรัพย์สิน ที่เจ้าของทรัพย์นำไปฝากขาย ซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะยังเป็นของผู้ฝากขายอยู่ และจะโอนเป็นของผู้อื่นเมื่อนายหน้าได้ทำการขายทรัพย์สินนั้น ให้กับผู้ฝากขายได้แล้ว ตารางเปรียบเทียบระหว่างขายฝากและฝากขาย หัวข้อ ขายฝาก ฝากขาย ธุรกรรม การขายฝากและสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินนั้นคืนได้ ห […]

อ่านเพิ่มเติม
7
Nov 25
ทำไม! คนที่ต้องการ เงินด่วนอสังหา ถึงเลือกขายฝากแทนการจำนอง?

ทำไม! คนที่ต้องการ เงินด่วนอสังหา ถึงเลือกขายฝากแทนการจำนอง? ก่อนอื่น มารู้จัก “ขายฝาก” และ “จำนอง” กันก่อน                 หลายคนอาจคิดว่าขายฝากกับจำนอง คือ สิ่งเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วต่างกันในแง่ สิทธิ์ในทรัพย์สินและเงื่อนไขสัญญา                จำนอง คือ เอาทรัพย์ไปค้ำประกันหนี้ แต่ยังเป็นเจ้าของอยู่ กรรมสิทธิ์ด้านหลังโฉนดยังเป็นชื่อผู้จำนอง ต้องชำระหนี้ครบแล้ว จะไถ่ถอนจำนอง ต้องจ่ายดอกเบี้ยตรงทุกเดือน วงเงินอนุมัติจะอยู่ที่ 30-40% ของราคาตลาด                ขายฝาก คือ ขายทรัพย์ให้ผู้รับฝาก แต่มีสิทธิ์ “ไถ่คืน” ภายในเวลาที่กำหนด กรรมสิทธิ์จะถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของผู้รับซื้อฝากเพียงชั่วคราว เมื่อครบกำหนดก็นำเงินต้นมาไถ่ถอน พร้อมกับดอกเบี้ยที่ตกลงกัน ตามกำหนดเวลาได้เลยค่ะ วงเงินอนุมัติจะอยู่ที่ 50-65% ของราคาตลาด   แล้วทำไมหลายคนถึง “เลือกขายฝาก”? ได้ “วงเงินสูงกว่า” การจำนอง                ผู้ให้เงินกู้แบบขายฝาก มักพิจารณาจาก มูลค่าทรัพย์จริง มากกว่ารายได้ของผู้กู้  ทำให้ขายฝากสามารถให้วงเงินสูงถึง 80–100% ของราคาประเมินทรัพย์ เหมาะกับคนที่ต้องการเงินก้อนใหญ่ เช่น ปิดหนี้ธนาคาร, ลง […]

อ่านเพิ่มเติม
9
Dec 25
“พระโขนง” ถิ่นนี้มีเรื่องราว

“พระโขนง” ถิ่นนี้มีเรื่องราว เรื่องเล่าเกี่ยวกับพระโขนง ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน พัฒนาอย่างไรบ้าง?                พระโขนง คือ ย่านที่มีเสน่ห์แบบ “กรุงเทพฯ รุ่นเก่า แต่ทันสมัยขึ้นทุกปี” หลายคนรู้จักพระโขนงจากเรื่องเล่า “แม่นาคพระโขนง” ที่กลายเป็นตำนานระดับประเทศ แต่ในความจริงแล้ว ย่านนี้มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี และมีพัฒนาการที่เปลี่ยนโฉมจาก “ชุมชนริมน้ำ” ไปสู่ “ย่านเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยคอนโดและคาเฟ่” อย่างน่าสนใจมาก ลองมาดูตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันกันแบบละเอียด ว่าพระโขนงเดินทางมาอย่างไรบ้าง พระโขนงในอดีต เป็นชุมชนดั้งเดิมริมคลอง และเส้นทางคมนาคมสำคัญ ย่านริมน้ำเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น                ในอดีต พระโขนง เป็นพื้นที่ชุมชนเกษตรกรรมและการค้าทางน้ำ ผู้คนสัญจรผ่านคลองพระโขนงซึ่งเชื่อมต่อไปยังคลองสำคัญหลายสาย ทำให้พื้นที่นี้ค่อนข้างคึกคักแม้อยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ ผู้คนทำสวน ทำไร่ มีตลาดท้องถิ่นเล็กๆ บ้านเรือนเป็นเรือนไม้ริมคลอง วิถีชีวิตผูกพันกับแม่น้ำและประเพณีไทย นี่คือ “พระโขนงยุคหัวเมือง” ที่ยังไม่มีอาคารสูง ไม่มีถนนใหญ่ และไม่มีระบบขนส่งมวลชนแบบปัจจุบ […]

อ่านเพิ่มเติม