กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน มีแบบไหนบ้างนะ?
21
Nov 23

เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย
ของ กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน กันว่าคืออะไร?
เพื่อที่ว่าเราจะเข้าใจบทบาทรวมถึงบริบทกันได้มากขึ้น
สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาว่าจะแบ่งสิทธิ์การถือครองร่วมในที่ดินอย่างไร?
ซึ่งก็จะมีหลายรูปแบบด้วยกันค่ะ

กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน

หมายถีง นิติกรรมการซื้อการขายหรือเป็นการให้ในที่ดินซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
นั่นก็คือ เป็นการขายหรือให้ในบางส่วนโดยให้สังเกตดูตรงรายชื่อในหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดิน
ว่าจะมีชื่อเจ้าของที่ดินร่วมมากกว่า 1 คนขึ้นไป เช่น ที่ดิน 100 ไร่ มีผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันหลายคน

.

การถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน แบบต่างๆ มีแบบไหนบ้าง ?

  1. การแบ่งที่ดินในแบบรวมๆ
    ผู้ร่วมจะไม่สามารถนำที่ดินผืนดังกล่าวไปขายได้จนกว่าได้รับอนุญาติจากผู้ร่วมคนอื่นๆ
    ลักษณะการแบ่ง โดยการแบ่งชัดเจนด้วยสัดส่วนคิดเป็น %
    เช่น มีบุตร 3 คน นั่นก็คือ นางสาวเอ นายบี นายซี
    แต่ในขณะนั้น บิดายังมีชีวิตอยู่และยังไม่ได้ทำเรื่องโอนที่ดินเป็นเรื่องเป็นราว
    ดังนั้น ความต้องการที่จะให้มีการถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินถึงเกิดขึ้น
    โดยมีรูปแบบง่ายๆ นั่นก็คือ
    สมาชิกที่ต้องการจะมีกรรมสิทธิ์มาตกลงและ
    คุยกันก่อนว่ารู้สึกพอใจกับการแบ่งรูปแบบนี้หรือไม่?
    ยกตัวอย่าง ที่ดินมีพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่
    เราจะแบ่งกันถือครองที่ดินร่วมในแต่ละคนๆ ละกี่เปอร์เซ็นต์กันดี?
    เช่น แบ่งกันคนละ 25% เป็นต้น
  2. แบ่งด้วยการบอกขนาดการถือครอง เช่น คนละกี่ตารางวา / คนละกี่ไร่
    การให้เป็นเปอร์เซ็น บางครั้งอาจดูไม่ชัดเจนและคลุมเครือ
    หลายคนถึงเลือกที่จะแบ่งเป็นขนาดการถือครองแทน เช่น ในที่ดิน 100 ไร่ มีบุตร 4 คน
    อาจจะให้ถือครองกันคนละ 25 ไร่ เป็นต้น ซึ่งการบอกเป็นขนาดที่ดินจะค่อนข้างมีความชัดเจน
    ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการนำที่ดินไปขาย ผู้ครอบครองสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ตัวเองถือครองได้
    เช่น การเกษตร ปล่อยเช่าที่ดิน ทำสิ่งปลูกสร้างหรืออื่นๆ
    โดยไม่ส่งผลกระทบต่อที่ดินด้านข้างๆ ที่มีกรรมสิทธิ์ร่วม
    ซึ่งโดยปกติจะมีการคุยกันอยู่ก่อนแล้วว่าสมควรนำที่ดินร่วมแปลงนั้นไปทำอะไรบ้าง
  3. แบ่งชัดเจนด้วยขอบเขต ไม่ระบุหารตามจำนวนผู้ถือร่วม การแบ่ง คือหารเท่า ๆ กัน
    ก็นับว่าเป็นการแบ่งชัดเจนด้วยขอบเขตก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบในการบริหารที่ดิน
    ที่น่าสนใจพอๆ กับการแบ่งที่ดินเป็นเปอร์เซ็นหรือแบ่งตามสัดส่วน
    ซึ่งความแตกต่างในกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน มีเพียงแค่จะไม่มีการกำหนดว่า
    ใครได้พื้นที่การถือครองไปเท่าไหร่? หากเป็นการใช้ขอบเขตที่ดินทั้งหมดใน 1 แปลง
    ให้มาถือครองร่วมๆ กัน
    เช่น ที่ดิน 1 แปลงมาพร้อมสวนยางพารา ถ้าต้องการจะใช้กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน
    ก็สามารถไปดำเนินเรื่อง ณ กรมที่ดินได้โดยต้องมีโฉนดที่ดินตัวจริง
    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารจำเป็นอื่น ๆ ไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ได้

กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน มีแบบไหนบ้างนะ?

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 0968135989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

ถึงเวลาไถ่ถอนแต่ยังไม่พร้อม ขยายสัญญาขายฝาก ได้ไหม ?
9
Aug 23
ถึงเวลาไถ่ถอนแต่ยังไม่พร้อม จะขยายสัญญาขายฝากได้ไหม ?

อย่างที่เพื่อนๆ รู้กันว่าการ ขายฝาก คือ การนำทรัพย์หรืออสังหาไปขายให้กับผู้รับซื้อทรัพย์ โดยกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์นั้นจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันที แต่ผู้ขายฝากยังสามารถซื้อทรัพย์สินของตนเองคืนได้ตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญา แต่สิ่งที่พบเจอได้บ่อยครั้ง คือเมื่อพอถึงเวลาไถ่ถอนแล้วแต่ผู้ขายฝากยังไม่พร้อมที่จะนำเงินมาไถ่ถอน แล้วทีนี้เราควรจะทำอย่างไรต่อดี จะ ขยายสัญญาขายฝาก ได้ไหม ? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน เงื่อนไข เกี่ยวกับการขายฝาก กำหนดเวลาไถ่ ห้ามต่ำกว่า 1 ปี หรือ เกิน 10 ปี ขายฝากจะกำหนดเวลาไถ่ถอนห้ามต่ำกว่า 1 ปีหรือไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันผู้ซื้อฝากกำหนดเวลาไถ่คืนทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นระยะเวลาสั้น จนทำให้ผู้ขายฝากไม่สามารถไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากได้ทันกำหนดเวลาไถ่ และเพื่อป้องกันผู้ซื้อฝากกำหนดเวลาไถ่คืนทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกิน 10 ปี เมื่อรวมดอกเบี้ย ต้องไม่เกิน 15% ต่อปี ยอดเงินที่ต้องมาชำระคืนแก่ทุนเพื่อไถ่ทรัพย์สิน โดยจำนวนสินไถ่จะกำหนดไว้สูงกว่าราคาขายฝากก็ได้ แต่เมื่อคำนวณเป็นดอกเบี้ยแล้ว ต้องไม่เกิน 15% ต่อปี 3.ทรัพย์สินที่ขายฝากเจ้าของยังใช้งานได้ […]

อ่านเพิ่มเติม
28
Mar 23
5 ข้อต้องรู้ก่อนนำที่ดินไปขายฝาก

หากเอ่ยถึงการนำทรัพย์สิน ประเภทอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด  ที่ดิน หรือ รถ ไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อแลกกับเงินก้อน การขายฝากก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วน แต่ก่อนจะนำที่ดินหรือทรัพย์สินไปทำการขายฝาก เราจะพาทุกท่านไปดูส่วนสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการขายฝากกันค่ะ ในการขายฝากต้องส่งมอบทรัพย์สินและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ผู้รับซื้อฝาก ผู้ขายฝากจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินต่อไป ไม่ว่าบ้าน คอนโด ที่ดิน จนกว่าจะมีการไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากคืน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้รับซื้อฝาก มักจะยินยอมให้ผู้ขายฝากใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ตามแต่ตกลงกัน ผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ทรัพย์สินคืนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาขายฝาก โดยกรณีอสังหาริมทรัพย์ กำหนดเวลาไถ่ทรัพย์สินคืนได้ไม่เกิน 10 ปี นับแต่เวลาขายฝาก หากผู้ขายฝากไม่มาไถ่ทรัพย์สินคืนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด ผู้ขายฝากจะหมดสิทธิในการไถ่ทรัพย์สินคืนทันที โดยไม่ต้องชำระเงินเพิ่มเติมให้ผู้รับซื้อฝากอีก การขายฝากส่วนใหญ่ผู้ขายฝากจะได้วงเงินประมาณ 40-70% ของราคาประเมิน ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนขายฝาก ในอัตรา […]

อ่านเพิ่มเติม
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ อัตราการดูดซับ
19
Dec 22
ก่อนลงทุนต้องรู้จักกับ ‘อัตราการดูดซับ’

หลายต่อหลายครั้งเราเห็นคำว่า อัตราการดูดซับ ปรากฏบนข่าว ซึ่งบางทีก็อาจสร้างความสงสัยให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้องสงสัยกันค่ะ อัตราการดูดซับ หรือ Absorption Rate คือ ดัชนีชี้วัด ‘ความต้องการ’ หรือ ‘อุปสงค์’ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่าในทำเลนั้นๆ หรือ ตลาดของอสังหาฯ แต่ละประเภท เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยการนำหน่วยที่ขายได้ หารด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดที่โครงการมี ยิ่งค่าสูง แสดงว่ายังเป็นที่ต้องการมาก อัตราการดูดซับนี้ เป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะธุรกิจ (Business Expectation Index) ซึ่งโดยส่วนมากทางภาครัฐจะเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลตัวเลขเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูล เพื่อให้เห็นถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของเศรษฐกิจในประเทศ และติดตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ในบางครั้ง ทางผู้พัฒนาอสังริมทรัพย์เองก็มีการเก็บรวมรวบข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการของตน เพื่อคำนวณออกมาเป็นอัตราการดูดซับเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ครึ่งแรกของปี 2565 อัตราการดูดซับของที่อยู่อาศัยทุกประเภท ต่ำสุดในรอบ 5 ปี สำหรับบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด อัตราการดูดซับอยู่ท […]

อ่านเพิ่มเติม