3 กลโกงขายฝาก ที่ควรระวัง (พร้อมวิธีป้องกัน)
5
Apr 23

กลโกงขายฝาก ที่ควรระวัง ขึ้นชื่อว่า “การโกง” นั้น นับว่าเป็นอะไรที่อยู่คู่สังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน
เป็นปัญหาที่ลุกลามไปทั่วทุกวงการ รวมไปถึงวงการ “ขายฝาก” เองนั้น
ก็เป็นหนึ่งในการทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินที่มักจะมีปัญหาโดนโกงด้วยวิธีต่างๆ มากมาย
จนทำให้เจ้าของบ้านน้ำตาตกในกันมานักต่อนัก พาลทำให้หลายๆ คน ไม่กล้าที่จะทำสัญญาขายฝาก
เพราะกลัวว่าจะต้องเสียทรัพย์ เสียบ้าน เสียที่ดินสุดรักสุดหวงไป

จะดีกว่าหรือไม่..? ถ้ารู้เท่าทัน กลโกงขายฝาก ต่างๆ พร้อมวิธีป้องกัน เพื่อที่เราจะได้ขายฝากอย่างสบายใจ
นำเงินไปใช้ยามฉุกเฉิน ยามจำเป็น โดยไม่ต้องกังวลว่าเวลาผ่านไป จะมีวิกฤตใหม่เข้ามาทำให้ชีวิตต้องทุกข์ทรมาน

นัดไถ่ถอน แต่ติดต่อนายทุนไม่ได้!
สัญญาขายฝากนั้น เป็นสัญญาที่มีการกำหนดไว้ว่า “ผู้ขายฝาก” หรือเจ้าของทรัพย์
สามารถนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาไถ่ถอนตามเวลาที่กำหนดในระยะสัญญาได้
ซึ่งจะทำให้สิทธิในการครอบครองทรัพย์สินนั้นๆ กลับคืนสู่เจ้าของเดิมผู้ขายฝาก
แต่หากไม่มาไถ่ถอนตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วล่ะก็ อสังหาริมทรัพย์ที่เรานำมาขายฝากนั้น
ก็จะตกเป็นของนายทุนทันทีโดยไม่ต้องขึ้นศาลฟ้องร้องกันแต่อย่างใด

 

ตรงจุดนี้เอง เป็นจุดที่นายทุนหรือ “ผู้ซื้อฝาก” หลายๆ คน พยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เจ้าของ
นัดวันไปทำเรื่องไถ่ถอนที่กรมที่ดิน เพราะหวังจะฮุบเอาทรัพย์นั้นๆ เป็นของตนเองไปขายทำกำไรต่อไป
ซึ่งโดยปกติแล้ว หากเป็นทางฝ่าย “ผู้ขายฝาก”  เองที่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมไถ่ถอนด้วยเหตุที่ว่าหาเงินต้นมาคืนไม่ทัน
แต่ก็มีหลายๆ ครั้งที่ผู้ขายฝากมีความพร้อม มีความต้องการที่จะไถ่ถอนทรัพย์คืนไปแล้ว แต่นายทุนพยายามหลบหนี
ตัดช่องทางการติดต่อเพื่อให้ระยะเวลาขายฝากครบกำหนดจนสิทธิ์การครอบครองทรัพย์นั้นๆ ตกเป็นของนายทุนไป

 

มาถึงตรงนี้แล้วคุณผู้อ่านอย่าเพิ่งกังวลไป ว่าหากเราติดต่อนายทุนเพื่อไถ่ถอนไม่ได้แล้วจะโดนยึดทรัพย์แน่นอน
เพราะเราสามารถนำเงินไป สำนักงานวางทรัพย์ กรมบังคับคดี ให้เจ้าหน้าที่พนักงานบังคับคดีออกหนังสือแจ้งแก่ผู้ซื้อฝาก
ให้มารับชำระหนี้ หากไม่มารับชำระหนี้ตามกำหนด ผู้ขายฝากสามารถคัดเอกสารจากกรมบังคดี
เพื่อนำไปอายัดไม่ให้มีการจำหน่ายหรือทำการใดๆ กับอสังหาริมทรัพย์ของเราได้

 

สำคัญคือ เราจำเป็นต้องจำวันครบกำหนดขายฝากไว้ให้ขึ้นใจ หากจำเป็นต้องกระทำการใดๆ ที่ต้องใช้เวลา
จะได้รีบทำให้ทันท่วงที ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินไป

 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม 02-881-4999

 

กฎสำคัญในการทำสัญญาใดๆ ก็ตาม คือจำเป็นต้องอ่านสัญญาให้ดี มีอะไรสงสัยตรงไหนให้ถามเจ้าหน้าที่
ที่สำนักงานที่ดิน เพราะหลายๆ ครั้ง มักจะมีเจ้าของทรัพย์ที่ไม่ค่อยใส่ใจในการอ่านรายละเอียดสัญญา
จนทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ เพราะเป็นเราเองที่เป็นฝ่ายเซ็นยินยอมด้วยตนเองไปแล้วตั้งแต่ต้น

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอ้างอิงมาจากสถานการณ์จริง เจ้าของบ้านต้องการทำสัญญาขายฝากเพื่อนำเงินไปใช้ด้วยความจำเป็น
ฝั่งนายทุนเองก็ร่างสัญญาที่เป็นสัญญาขายฝากจริงๆ ขึ้นมาเอง 1 ฉบับ มีถ้อยคำถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อย
แต่พอถึงวันที่ทำสัญญาที่สำนักงานที่ดินแล้วกลับไม่ใช่สัญญาขายฝาก แต่เป็น “สัญญาซื้อขาย”
และฝั่งเจ้าของทรัพย์เองก็ไม่ได้เอะใจ ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย ได้ยินคำว่า ขายๆ หรือ ขายฝาก
ก็ยังแยกไม่ค่อยออก ด้วยความเชื่อใจนายทุนที่ภาพลักษณ์ภายนอกดูเป็นคนดี ดูเป็นมืออาชีพ
เลยเซ็นเอกสารตามที่เขาให้เซ็นโดยที่ไม่ระมัดระวังอะไรเลย เท่ากับว่าทางกฎหมายแล้วอสังหาริมทรัพย์
ของเราถือว่าถูกขายให้กับนายทุนเป็นที่เรียบร้อย ในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเราคิดว่าเป็นการขายฝาก
ที่มักจะให้วงเงินกันที่ 50% ของราคาซื้อขายนั่นเอง

 

วิธีป้องกันง่ายๆ สำหรับเหตุการณ์นี้ – คืออย่างไว้ใจใครง่ายๆ หากเราไม่มั่นใจเรื่องสัญญา
เรื่องการใช้ภาษาก็อยากให้ปรึกษาพาคนใกล้ตัวที่พอจะมีความรู้ไปเป็นเพื่อนบ้าง
หรือเอาให้ชัวร์ที่สุดก็ถามเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินนั่นแหละ

 

ซื้อไปขายกลับ (ไม่โกงก็มี แต่ไม่แนะนำ)

เป็นการทำธุรกรรมอย่างหนึ่งที่นิยมทำกันมาก กับการทำสัญญาซื้อขายไปก่อนแล้วค่อยมาซื้อคืนได้ในราคาเดิม
เป็นการทำสัญญาที่สำนักงานที่ดินในรูปแบบซื้อขายกันปกติ แต่มีการทำสัญญาแยกเอาไว้ต่างหากกันเองว่า
เวลาผ่านไป 1 ปีหรือ 2 ปี เราสามารถมาซื้อคืนได้ในราคาที่ระบุไว้ โดยผู้ที่รับซื้อไปห้ามนำอสังหาริมทรัพย์นั้น
ไปทำนิติกรรมใดๆ

 

แล้ว ซื้อไปขายกลับ มันเป็นกลโกงยังไง ? การทำซื้อไปขายกลับนี้ ใช่ว่าจะเป็นการโกงกันซะทีเดียว
เพราะหลายๆ คนก็ได้ทำตามสัญญากันจริง ขายคืนให้กับเจ้าของจริงๆ เพียงแต่สาเหตุที่เราไม่แนะนำก็เพราะว่า
การทำสัญญาแยกนั้นมันไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด!! ให้ยึดถือสัญญาที่ทำกันที่สำนักงานที่ดินเท่านั้น
ทำให้ในทางกฎหมายแล้ว อสังหาริมทรัพย์ของคุณได้ตกเป็นของนายทุนเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันแรกที่ทำสัญญากัน
โดยที่คุณไม่สามารถใช้ข้อกฎหมายใดๆ เอาผิดหรือบังคับไถ่ถอนกลับคืนมาได้เลย
ยกเว้นแต่ว่านายทุนเท่านั้นตกลงยินยอมทำตามข้อตกลงเดิมเท่านั้น

 

วิธีป้องกันง่ายๆ สำหรับเหตุการณ์นี้ – คือหลีกเลี่ยงการทำสัญญาใดๆ ที่ไม่ใช่การทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน
และให้ยึดถือสัญญาที่ทำที่สำนักงานที่ดิน “เป็นหลัก”

 

ไม่ใช่เพียงแต่การซื้อไปขายกลับเท่านั้น แต่การแปะโฉนดเอง ที่เป็นการนำโฉนดมาค้ำประกันเงินกู้นอกระบบ
หรือพวกสัญญาใจ สัญญาปากเปล่า ก็ไม่ควรไว้วางใจเช่นกัน เพราะเรื่องเงินทองมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ

3 กลโกงขายฝาก ที่ควรระวัง (พร้อมวิธีป้องกัน)

——————————————————-

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

วิธีคำนวนค่าโอน ค่าธรรมเนียม ณ กรมที่ดิน ด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ
25
Jan 23
วิธีคำนวณค่าโอน ค่าธรรมเนียม ณ กรมที่ดิน ด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ

วิธีคำนวณค่าโอน ค่าธรรมเนียม ณ กรมที่ดิน ด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ ได้รู้จักกันไปแล้วว่าการจำนอง-ขายฝาก คือการทำนิติกรรมอะไร มีเงื่อนไข มีขั้นตอน มีผลตอบแทนที่จะได้รับเท่าไหร่บ้าง แต่นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวไปในข้างต้นนั้น ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราควรรู้นั่นก็คือ “ค่าใช้จ่าย” ทั้งหลาย โดยเฉพาะในส่วนของ ค่าธรรมเนียมในการทำจำนอง และ ค่าธรรมเนียม ขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน วิธีคำนวณค่าโอน ค่าธรรมเนียมสำหรับการจำนอง ค่าธรรมเนียมคำขอจดจำนอง แปลงละ 5 บาท ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง (แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท) ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินจำนอง (แต่ต้องไม่เกิน 10,000 บาท) ตัวอย่าง : วิธีการคำนวณค่าธรรมเนียม จำนองที่ดิน ยอดจำนอง 3,000,000 บาท ประเภทค่าธรรมเนียม วิธีคำนวณ มูลค่า ค่าคำขอ แปลงละ 5 บาท 5 บาท ค่าจดจำนอง 3,000,000 x 1% 30,000 บาท ค่าอากรแสตมป์ 3,000,000 x 0.05% 1,500 บาท รวม 31,500 บาท หมายเหตุ: ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าพยาน, ค่ามอบอำนาจ(กรณีมอบอำนาจ) ฯลฯ ค่าธรรมเนียมสำหรับการขายฝาก 1. ค่าธรรมเนียม 2% จากราคาประเมินกรมที่ดิน 2. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย คำนวณจากราคาประเมินกรมที่ดิน ต้อ […]

อ่านเพิ่มเติม
โฉนดที่ดิน ห้ามเคลือบพลาสติก
26
Apr 23
รู้หรือไม่ โฉนดที่ดินเคลือบพลาสติกแข็ง เท่ากับชำรุด

โฉนดที่ดิน ถือเป็นเอกสารสิทธิที่มีคุณค่า และมีความสำคัญ จึงทำให้เพื่อนหลาย ๆ คน คิดที่จะนำไปเคลือบพลาสติก ถนอมและเก็บรักษาไว้เพื่อป้องกันการชำรุดหรือซีดจาง  แต่จริง ๆ การทำแบบนี้จะส่งผลให้โฉนดที่ดินนั้น จะชำรุดทันที จะไม่สามารถทำธุรกรรมทางที่ดินได้ เพราะอะไร? และถ้าเคลือบพลาสติกแข็งไปแล้วต้องแก้อย่างไร? ลองไปดูกันเลยค่ะ โฉนดที่ดิน ห้ามเคลือบพลาสติก เพราะ ? การเคลือบจะทำให้ไม่สามารถพิมพ์รายการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน เช่น การโอน การจำนอง การขายฝาก ในสารบัญจดทะเบียนด้านหลังโฉนดที่ดินได้ ถือเป็นกรณีชำรุดไม่สามารถใช้ทำธุรกรรมได้ จะต้องมีการสร้างใบแทนโฉนดที่ดิน หากโฉนดเคลือบไปแล้วต้องแก้อย่างไร ?  เพื่อนคนไหนที่ได้นำโฉนดที่ดินไปเคลือบพลาสติกแข็งมาแล้ว ไม่ต้องกังวลใจ สามารถแก้ไขได้โดย เพื่อนๆ นำโฉนดที่ดินไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน เพื่อออกใบแทนใหม่ให้ โดยไม่ต้องมีการประกาศ 30 วัน ซึ่งด้านหน้าโฉนดที่ดินเหนือครุฑจะมีคำว่า “ใบแทน” กำกับไว้ ใบแทนดังกล่าวมีเพียงสถานะเทียบเท่าโฉนดที่ดินเดิมทุกประการ ขั้นตอนขอโฉนดที่ดิน “ ใบแทน ” 1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์ 2. เจ้าหน้าที่รับคำขอและสอบสวน 3 […]

อ่านเพิ่มเติม
ขายฝากกับกู้ธนาคาร เลือกทางไหนดี?
11
Sep 24
ขายฝากกับกู้ธนาคาร เลือกทางไหนดี?

การตัดสินใจเลือก ขายฝากกับกู้ธนาคาร เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะทั้งสองทางเลือกมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ลองมาเปรียบเทียบรายละเอียดกัน ขายฝาก  ขายฝาก คือ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งผู้ขายฝากสามารถซื้อทรัพย์สินนั้นกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามกฎหมาย โดยทั่วไปขายฝากจะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้ขายต้องการเงินด่วน แต่ยังต้องการรักษาสิทธิในการซื้อทรัพย์สินนั้นคืน ข้อดี: ได้เงินเร็ว: กระบวนการอนุมัติและรับเงินรวดเร็วกว่าการกู้ธนาคาร วงเงินสูง: มักจะได้วงเงินสูงกว่าการกู้ธนาคาร ไม่ต้องมีเครดิตบูโรที่ดี: เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีประวัติเครดิตที่ดี ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเติม: ใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นหลักประกัน ข้อเสีย: เสียกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินชั่วคราว: กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะโอนไปให้อีกฝ่ายหนึ่ง จนกว่าจะไถ่ถอนคืน ดอกเบี้ยอาจสูงกว่า: อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าการกู้ธนาคาร มีความเสี่ยงสูง: หากไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ตามกำหนด อาจสูญเสียทรัพย์สินไป ขั้นตอนยุ่งยาก: การทำสัญญาและไถ่ถอนทรัพย์สินมีขั้นตอนที่ซับซ้อนก […]

อ่านเพิ่มเติม