รีไฟแนนซ์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
7
Apr 23

มนุษย์เงินเดือนแบบเรามักได้ยินคำว่า “รีไฟแนนซ์” อยู่บ่อยๆ แต่เชื่อว่ามีเพื่อนๆ จำนวนไม่น้อยไม่เข้าใจว่าคืออะไร
หากเพื่อนๆยังสงสัย ไม่เข้าใจว่าการรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? มีขั้นตอน ข้อดีและประโยชน์อย่างไรบ้าง
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านให้มากขึ้น

รีไฟแนนซ์ คือ

การเปลี่ยนเจ้าหนี้ เป็นการที่เราไปขอกู้เงินใหม่อีกก้อนหนึ่งเพื่อนำมาชำระหนี้ก้อนเดิม
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะทำกับการกู้ซื้อบ้าน คอนโดและรถยนต์เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย
ในการผ่อนชำระหนี้สินเชื่อก้อนเดิม และจ่ายส่วนของดอกเบี้ยลดลงเพราะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ย

ที่สำคัญคือในการทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์ครั้งใหม่นี้ จะได้รับข้อเสนอในการผ่อนชำระที่ดีกว่าสินเชื่อเดิม
และอาจจะได้ระยะเวลาในการผ่อนที่ยาวขึ้นโดยคนส่วนใหญ่มักจะไปขอรีไฟแนนซ์หลังจากได้ผ่อนชำระครบ 3 ปี

วิธีขอรีไฟแนนซ์บ้าน

  1. ตรวจสอบสัญญากู้เดิม
    ก่อนการยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน ต้องทำการติดต่อขอเอกสารสรุปยอดหนี้ทั้งหมดจากธนาคารเก่า
    เพื่อเป็นการสรุปรายละเอียด เช่น จำนวนเงินที่กู้ ระยะเวลาที่ชำระไปแล้ว เหลือเวลาที่ต้องผ่อนชำระอีกกี่ปี
    หลังจากนั้นให้นำเอกสารนี้ไปยื่นที่ธนาคารใหม่ที่เลือกไว้
  2. เลือกธนาคารใหม่ที่ตอบโจทย์
    การเลือกกู้สินเชื่อกับธนาคารใหม่จะทำให้ได้ดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง โดยสามารถทำการหาข้อมูล
    และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยได้จากหลายๆ ธนาคาร เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ
    ซึ่งธนาคารหลายๆ แห่งก็จะมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยให้ได้เลือกแบบจุใจ โดยอัตราต่ำสุดจะอยู่ที่ 2.39%-2.89%
    แต่ทั้งนี้ ในการเลือกกู้สินเชื่อกับธนาคารใหม่ ก็ต้องนำรายละเอียดอื่นๆ ในข้อกำหนดและเงื่อนไขมาพิจารณาด้วยก่อนการตัดสินใจ
  1. เตรียมเอกสาร
  • สำเนาทะเบียนบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
  • ทะเบียนสมรส (กรณีกู้ร่วม)
  • สลิปเงินเดือนล่าสุด
  • หนังสือรับรองเงินเดือนไม่เกิน 3 เดือน
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน หรือ หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2)
  • สำเนาหนังสือสัญญาการซื้อขายหรือให้ที่ดิน ทด.13 หรือ 14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
  • สำเนาสัญญากู้จากธนาคารเก่า
  • สำเนาสัญญาจำนองที่ดิน หรือ สำเนาสัญญาจำนองห้องชุด
  • สำเนาใบเสร็จแสดงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบ้านหรือสำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน
  • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป
  1. ยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์กับธนาคาร

ถึงขั้นตอนที่จะนำเอกสารไปยื่นที่ธนาคารใหม่ การพิจารณาของทางธนาคารอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
และเมื่อเอกสารของคุณผ่านการรีไฟแนนซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารจะทำการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประเมินทรัพย์สิน
ซึ่งจะเป็นการประเมินว่ายอดเงินสินเชื่อที่กู้ได้จะเป็นวงเงินจำนวนเท่าไหร่ ทั้งนี้ ขั้นตอนในการยื่นเอกสารอาจจะแตกต่างกันไป
ตามนโยบายของแต่ละธนาคาร ถ้ายื่นผ่านได้รับการอนุมัติ ก็เริ่มทำสัญญากันใหม่ได้เลย

 ค่าใช้จ่ายสำหรับการรีไฟแนนซ์
  ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้ทางธนาคาร

  • ค่าประเมินราคาบ้าน ประมาณ 2,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับธนาคาร พื้นที่ให้บริการ
  • ค่าประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ MRTA เป็นประกันชีวิตที่สามารถช่วยคุ้มครองความเสี่ยง
    ให้กับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ

ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระตามกฎหมาย
ค่าจดจำนอง คิดจาก 1% ของวงเงินกู้ เป็นการชำระให้กับทางกรมที่ดิน

– ค่าอากรแสตมป์ คิดจาก 0.05% ของวงเงินกู้ เป็นการชำระให้กับทางกรมสรรมพากร

– ค่าประกันภัยอัคคีภัย ราคาประมาณหลักพันบาทต่อปี

 

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ถูกกว่า ทำให้เราผ่อนชำระได้ดอกเบี้ยถูกลงกว่าเดิม ปิดยอดได้ไวขึ้น
  • บางกรณีอาจได้วงเงินกู้มากขึ้นกว่ายอดคงค้างเดิม
  • ลดภาระหนี้ ทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลดลง
  • ได้เงินส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้มีเงินเหลือใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นได้มากขึ้น
  • สามารถนำไปหมุนเวียนใช้จ่ายหรือหมุนเวียนในธุรกิจได้

ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์

  • ทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น (หากเราเลือกที่จะเพิ่มระยะเวลา)
  • เสียค่าจัดรีไฟแนนซ์ใหม่ เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะในการดำเนินการ เสียเวลา

และอาจต้องเสียค่าปรับหากมีการไถ่ถอนก่อนกำหนด

  • มีความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร เช่น เอกสารเกี่ยวกับรายได้ของผู้กู้

 

เป็นยังไงกันบ้างหวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจเรื่องการรีไฟแนนซ์กันมากขึ้น สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับการวางแผนการใช้เงินของแต่ละคน
และที่สำคัญการผ่อนชำระหนี้ที่ดีนั้นไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน เพื่อให้กระแสเงินสดในแต่ละเดือนของเราไม่ลำบาก
แถมยังสามารถมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามที่เราจำเป็นได้อีกด้วย

แต่หากใครกำลังต้องใช้เงินด่ว แต่ติดปัญหาเรื่องยื่นเอกสาร แหล่งที่มารายได้ไม่เพียงพอ ทำให้ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารไม่ได้
เราข้อแนะนำอีกวิธีที่สามารถให้คุณสามารถมีเงินด่วนใช้ นั้นคือการจำนองและขายฝาก อสังหาริมทรัพย์ สามารถจำนองกับเราได้ มีทีมงานให้ปรึกษาฟรี

รีไฟแนนซ์ คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? แล้วธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสีย?
20
May 25
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? แล้วธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสียภาษี!!!

         ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นหนึ่งในภาษีที่ผู้ประกอบการหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าตนเองต้องเสียหรือไม่ หรือบางครั้งเข้าใจว่าเป็นภาษีสำหรับธุรกิจเฉพาะทางเท่านั้น! ตามชื่อเฉพาะเลย… แต่ในความจริงแล้ว ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีที่จัดเก็บจากกิจการบางประเภทโดยเฉพาะ ไม่ได้เกี่ยวกับความ “พิเศษ” แต่เกี่ยวกับ รูปแบบของธุรกิจ อย่างชัดเจน   ทำความรู้จักภาษีเฉพาะ           “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” หมายถึง ภาษีที่เก็บจากกิจการบางประเภท ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นพิเศษ โดยเป็นภาษีที่ถูกแยกออกมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทางกรมสรรพากรจะเป็นผู้จัดเก็บภาษีดังกล่าวนี้ ทั้งในรูปแบบของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยผู้ที่มีหน้าที่จ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ จะต้องทำการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ ภายในวันที่ 30 นับตั้งแต่วันที่เริ่มกิจการ ด้วยการยื่นแบบคำขอ ภ.ธ.01 กิจการหรือธุรกิจต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีอะไรบ้าง? กิจการธนาคาร ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ธุรกิจประกันชีวิต กิจการโรงรับจำนำ การประกอบการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ อาทิ การให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน การแลกเปลี่ยนเงินตรา ฯลฯ การขายอสังหาริมทรัพย์ ที่นับเป็นก […]

อ่านเพิ่มเติม
ถมดิน เพิ่มราคาซื้อขายให้แพงขึ้นได้จริงหรือ?
4
Jan 24
การ “ถมดิน” เพิ่มราคาซื้อขายให้แพงขึ้นได้จริงหรือ?

หลายคนที่เป็นเจ้าของที่ดิน หรือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มักจะประสบปัญหาที่ดินบางแปลงอยู่ต่ำกว่าระดับถนนมาก บางพื้นที่อาจจะเป็นป่ารกทึบ บางพื้นที่อาจจะเคยเป็นพื้นที่รองรับน้ำมาก่อน จึงมักเกิดน้ำท่วมขังทุกครั้งเมื่อฝนตก ทำให้ที่ดินแปลงนั้นไม่ค่อยมีคนสนใจอยากจะซื้อเท่าไหร่นัก ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะแก้ได้ด้วยการ ถมดิน ถือว่าเป็นวิธีการง่ายที่สุดในการเพิ่มมูลค่าที่ดินของเราได้ การ ถมดิน ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินได้อย่างไร? การถมดิน เป็นการปรับพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการพัฒนาให้ดีขึ้น ตรงไหนต่ำไปหรือสูงไปก็ต้องปรับให้เหมาะสมพร้อมที่จะพัฒนาในลำดับต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยให้ที่ดินแปลงนั้น สามารถ ซื้อขาย ได้ง่ายมากกว่าที่ดินที่ยังไม่ได้ถมอีก เมื่อมีการถมดิน แล้ว จะยังไม่สามารถเริ่มก่อสร้างได้ทันที ต้องรอดินเซตตัวก่อนเป็นเวลาประมาณ 1 ปี หากเราก่อสร้างโดยไม่รอให้ดินเข้าที่อาจจะเกิดปัญหาบ้านทรุดลงได้ ดังนั้น การถมดิน จึงมีไว้สำหรับพร้อม ซื้อขาย เท่านั้น ซึ่งการถมดิน จะทำให้เรารู้ทันทีเลยว่าที่ดินแปลงนี้สวยหรือไม่ รกไปไหม เพราะในเรื่องความสวยงามของที่ดินนั้นก็เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของผู้ซื้อขายด้วย ก่อนถมดิน […]

อ่านเพิ่มเติม
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ อัตราการดูดซับ
19
Dec 22
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ ‘อัตราการดูดซับ’

หลายต่อหลายครั้งเราเห็นคำว่า อัตราการดูดซับ ปรากฏบนข่าว ซึ่งบางทีก็อาจสร้างความสงสัยให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้องสงสัยกันค่ะ อัตราการดูดซับ หรือ Absorption Rate คือ ดัชนีชี้วัด ‘ความต้องการ’ หรือ ‘อุปสงค์’ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่าในทำเลนั้นๆ หรือ ตลาดของอสังหาฯ แต่ละประเภท เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยการนำหน่วยที่ขายได้ หารด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดที่โครงการมี ยิ่งค่าสูง แสดงว่ายังเป็นที่ต้องการมาก อัตราการดูดซับนี้ เป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะธุรกิจ (Business Expectation Index) ซึ่งโดยส่วนมากทางภาครัฐจะเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลตัวเลขเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูล เพื่อให้เห็นถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของเศรษฐกิจในประเทศ และติดตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ในบางครั้ง ทางผู้พัฒนาอสังริมทรัพย์เองก็มีการเก็บรวมรวบข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการของตน เพื่อคำนวณออกมาเป็นอัตราการดูดซับเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ครึ่งแรกของปี 2565 อัตราการดูดซับของที่อยู่อาศัยทุกประเภท ต่ำสุดในรอบ 5 ปี สำหรับบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด อัตราการดูดซับอยู่ท […]

อ่านเพิ่มเติม