Reverse Mortgage สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ
2
Aug 23

ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นทางการแล้ว โดยอายุเฉลี่ยของคนไทยจะอยู่ที่ 75 ปี
เท่ากับว่าในตอนที่เรายังอยู่ในวัยทำงานจะต้องวางแผน หลังเกษียณกันไว้ให้ดี
โดยเฉพาะใครที่คิดจะครองตัวเป็นโสด หรือ ไม่คิดที่จะมีลูกไว้ดูแลยามอายุมากขึ้น
ซึ่งในปัจจุบันคอนโดหลายๆ โครงการเองก็ได้ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
หากอยากทราบข้อมูลสามารถติดต่อนายหน้าคอนโด เพื่อขอคำปรึกษาได้เลยนะคะ
แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่กลุ่มวัยเกษียณอาจพบเจอได้ นั่นคือ “มีที่พักอาศัย แต่ไม่มีเงินสด”
และเป็นที่มาของ Reverse mortgage หรือสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน

Reverse mortgage คืออะไร?

Reverse Mortgageหรือ #สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ คือ รูปแบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบย้อนกลับ
หรือธนาคารทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อบ้าน พร้อมกับนำเงินเข้าบัญชีให้ผู้กู้ทุกเดือน และเมื่อครบกำหนดงวดสุดท้าย
บ้านที่ใช้ค้ำประกันจะตกเป็นของธนาคาร ต่างจากสินเชื่อปกติที่ผู้กู้ทั่วไปต้องการซื้อบ้าน
และมักจะใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับธนาคาร เมื่อชำระครบกำหนดบ้านหรือคอนโดก็จะตกเป็นของผู้กู้
ดังนั้นรูปแบบสินเชื่อ Reverse Mortgageจึงตอบโจทย์กับผู้สูงอายุที่ต้องการนำเงินมาใช้จ่ายชีวิตประจำวัน
หรือแบ่งเบาชำระหนี้สิน เป็นต้น

แล้วธนาคารใช้เกณฑ์อะไรในการอนุมัตให้สินเชื่อผู้สูงอายุ?
เนื่องจากสินเชื่อนี้ทำออกมาให้ตอบโจทย์ให้ผู้สูงอายุมีเงินใช้ พร้อมมีบ้านอยู่
ผู้ที่ธนาคารจะปล่อยกู้จึงเป็นผู้สูงอายุที่ถึง 60 ปีบริบูรณ์แล้วเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขดังนี้
– บ้านหรือคอนโดเป็นของผู้กู้โดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ได้ถูกจำนองไว้กับที่อื่น หรือนำไปค้ำประกันหนี้อื่นไว้
– ผู้กู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
– หากโฉนดบ้านหรือคอนโดที่นำมาจำนองมีชื่อร่วม ต้องนำเจ้าของโฉนดอีกคนมายื่นกู้ด้วยกัน

โดยปัจจุบันธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อผู้สูงอายุ มีอยู่ 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ซึ่งสินเชื่อบ้านผู้สูงอายุจะมีขอบเขตของสัญญาอยู่ที่ 85 ปี เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วผู้กู้ยังมีชีวิต
ก็มีทางเลือกได้ 2 ทาง ดังนี้
1. ผู้กู้สามารถชำระหนี้เพื่อปิดบัญชีได้ ซึ่งต้องนำเงินมาไถ่บ้านเป็นยอดกู้+ดอกเบี้ยทั้งหมด
2. กู้เงินเพิ่มเติมได้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันต่อไป แต่จะได้วงเงินเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับธนาคารพิจารณานะคะ

เล่ามาจนถึงตรงนี้คงเข้าใจคอนเซ็ปต์ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุกันแล้วใช่ไหมคะ
โดยสรุปแล้วสินเชื่อนี้อาจจะเหมาะกับ “ผู้สูงอายุที่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง” และ
ไม่จำเป็นต้องเก็บที่อยู่อาศัยนี้ให้กับทายาทคนไหน แต่ต้องการเงินมา
เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทุกๆ เดือนเสียมากกว่า

แต่ที่สำคัญคือสัญญามีขอบเขตสิ้นสุดที่อายุ 85 ปีนะคะ
เราอาจจะต้องเตรียมแผน 2 เผื่อในกรณีที่เราอายุยืนยาวกว่านั้นไว้ด้วยว่าจะไปอยู่อาศัยที่ไหนต่อ ?
และจะต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ ?

Reverse Mortgage สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุ

 

—————————————————–

สนใจจำนอง-ขายฝาก หรือปรึกษาปัญหา ติดต่อเราได้ทาง

Line: @Property4Cash
โทร : 096-813-5989

หรือส่งรายละเอียดทรัพย์มาได้ที่ https://property4cash.co/post-property/

นึกถึงขายฝาก.. นึกถึง Property 4 Cash
ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ถูกกฎหมาย 100%

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://property4cash.co/articles/

หรือ https://facebook.com/propertyforcashofficial

ลงทะเบียนเป็นนักลงทุน

กรุณากรอก ชื่อ
กรุณากรอก นามสกุล
กรุณากรอก เบอร์โทรศัพท์
กรุณากรอก LINE ID
กรุณากรอก อีเมล
บาท
please verify you are human

บทความเเละข่าวสารแนะนำ

29
May 25
เทคนิคการขอสินเชื่อ สร้างเครดิต เพิ่มโอกาสอนุมัติเร็ว

          เทคนิคการขอสินเชื่อ สร้างเครดิต เพิ่มโอกาสอนุมัติเร็ว การขอสินเชื่อไม่ใช่แค่เรื่องของเอกสารครบ แต่ยังรวมถึง “เครดิตทางการเงิน” ที่ดี ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินใช้พิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้กู้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เทคนิคการขอสินเชื่อ พร้อมแนวทางสร้างเครดิตที่ดี เพิ่มโอกาสให้คุณได้รับการอนุมัติเร็วขึ้น 1. รู้จักเครดิตบูโร และความสำคัญของเครดิต เครดิตบูโร คือ ข้อมูลการกู้ยืมและการชำระหนี้ของคุณในอดีต สถาบันการเงินใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัดความเสี่ยง หากมีหนี้เสียค้างชำระ = โอกาสถูกปฏิเสธสูง เทคนิค: เช็คเครดิตของคุณก่อนขอสินเชื่อได้ที่เว็บไซต์ของเครดิตบูโร เพื่อวางแผนปรับปรุงล่วงหน้า   2. วางแผนชำระหนี้ให้ตรงเวลา ประวัติการชำระหนี้ตรงเวลา เป็นตัวชี้วัดเครดิตที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการค้างชำระแม้เพียงรอบเดียวและควรชำระหนี้ขั้นต่ำก่อนกำหนดทุกครั้ง   3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและน่าเชื่อถือ สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองรายได้ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน เทคนิค: หากคุณมีรายได้เสริมหรือฟรีแลนซ์ ควรแนบหลักฐาน เช่น บิลรับเงิน หรือบัญชี […]

อ่านเพิ่มเติม
17
Aug 24
รายละเอียดสัญญาขายฝากที่ดินที่ควรรู้ก่อนทำธุรกรรม สำหรับผู้รับขายฝาก และผู้ขายฝาก

รายละเอียด สัญญาขายฝากที่ดิน ที่ควรรู้ก่อนทำธุรกรรม สัญญาขายฝากที่ดิน เป็นสัญญาที่มีความสำคัญทางกฎหมายและเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่มีมูลค่า การทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ก่อนลงนามจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งผู้รับซื้อฝากและผู้ขายฝากควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ สิ่งที่ผู้รับซื้อฝากควรทราบ กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: แม้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันทีที่ทำสัญญา แต่ผู้ขายฝากยังมีสิทธิไถ่ถอนที่ดินคืนได้ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา ระยะเวลาไถ่ถอน: กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนให้ชัดเจน โดยทั่วไปจะไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี จำนวนสินไถ่: คือจำนวนเงินที่ผู้ขายฝากต้องชำระเพื่อไถ่ถอนที่ดินคืน โดยจำนวนสินไถ่จะต้องไม่น้อยกว่าราคาที่ซื้อฝาก และดอกเบี้ยที่คิดจากราคาซื้อฝากตามอัตราที่กฎหมายกำหนด (ปัจจุบันไม่เกิน 15% ต่อปี) ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน: ผู้รับซื้อฝากเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนสัญญาขายฝากที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน ภาษีที่เกี่ยวข้อง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนี้ครบถ้วนแล้ว การตรวจสอบเอกสาร: ต […]

อ่านเพิ่มเติม
โฉนดติดขายฝาก
28
Aug 24
โฉนดติดขายฝาก ไถ่ถอนไม่ทันภายในระยะเวลาจะเกิดอะไรขึ้น?

โฉนดติดขายฝาก การทำธุรกรรมขายฝากโดยทั่วไปแล้ว สัญญาขายฝากจะมีระยะเวลาในการ ไถ่ถอน ที่กำหนดไว้ชัดเจน หากเจ้าของทรัพย์ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด สัญญาขายฝากจะกลายเป็นเสมือนสัญญาซื้อขายโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่า เจ้าหนี้ (ผู้รับซื้อฝาก) จะถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนั้นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และเจ้าของทรัพย์จะสูญเสียสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นไป แต่การนำอสังหาริมทรัพย์มาทำธุรกรรมขายฝากนั้นก็ไม่ได้เสี่ยงที่ทรัพย์จะตกไปเป็นสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากเสมอไป เนื่องจากเจ้าของทรัพย์สามารถเจรจาหรือคุยกับทางผู้รับซื้อฝากเรื่องขอต่อสัญญาได้ เมื่อทรัพย์ต่อสัญญาขายฝากแล้วก็จะขยายระยะเวลาในการไถ่ถอนออกไปอีก โฉนดติดขายฝาก การต่อสัญญาขายฝาก คือการขยายระยะเวลาในการชำระหนี้และไถ่ถอนทรัพย์สินที่ขายฝากออกไปจากเดิม โดยต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ขายฝาก (เจ้าของทรัพย์เดิม) และผู้ซื้อฝาก (ผู้ให้กู้) นอกจากการขยายสัญญาขายฝากเพื่อไม่ให้ โฉนดติดขายฝาก ไปเป็นสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมการต่อสัญญาด้วย ทรัพย์จะต้องชำระค่าใช้จ่ายการขยายสัญญาเพ […]

อ่านเพิ่มเติม