ลงทุนขายฝาก ดีกว่าซื้อไว้ปล่อยเช่ายังไง
3
Mar 23

ลงทุนขายฝาก รับจำนอง เป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 15% ต่อปีได้ แต่เป็นการลงทุนที่หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นหูนัก
เพราะเมื่อนึกถึงการลงทุนอสังหาฯ แล้ว มันคุ้นชินกับการซื้อมาเก็บไว้เก็งกำไร หรือซื้อมาเพื่อปล่อยเช่าเสียมากกว่า

วันนี้เราลองมาดูกันว่า การลงทุนในอสังหาฯ อย่างการซื้อมาปล่อยเช่า และ ลงทุนรับจำนอง-ขายฝาก  แตกต่างกันอย่างไรบ้าง และอะไรดีกว่ากัน ?

ลงทุนขายฝาก vs ซื้อไว้ปล่อยเช่า

การลงทุนขายฝาก รับจำนอง และ การซื้อไว้ปล่อยเช่า
ต่างก็เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสดเข้าบัญชีเราทุกเดือนได้เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดอยู่มาก

ผลตอบแทนต่อปี

ซื้อไว้ปล่อยเช่า : มีผลตอบแทนอยู่ที่ 6-8% ต่อปี

ลงทุนขายฝาก – จำนอง : มีผลตอบแทนอยู่ที่ 15% ต่อปี

การลงทุน ซื้อไว้ปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้าน หรือว่าที่ดินนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว จะมีผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 5-8% ต่อปี
กล่าวคือหากเราซื้อคอนโดมาราคา 2,000,000 บาท แล้วปล่อยเช่าได้ในราคาประมาณ 8,000 – 13,000 บาท / เดือน เท่ากับว่าเราจะได้ค่าเช่าปีละประมาณ 100,000 – 160,000 บาท

ส่วนการลงทุน รับจำนอง และขายฝาก กฎหมายกำหนดให้เราสามารถคิดดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 15% ต่อปี เท่ากับว่าหากเราลงทุนรับจำนอง-ขายฝาก
ด้วยวงเงิน 2,000,000 บาท เราจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย 25,000 บาท / เดือน หรือคิดเป็นจำนวนปีละ 300,000 บาทนั่นเอง

แหล่งที่มาของเงินลงทุน 

ซื้อไว้ปล่อยเช่า : เงินสด หรือกู้ธนาคาร

ลงทุนขายฝาก – จำนอง : เงินสด

การลงทุนทั้ง 2 ประเภทนั้น เป็นการลงทุนที่เราจำเป็นจะต้องมี “เงินสด” อยู่ในมืออยู่แล้ว และเงินที่นำมาลงทุนควรเป็นเงินที่เราจัดสรรไว้เพื่อลงทุนโดยเฉพาะ
เป็นเงินที่เราจะไม่ถอนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั่วไป เงินส่วนนี้จะเรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “เงินเย็น”
เพราะการลงทุนอสังหาฯ นั้น ต้องใช้ระยะเวลา กว่าที่เราจะทำผลตอบแทนให้ “คืนทุน” ได้

แต่การลงทุนประเภท ซื้อไว้ปล่อยเช่า นั้น จะได้เปรียบในส่วนนี้อยู่ในจุดนี้คือ เราสามารถขอสินเชื่อหรือกู้ธนาคารเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้
แต่มีความเสี่ยงอยู่ตรงที่เราเองในฐานะผู้ลงทุน ก็ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารตามสัญญาเงินกู้เช่นกัน

 

หากเรามั่นใจว่าเราสามารถบริหารเงินลงทุนของเราให้มีกระแสเงินสดเป็นบวก ให้งอกเงยกว่าดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายให้กับธนาคารได้ หรือพูดง่ายๆ ว่า
“รายได้จากค่าเช่าแต่ละเดือน มากกว่าจำนวนเงินที่เราต้องผ่อนกับธนาคาร”

ถ้าเรามีการบริหารจัดการเงินที่ดี การกู้ธนาคารมาซื้อทรัพย์สินเพื่อปล่อยเช่าก็เป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแค่ต้องระมัดระวัง
และบริหารความเสี่ยงให้ดีๆ ไม่งั้นจะกลายเป็นหนี้หัวโตแทน

ความเสี่ยงที่ต้องพบเจอ
พูดถึงผลตอบแทนกันไปแล้ว จะไม่พูดถึง “ความเสี่ยง” เลยก็คงจะไม่ได้ ไม่งั้นจะกลายเป็นดูขายฝันกันเกินไป
หากเราไม่ประเมินความเสี่ยงกันก่อนลงทุนว่ามีอะไรบ้าง

การลงทุนขายฝาก – จำนอง เป็นการลงทุนที่มักเจอกับปัญหาผู้กู้ไม่ชำระดอกเบี้ย ไม่นำเงินต้นมาไถ่ถอนภายในระยะเวลาสัญญาที่กำหนด
ทำให้ผู้ลงทุนต้องมานั่งปวดหัวกัน แต่ยังนับว่าเป็นการลงทุนที่ “ความเสี่ยงต่ำ” ด้วยความที่เรามีทรัพย์สินของผู้ที่มาจำนอง
หรือขายฝากไว้เป็นประกันอยู่ และวงเงินที่เราอนุมัติให้กับผู้กู้นั้น ก็เป็นราคาที่ “ต่ำกว่า” ราคาซื้อขายกันในตลาดนั่นเอง

ส่วนการ ซื้อไว้ปล่อยเช่า หากเราเลือกซื้อทรัพย์สินที่มีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ดีแล้ว เราก็อาจจะไม่ปวดหัวกับการหาผู้เช่ามากนัก
แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากมาก คือ “ประเภทผู้เช่า” ที่แม้เราจะคัดกรองอย่างไร ก็อาจมีปัญหาที่เราไม่คาดคิดมาก่อนเกิดขึ้นได้
ทั้งการแอบเลี้ยงสัตว์ในขณะที่เราห้ามเลี้ยง การนำทรัพย์สินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือปัญหาคลาสสิคอย่างการเงียบหนีหายไม่จ่ายค่าเช่า เป็นต้น

ทั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนมักมองข้ามไปคือค่าใช้จ่ายในการ “บำรุงรักษา” ซึ่งผู้ลงทุนมือใหม่ส่วนใหญ่
มักลืมคิดค่าใช้จ่ายนี้ในส่วนของต้นทุน ทำให้เป็นปัญหาในการบริหารกระแสเงินสด

นอกจากนี้ค่าบำรุงรักษาในบางจุดนั้น ยังเป็นรายจ่ายฉุกเฉินที่เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อีกด้วย ควรจะเก็บเงินประกันทรัพย์สินไว้เพื่อการนี้ด้วย

ข้อดีของการลงทุนแต่ละประเภท
การลงทุนขายฝาก – จำนอง  จากความเสี่ยงที่แจ้งไปในข้างต้น หากผู้กู้ไม่ชำระดอกเบี้ย หรือนำเงินต้นมาไถ่ถอนตามระยะเวลาสัญญา
ในส่วนของการจำนองนั้น เราสามารถฟ้องบังคับขายทอดตลาดเพื่อชดเชยส่วนของเราได้ หรือหากเป็นการรับขายฝาก
เราก็สามารถนำทรัพย์ไปขายได้เลยทันทีเพราะทางกฎหมายถือว่าทรัพย์สินนั้นตกเป็นของเราแล้ว

ส่วนการ ซื้อไว้ปล่อยเช่า นั้น มีข้อดีคือทรัพย์สินเป็นของเรา และอย่างที่ทราบกันดีว่าราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นสูงขึ้นทุกปี (แต่ไม่ใช่ทุกที่เด้อออ)
ทำให้ตอนที่เราต้องการจะขายเพื่อถอนทุนคืน อาจจะขายในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา ทำให้เราสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้อีกต่างหากด้วย

บทส่งท้าย.. การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงแตกต่างกันไป ก่อนจะลงทุนอะไรควรศึกษาให้ดีๆ และเลือกลงทุนในแบบที่เหมาะกับคุณ
เพราะเป็นวิธีที่จะทำให้ผลลัพธ์ ผลตอบแทนออกมาดีที่สุดนั่นเอง

ลงทุนขายฝาก ดีกว่าซื้อไว้ปล่อยเช่ายังไง

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

รีไฟแนนซ์ Retention ต่างกันอย่างไร?
26
May 23
Retention กับ Refinance ต่างกันอย่างไร?

เมื่อผ่อนบ้านมาได้สักระยะหนึ่งแล้วหลายคนก็เริ่มที่จะหาทางทำให้ดอกเบี้ยนั้นลดลง ซึ่งวิธีการที่เราคุ้นเคยกันนั้นคือการ รีไฟแนนซ์ แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่ามาก คือการ Retention แล้วทั้ง 2 วิธีนี้แตกต่างกันอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ Retention เป็นการติดต่อขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ในขณะที่ รีไฟแนนซ์ เป็นการนำที่อยู่อาศัยที่ผู้กู้ผ่อนชำระอยู่ มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อขอสินเชื่อใหม่มาปิดหนี้ยอดเงินกู้เดิมที่ยังเหลืออยู่ ทำให้หนี้ของเรากับเจ้าหนี้ ซึ่งก็คือ ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมนั้นสิ้นสุดลง พร้อม ๆ กับการเกิดขึ้นของหนี้ใหม่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งข้อแตกต่างสามารถแบ่งได้ตามนี้ #สถาบันการเงิน Retention จะใช้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม ไม่ต้องหาสถาบันการเงินใหม่ Refinance จะต้องหาธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ #การเตรียมเอกสาร Retention ไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร เนื่องจากธนาคารสามารถใช้เอกสารเดิมหลายฉบับที่ผู้กู้ใช้ยื่นขอสินเชื่อ Refinance เนื่องจากเป็นธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ จึงต้องมีการเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมด #ระยะเวลาอนุมัติ Retention เนื่องจากมีข้อ […]

อ่านเพิ่มเติม
มาตรการ LTV
15
May 25
สรุป! มาตราการลดค่าโอน และ มาตราการ LTV

          ในปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และกำลังซื้อที่ลดลง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงมีการปรับมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ มาตรการ LTV  (Loan-to-Value) เพื่อกระตุ้นการซื้อ-ขายในตลาดบ้านและคอนโด             ผู้สนใจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือ 1 หรือบ้านมือ 2 ต้องรู้บ้าง? ว่าในปีนี้มีมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อคุณเยอะมาก เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในการซื้อขายที่อยู่อาศัย โดยจะมี 2 มาตรการที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ได้แก่ “การผ่อนปรนมาตรการ LTV” และ “มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนบ้านและจดจำนองที่ดิน” ที่คุณมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น   ทำความรู้จักกับ LTV           LTV (Loan-to-Value Ratio) คือ อัตราส่วนระหว่างวงเงินที่ธนาคารอนุมัติให้กู้ กับมูลค่าหลักทรัพย์ที่นำมาจำนอง (เช่น บ้านหรือคอนโด) โดยทั่วไป LTV ใช้ในการควบคุมความเสี่ยงของสถาบันการเงิน และเป็นเครื่องมือหนึ่งในการควบคุมความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ 🔍 ตัวอย่าง: ถ้าคุณต้องการซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท แล้วธนาคารให้กู้ 2.7 […]

อ่านเพิ่มเติม
9
Apr 24
ชาวต่างชาติสามารถรับจำนองได้ไหม?

หลายคนอาจจะสงสัยว่าการรับจำนองเนี่ย สามารถทำได้เฉพาะคนไทยใช่หรือไม่? และถ้ามี ชาวต่างชาติรับจำนอง ในไทยสามารถทำได้ไหมนะ? ค้นหาตามสื่อต่างๆ ก็อาจจะยังไม่ได้รับคำตอบที่คลายข้อสงสัยได้เลย วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนได้คลายปมความสงสัยกันแล้วค่ะ ก่อนอื่นเรามาดูความหมายสั้นๆ ของ การจำนองกันก่อนดีกว่าค่ะ การจำนอง คือการที่ผู้จำนองนำทรัพย์สินที่มีค่านำมาประกันเพื่อกู้เงินมาใช้  โดยใช้เป็นหลักประกันคือ อสังหาริมทรัพย์  คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ เช่น คอนโด โฉนดที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ โดยการจำนอง ผู้จำนองต้องนำสินทรัพย์ไปจดทะเบียนไว้กับผู้รับจำนองซึ่งต้องกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเท่านั้น ทั้งนี้ไม่ต้องโอนที่ดินหรือทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้รับจำนอง สำหรับคำถามที่ว่า ชาวต่างชาติสามารถรับจำนองได้ไหม? การรับจำนองสำหรับกรณีที่ ฝั่งผู้รับจำนองเป้นชาวต่างชาตินั้น ยังไม่มีกฎหมายกำหนดห้าม นั่นหมายความว่า ชาวต่างชาติรับจำนอง ที่ดินได้ เนื่องจากการจำนองไม่ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของ เจ้าของในโฉนดที่ดินยังคงเป็นบุคคลเดิมอยู่ สัญญาการจำนองจะแตกต่างจากสัญญากู้เงิน คือเมื่อคุณทำการจดจำนองที่ดินแ […]

อ่านเพิ่มเติม