จัดการสินสมรส ในรูปแบบอสังหา แบ่งอย่างไรให้ลงตัว
1
Dec 23

ปัญหาการหย่าร้างมีมากกว่าขึ้นทุกปี ซึ่งสาเหตุของการหย่าร้างมาจากทั้ง 2 ฝ่าย
เกิดจากถูกกดดันจากครอบครัวและความไม่เข้าใจกัน ทำให้เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวมากขึ้น
และสิ่งที่ตามมาหลังจากการหย่าร้างกันนั้นคือ “จัดการสินสมรส” ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งต่อกันมากที่สุด

ยิ่งสินสมรสนั้นเป็น อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน คอนโดมิเนียม
ที่ซื้อมาร่วมกันโดยไม่ใช่การรับมรดก
ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มักมีราคาค่างวดมาก
การจะทำอะไรที่เป็นการทำให้สิทธิที่มีอยู่อาจเสียไปอย่าง
เช่น การขาย จะต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่าย

กฎหมายจึงเปิดโอกาสให้คู่สมรสสามารถตกลงวิธีการ
เงื่อนไข และข้อจำกัดเกี่ยวกับสินสมรสกันๆ ได้เห็นสมควร
ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476 กำหนดวิธี จัดการสินสมรส ไว้
เรื่อง คู่สมรสต้องจัดการสินสมรสร่วมกันได้

  1. จัดการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน

ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะบ้านหรือที่ดิน
จะทำการขาย แลกเปลี่ยน ขายฝากให้เช่าชื้อ
จำนอง ปลดจำนอง หรือโอนสิทธิจำนอง
ต้องได้รับการยินยอมร่วมกัน

  1. ให้ผู้อื่นเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี

เมื่อมีการปล่อยให้เช่าในระยะเวลาเกิน 3 ปี สามีและภรรยาต้องตกลงและทำธุรกรรมร่วมกัน
หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยินยอม สามีหรือภรรยามีสิทธิฟ้องเพิกถอนได้

  1. ให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา

หากจะมีการยกอสังหาริมทรัพย์นั้น เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด เป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย ยกเว้นการให้ที่พอสมควรตามฐานะเพื่อการกุศลหรือเพื่อสังคม

  1. การเอาสินสมรสไปเป็นหลักประกัน

ถ้ามีนำอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นหลักประกันในการทำสัญญาต่างๆ
จะต้องได้รับยินยอมร่วมกัน และทำธุรกรรมร่วมกัน
ยกเว้นในกรณีใช้ตำแหน่งส่วนตัวไม่ต้องยินยอมจากคู่สมรส

  1. ประนีประนอมยอมความ

หากแบ่งสินสมรสไม่ลงตัว ไม่ว่าจะฝ่ายสามีหรือฝ่ายภรรยา
ทั้งสองฝ่ายจะทำการประนีประนอมยอมความกันเกิดขึ้น
เพื่อทำให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด

  1. มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย

ถ้ามีการตกลงกันในเรื่องสินสมรสในรูปแบบอสังหาไม่ลงตัว
ทั้งสามีและภรรยาสามารถขอศาลให้มอบข้อพิพาท
เกี่ยวกับสินสมรสให้บุคคลที่คู่กรณีแต่งตั้งขึ้น
หรืออนุญาโตตุลาการวินิจฉัยตัดสินข้อพิพาทเพื่อให้เกิดยุติธรรมที่สุด

อย่างไรก็ตาม สินสมรสที่เป็น “อสังหาริมทรัพย์”
จะเป็นบ้าน ที่ดิน คอนโดมิเนียม ที่ซื้อมาร่วมกันไม่ใช่การรับมรดก
การจะทำอะไรสักอย่าง เช่น ทำสัญญาต่างๆ ปล่อยให้เช่า ซื้อขาย จะต้องได้รับการยินยอมจากทุกฝ่าย
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่าฝืน กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480
กำหนดไว้ให้ฝ่ายนั้นมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รู้เหตุ
แต่ถ้าในกรณีที่มาฟ้องศาลหลังจากพ้น 10 ปีไปแล้ว
ศาลจะเพิ่งถอนนิติกรรมที่ตนไม่รู้ไม่เห็นและให้ยินยอมว่า “ตนนั้นยอมรับนิติกรรมไปแล้ว”นั้นเองค่ะ

จัดการสินสมรส ในรูปแบบอสังหา แบ่งอย่างไรให้ลงตัว

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ถมดิน เพิ่มราคาซื้อขายให้แพงขึ้นได้จริงหรือ?
4
Jan 24
การ “ถมดิน” เพิ่มราคาซื้อขายให้แพงขึ้นได้จริงหรือ?

หลายคนที่เป็นเจ้าของที่ดิน หรือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มักจะประสบปัญหาที่ดินบางแปลงอยู่ต่ำกว่าระดับถนนมาก บางพื้นที่อาจจะเป็นป่ารกทึบ บางพื้นที่อาจจะเคยเป็นพื้นที่รองรับน้ำมาก่อน จึงมักเกิดน้ำท่วมขังทุกครั้งเมื่อฝนตก ทำให้ที่ดินแปลงนั้นไม่ค่อยมีคนสนใจอยากจะซื้อเท่าไหร่นัก ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะแก้ได้ด้วยการ ถมดิน ถือว่าเป็นวิธีการง่ายที่สุดในการเพิ่มมูลค่าที่ดินของเราได้ การ ถมดิน ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินได้อย่างไร? การถมดิน เป็นการปรับพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการพัฒนาให้ดีขึ้น ตรงไหนต่ำไปหรือสูงไปก็ต้องปรับให้เหมาะสมพร้อมที่จะพัฒนาในลำดับต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยให้ที่ดินแปลงนั้น สามารถ ซื้อขาย ได้ง่ายมากกว่าที่ดินที่ยังไม่ได้ถมอีก เมื่อมีการถมดิน แล้ว จะยังไม่สามารถเริ่มก่อสร้างได้ทันที ต้องรอดินเซตตัวก่อนเป็นเวลาประมาณ 1 ปี หากเราก่อสร้างโดยไม่รอให้ดินเข้าที่อาจจะเกิดปัญหาบ้านทรุดลงได้ ดังนั้น การถมดิน จึงมีไว้สำหรับพร้อม ซื้อขาย เท่านั้น ซึ่งการถมดิน จะทำให้เรารู้ทันทีเลยว่าที่ดินแปลงนี้สวยหรือไม่ รกไปไหม เพราะในเรื่องความสวยงามของที่ดินนั้นก็เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของผู้ซื้อขายด้วย ก่อนถมดิน […]

อ่านเพิ่มเติม
วางแผนเกษียณตามสไตล์มนุษย์เงินเดือน เริ่มได้อย่างไร?
13
Mar 25
วางแผนเกษียณตามสไตล์มนุษย์เงินเดือน เริ่มได้อย่างไร?

ปัจจุบันผู้คนเริ่มสนใจเรื่องการวางแผนเกษียณกันมากขึ้น เพื่อที่จะมีเงินเก็บไว้ใช้ยามแก่ชรา โดยในแต่ละปีมีมนุษย์เงินเดือนที่เกษียณอายุมากขึ้น ทั้งการเกษียณจากอายุงาน หรือการเกษียณด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเกษียณแบบไหนก็ตาม การเลือกวางแผนเกษียณไว้ล่วงหน้าย่อมดีกว่า  โดย Property4Cash เงินด่วนอสังหาได้รวบรวมการ วางแผนเกษียณตามสไตล์มนุษย์เงินเดือน มาฝากกัน อยากเริ่มวางแผนเกษียณกันแล้ว ไม่รู้ว่าหลังเกษียณควรมีเงินเก็บเท่าไหร่ดี? บทความนี้ มีคำตอบให้คุณ   ใครหลายคนอาจคิดว่า… การวางแผนทางด้านการเงินหลังการเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือนเป็นเรื่องที่ยากและใช้เวลานาน แต่เราขอบอกเลยว่าไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน โดยในหัวข้อนี้เราจะมาบอก  7 เทคนิคการวางแผนเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือน เงินเพิ่มพูน มีใช้อย่างเหลือเฟือ 1.กำหนดการเกษียณอายุงาน : ก่อนที่คุณจะวางแผนเกษียณ คุณควรเริ่มกำหนดอายุเกษียณของตนเองไว้ก่อน หากคุณทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแต่ไม่ทราบว่าบริษัทเอกชนเกษียณอายุเท่าไหร่ หรือตอนไหน? ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเอกชนจะเริ่มเกษียณอายุงานตอนอายุประมาณ 55 – 60 ปี และหลังจากเกษียณคนเราจะสามารถอยู่ได้จนถึงอายุประมาณ 80 ป […]

อ่านเพิ่มเติม
13
Sep 24
10 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขายฝาก

ขายฝากคืออะไร? คำตอบ: ขายฝากคือข้อตกลงทางการเงินที่เจ้าของทรัพย์สิน (ผู้ขายฝาก) นำทรัพย์สินของตนไปขายให้กับอีกฝ่าย (ผู้ซื้อฝาก) แต่ยังคงสิทธิบางประการในการใช้หรือครอบครองทรัพย์สินนั้น โดยผู้ขายฝากจะมีสิทธิเก็บคืนทรัพย์สินหลังจากชำระเงินตามที่ตกลงกันไว้ในระยะเวลาที่กำหนด   ข้อแตกต่างระหว่างขายฝากและการจำนองคืออะไร? คำตอบ: การขายฝากและการจำนำทั้งสองเป็นวิธีการที่ใช้ทรัพย์สินเป็นหลักประกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ: ขายฝาก: ผู้ขายฝากโอนกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินให้กับผู้ซื้อฝาก แต่สามารถซื้อคืนได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ การจำนอง: ผู้จำนองส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้รับจำนองเพื่อเป็นหลักประกัน แต่ยังคงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น และสามารถนำทรัพย์สินนั้นคืนได้เมื่อชำระหนี้ครบถ้วน   การขายฝากมีข้อดีข้อเสียอย่างไร? คำตอบ: ข้อดี: สามารถใช้ทรัพย์สินที่มีค่าเพื่อรับเงินทุนโดยไม่ต้องขายทรัพย์สินออกไป มีโอกาสซื้อคืนทรัพย์สินในอนาคตตามเงื่อนไขที่ตกลง ข้อเสีย: ผู้ขายฝากอาจสูญเสียทรัพย์สินหากไม่สามารถซื้อคืนได้ตามกำหนด มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจัดการเอกสารและค่าธรรมเนียม ขั้นตอนในการขายฝากเป็นอย่างไ […]

อ่านเพิ่มเติม